ปืนสำรองเชือดหงส์ชุดสอง,เชลซีถล่มโบลตัน4-0

 

ผลฟุตบอล คาร์ลิ่ง คัพ รอบ 4


อาร์เซน่อล 2 - 1  ลิเวอร์พูล


"เจ้าบ้าน" อาร์เซน่อลใช้งาน ซามีร์ นาสรี่ กับเอดูอาร์โด้ ดา ซิลวาที่หายเจ็บลงเล่นเป็นตัวจริงโดยมีมิกาแอล ซิลแวสตร์สวมบทกัปตัน ส่วนลิเวอร์พูลมอบปลอกแขนให้เดิร์ก เคาท์สวม และมีดาวิด เอ็นก๊อกที่พังประตูปิดท้ายในเกมแดงเดือดได้ออกสตาร์ตในโผ 11 ตัวแรก ขณะที่อัลแบร์โต้ อาควิลานี่มีชื่อเป็นตัวสำรอง


หงส์แดงเริ่มบุกเข้าหาก่อน และได้เสียวในนาทีที่ 3 เมื่ออังเดร โวโรนินแทงบอลออกกราบขวาโดยมีเอ็นก๊อกสาดเข้าเขตโทษอีกที แต่เคาท์ตามไปวอลเลย์จาก 14 หลาไม่เต็ม ทำให้บอลทะลักออกนอกกรอบ
 

จากนั้นในนาทีที่ 9 ทีมเยือนก็ทิ้งโอกาสทองไปจากจังหวะที่โวโรนินลงต่ำไปล้วงบอลแถวแดนกลางแล้วไหลทะลุช่องให้เอ็นก๊อกควบขึ้นกราบขวา ดาวเตะเมืองน้ำหอมจึงตอกส้นเข้าเขตโทษโดยมีฟิลิป เดเก้นหลุดไปโล่งๆคนเดียวแต่กลับซัดเรียดจาก 14 หลาออกเสาไกลไปอย่างไม่น่าเชื่อ


กระทั่งนาทีที่ 17 อาร์เซน่อลก็ลุยขึ้นมาทางฝั่งซ้ายแล้วทำชิ่งกันเป็นทอดๆเริ่มตั้งแต่คีแรน กิ๊บบส์จ่ายให้ดา ซิลวาแทงเข้าเขตโทษชนิดที่กองหลังหงส์ตามไม่ทันแล้ว แต่สุดท้ายนิคลาส เบนท์เนอร์กลับเกี่ยวบอลสะดุดเท้า จึงหมดสิทธิ์สับไกถูกดีเอโก้ คาวาเลียรี่ตามมาตะครุบซะก่อน


ถึงกระนั้น อีกสองนาทีให้หลัง แฟนปืนใหญ่ก็ได้เฮกันลั่นจากลูกทุ่มด้านขวาของเคียร์เรีย กิลเบิร์ตที่โวโรนินเก็บได้แล้วคอนโทรลบอลแย่ เลยถูกเคร็ก อีสต์มอนด์แย่งไปจ่ายให้ฟราน เมริด้าซัลโวจากเส้นเขตโทษส่งบอลพุ่งเข้าเสียบเสาแรกงดงามเป็นสกอร์นำ 1-0 ของเจ้าบ้าน


โดยรวมแล้ว เกมของลิเวอร์พูลไม่เป็นรอง ในที่สุดนาทีที่ 26 ก็ทวงคืนได้สำเร็จเมื่อไรอัน บาเบิ้ลจ่ายบอลให้เฟเดริโก้ อินซัวพักอกหน้าเขตโทษ แล้วกองหลังอาร์เจนไตน์ได้โอกาสสับไกลูกใบไม้ร่วงจาก 20 หลาหลังเห็นว่าลูคัส ฟาเบียนสกี้ออกมานอกเส้นประตูเยอะจึงกระโดดปัดไม่ถึงส่งผลให้ทีมจากเมอร์ซีย์ไซต์ตีเสมอเป็น 1-1


พอเสียหาย เจ้าบ้านก็เล่นกันได้เหนือกว่า และมีลุ้นในนาทีที่ 37 จากจังหวะที่เบนท์เนอร์ตะบันยัดไส้เข้าใส่มุมแคบในเขตโทษด้านขวา ทว่าบอลพุ่งเข้าอกคาวาเลียรี่ นาทีที่ 43 ทีมเมืองกรุงน่าจะขึ้นนำจากลูกเตะมุมด้านซ้ายที่คาวาเลียรี่ออกมาคว้าพลาดแล้วมีจังหวะชุลมุนอยู่นานก่อนที่เบนท์เนอร์จะได้กลับตัวยิง แต่ส่งบอลไปเข้าซองนายทวารหงส์พอดี ครบ 45 นาทีแรกทั้งสองทีมจึงเจ๊ากันที่ 1-1


ครึ่งหลัง อาร์เซน่อลมาคลำเป้าเพิ่มจนได้ในนาทีที่ 50 เมื่อเมริด้ากระชากบอลขึ้นกราบซ้ายแล้วป้ายเข้าเขตโทษให้เบนท์เนอร์แตะหนีมาร์ติน สเคอร์เทลเข้าไปเข่นระยะแปดหลาเสยเพดานเสาแรกพาอาร์เซน่อลขยับนำ 2-1
 

หงส์แดงยังไม่ยอมยกธง และเกือบทวงคืนได้ในนาทีที่ 55 จากการเลี้ยงบอลขึ้นมาของโวโรนินแล้วทำชิ่งสองรอบกับเดเก้นก่อนที่กองหน้ายูเครนจะสับไกจาก 14 หลาเฉี่ยวเสาไกลออกไป
 

เกมเป็นไปอย่างสนุก ไม่มีเตะถ่วงให้เสียเวลาด้วยกันทั้งสองฝ่าย จวบจนนาทีที่ 66 ลิเวอร์พูลก็เกือบได้ประตูอีกหนจากจังหวะที่นาสรี่ทำฟาวล์เสียฟรีคิกระยะ 30 หลาหน้าเขตโทษด้านซ้าย โวโรนินจึงเขี่ยให้ไรอัน บาเบิ้ลวิ่งเข้าส่องลูกเรียดถูกฟาเบียนสกี้ตะปบที่เสาแรกได้ทัน


เร้ด แมชีนเปลี่ยนผู้เล่นก่อนในนาทีที่ 75 โดยส่งยอสซี่ เบนายูนลงไปพลิกสถานการ์แทนเอ็นก๊อก ขณะที่เจ้าบ้านใช้งานซานเชซ วัตต์กับมาร์ค แรนดอลล์แทนเบนท์เนอร์กับอีสต์มอนด์
 

จากนั้นอีกสองนาที อาควิลานี่ก็ได้แทนที่เปลสซิส แถมกองกลางอิตาลีมีโอกาสกระทุ้งจากหน้าเขตโทษกราบซ้ายด้วยในนาทีที่ 80 แต่ไม่เหนือบ่ากว่าแรงสำหรับฟาเบียนสกี้ นาทีต่อมา โวโรนินได้เก็บตกด้วยการเข่นจากแถวสอง แต่ถูกฟาเบียนสกี้เซฟอีกครั้ง กระทั่งนาทีที่ 87 เจ้าถิ่นก็ใช้งานฟรองซิส โกเกแล็งแทนเมริด้า ขณะที่อาคันตุกะส่งนาธาน เอ็คเคิลสตันลงไปแทนเดเก้น
 

เข้าสู่ช่วงทดเวลาเจ็บ ลิเวอร์พูลโหมบุกหนัก และจากจังหวะขลุกขลิกในเขตโทษของอาร์เซน่อล อาควิลานี่ก็ได้ตีลังกายิงแล้วบอลพุ่งไปกระทบแขนฟิลิป เซ็นเดรอส แต่ผู้ตัดสินมองว่าไม่สมควรเป็นลูกโทษ จบเกมหงส์จึงปีกหักแพ้ปืนใหญ่ 1-2 ตกรอบไปตามระเบียบ


รายชื่อผู้เล่น


อาร์เซน่อล: ลูคัสซ์ ฟาเบียนสกี้ - เคอร์เรีย กิลเบิร์ต, ฟิลืปป์ เซนเดรอส, มิกกาแอล ซิลแวสตร์, คีแรน กิ๊บบ์ส - เคร็ก อีสต์มอนด์, ฟราน เมริด้า, อารอน แรมซี่ย์, ซามีร์ นาสรี่ - นิคลาส เบนด์ทเนอร์, เอดูอาร์โด้ ดา ซิลวา
สำรอง: วอจเซียจ ซิซเซสนี่ (ผู้รักษาประตู) - ไคล์ บาร์ทลี่ย์, ฟรองซิส โกเกแล็ง, มาร์ค แรนดอลล์, ชิลลส์ ซานู, ซานเชซ วัตต์
 

ลิเวอร์พูล: ดีเอโก้ คาวาเลียรี่ - ฟิลิปป์ เดเก้น, มาร์ติน สเคอร์เทล, โซติริออส คีร์เจียกอส, เอมิเลียโน่ อินซัว - เดิร์ค เค้าท์ (กัปตันทีม), เจย์ สเปียริ่ง, ดาเมียง เพลสซิส, ไรอัน บาเบิ้ล - อังเดร โวโรนิน, ดาวิด เอ็นก๊อก
สำรอง: โฆเซ่ เรน่า (ผู้รักษาประตู) - อัลเบร์โต้ อาควิลานี่, ยอสซี่ เบนายูน, สตีเฟ่น ดาร์บี้, อันเดรีย ดอสเซน่า, นาธาน เอ็คเคิลสตัน, ดาเนี่ยล อยาล่า

 


เชลซี 4 - 0 โบลตัน วันเดอเรอร์ส
 

เชลซี เปิดรังรับการมาเยือนของ โบลตัน เกมนี้ คาร์โล อันเชล็อตติ ปรับทัพพอสมควร ส่ง ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ลงตัวจริง รวมถึง โจ โคล ขณะที่ตัวหลักอื่นๆอย่าง แฟร้งค์ แลมพาร์ด หรือ ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา มีชื่อแค่ตัวสำรอง ส่วนทีมเยือน อิวาน คลาสนิช ได้รับโอกาสลงสนามเป็นตัวจริงตามคาด


เปิดฉากขึ้นมา เชลซี เดินเครื่องทันที แต่นาทีแรกก็เสียงฮือฮา เมื่อโจ โคล ลองสับไกจากระยะ 25 หลา ทว่าไปตรงตัว อาลี อัล ฮับซี่ ยังเป็นโอกาสของเชลซีอย่างต่อเนื่อง นาที 10 เดโก้ รับบอลจากแดนกลาง แล้วพลิกยิงตรงกรอบเขตโทษ อาลี อัล ฮับซี่ ยังไม่พลาด


ถึงนาที 15 ความพยายามของเจ้าบ้านมาประสบผล เปาโล แฟร์เรยร่า เปิดบอลจากกราบซ้ายไปถึง ซาโลมง กาลู ขึ้นโหม่งจมตาข่าย 1-0


แปดนาทีต่อมา เชลซีเปลี่ยนตัวคนแรก เอ็นริเก้ อิลาริโอ บาดเจ็บจนเล่นต่อไม่ไหว ต้องเปลี่ยนส่ง รอสส์ เทิร์นบูลล์ ลงมาเฝ้าเสาแทน อย่างไรก็ตามเกมของเจ้าบ้านยังบุกต่อเนื่อง และนาที 26 มาขยับหนีห่างเป็น 2-0 ซาโลมง กาลู หยอดจากริมเส้นเข้ากลาง ฟลร็องต์ มาลุด้า โหม่งเช้ดลูกไปติดบล็อค แซต ไนท์ ก่อนกลับมาเข้าทาง มาลุด้า คราวนี้ซัดเต็มๆเสียบตาข่าย 2-0


โบลตันแทบไม่ได้เปิดเกมรุกเลย นาที 39 เชลซีลุยขึ้นมาอีก เดโก้ จ่ายให้ ซาโลมง กาลู หลุดเข้าไปยิงระยะ 18 หลา ถากเสานิดเดียว จังหวะต่อมา ซาโลมง กาลู สร้างโอกาสให้ตัวเองอีกครั้ง คราวนี้หลุดเข้ากรอบเขตโทษ แล้วยิงจากระยะ 12 หลา ทว่า อาลี อัล ฮับซี่ ปัดออกหลังไปได้ จบครึ่งแรก เชลซีนำ 2-0


เข้าสู่ครึ่งหลัง โบลตัน พยายามเดินเครื่องเข้าสู้บ้าง นาที 54 เกือบตีไข่แตก มาร์ค เดวีส รับบอลจากแดนกลาง ก่อนพลิกเข้ายิงในกรอบเขตโทษ แต่ไปตรงตัว รอสส์ เทิร์นบูลล์ สองนาทีต่อมาสิงห์บลูส์เกือบขยับนำห่าง เดโก้ วางบอลจากกลางสนามให้ ดาเนี่ยล สเตอร์นิดจ์ หลุดเดี่ยว แต่ยิงบดเกินไปลูกถากเสาออกหลัง


ผ่านหนึ่งชั่วโมงแรกมา เชลซี เริ่มครองเกมไว้ได้หมด นาที 62 มิชาแอล เอสเซียง ตัวสำรอง ลองกดจากกรอบเขตโทษ หลุดกรอบหวุดหวิด กระทั่งนาที 67  แฟนเจ้าถิ่นมายิ้มแย้มอีกครั้ง โจ โคล ได้บอลทางซ้าย เปิดไซด์ก้อยเข้ากลาง เลย ดิดิเย่ร์ ดร็อกมา มาถึง เดโก้ ตั้งป้อม กดด้วยขวาเน้นๆเสียบตาข่าย 3-0


สิบห้านาทีสุดท้าย โบลตันมีโอกาสเล็กๆ ลูกเปิดทางริมเส้นของ ริคาร์โด้ การ์ดเนอร์ มาเข้าหัว แซต ไนท์ ขึ้นโหม่ง ทว่าตรงตัว รอสส์ เทิร์นบูลล์ ช่วงทดเจ็บ เชลซี มาได้ประตูปิดท้าย 4-0 จากการโขกของ ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา ตัวสำรองที่เพิ่งส่งลงมา
 

จบเกม เชลซี อัด โบลตัน 4-0 ผ่านเข้ารอบต่อไปได้ตามความคาดหมาย


รายชื่อผู้เล่น


เชลซี : เอ็นริเก้ อิลาริโอ , ชุเลียโน่ เบลเล็ตติ, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, อเล็กซ์, เปาโล แฟร์เรยร่า, เดโก้ ซูซ่า, มิชาเอล บัลลัค, ฟลอรองต์ มาลูด้า, โจ โคล, ซาโลมง กาลู, ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์
สำรอง : รอสส์ เทิร์นบูลล์, มิชาแอล เอสเซียง, แฟร้งค์ แลมพาร์ด, ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา, เนมันย่า มาติช, เจฟฟรีย์ บรูม่า, ฟาบิโอ บอรินี่


โบลตัน : อาลี อัล ฮับซี่, แซม ริกเก็ตต์ส, แซต ไนท์, แกรี่ เคฮิลล์, เจลอยด์ ซามูเอล, ฟาบริซ มูอัมบ้า, เกรตาร์ สไตน์สสัน, มาร์ค เดวีส, ริคาร์โด้ การ์ดเนอร์, แม็ทธิว เทย์เลอร์, อิวาน คลาสนิช
สำรอง : ยุสซี่ ยัสเคไลเน่น, พอล โรบินสัน, โยฮัน เอลมานเดอร์, ทาเมียร์ โคเฮน, อี ชุง-ยอง, คริส บาแช่ม, แอนดี้ โอไบรอัน

 

ผลบอล คาร์ลิ่ง คัพ ทุกคู่ คลิกที่นี่

 

ภาพข่าวจาก http://sports.yahoo.com

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ปืนสำรองเชือดหงส์ชุดสอง,เชลซีถล่มโบลตัน4-0 อัปเดตล่าสุด 29 ตุลาคม 2552 เวลา 09:48:06
TOP