
การแข่งขันฟุตบอลคาร์ลิง คัพ อังกฤษ รอบก่อนชนะเลิศ เมื่อคืนวันพุธที่ 2 ธ.ค.ที่ผ่านมา ผลปรากฏว่า "กุหลาบไฟ" แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส เปิดสนาม อีวูดส์ พาร์ค เอาชนะดวลจุดโทษ "สิงห์บลูส์" เชลซี ไปได้ 4-3 หลังจากในเวลา 120 นาที เสมอกันไปอย่างสนุกสูสี 3-3
เจ้าถิ่นได้ประตูขึ้นนำไปก่อนจากฝีเท้าของ นิโกลา คาลินิช ในนาทีที่ 9 ก่อนที่ เชลซี จะมายิงแซงคืนสองประตูรวด จาก ดิดิเยร์ ดร็อกบา และ ซาโลมง กาลู ในนาทีที่ 48 และ 52 ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม แบร็ตต์ อีเมอร์ตัน มาตีเสมอให้แบล็คเบิร์น ได้สำเร็จ ในนาทีที่ 67 หลังจากนั้น จบเกม 90 นาที เสมอกันอยู่ 2-2 ทำให้ต้องต่อเวลาพิเศษออกไปอีก 30 นาที
แบล็คเบิร์น น่าจะเอาชนะได้แล้วในแมตช์นี้ หลังจากที่ เบเนดิก แม็คคาร์นีย์ ยิงลูกจุดโทษเป็นประตูขึ้นนำให้ทีมในนาทีที่ 93 แต่แล้ว เปาโล แฟร์ไรราก็มาช่วยต่อลมหายใจให้กับทีมเยือน ช่วยทีมไล่ตีเสมอมาเป็น 3-3 จนได้ ก่อนหมดเวลาเพียงไม่กี่อึดใจ
เกมต้องมาตัดสินกันในการดวลจุด โทษ ซึ่งผลปรากฏว่า แบล็คเบิร์น เป็นฝ่ายเอาชนะไปได้ 4-3 โดย เบเนดิก แม็คคาร์นีย์, แบร็ตต์ อีเมอร์ตัน, วินซ์ เกลลา และ เดวิด ฮอยเลตต์ ยิงเข้าไป ขณะที่ นิโกลา คาลินิช ซัดไปติดเซฟ ขณะที่ เชลซี มิชาเอล บัลลัค และ กาเอล กากูตา ซึ่งรับหน้าที่สังหารเป็นคนสุดท้าย ยิงไม่เข้าทำให้ทีมจ่าฝูงพรีเมียร์ลีก มีอันต้องตกรอบไปตามระเบียบ
สรุป 4 ทีมที่ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ มีดังนี้ แอสตัน วิลลา จะพบกับ แบล็คเบิร์น และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะทำศึกดาร์บี้แมตช์กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งทั้งสองคู่จะเตะกันแบบ เหย้า-เยือน ช่วงเดือนม.ค.ปีหน้า
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
แบล็คเบิร์น : โรบินสัน,ซัลกาโด้,แซมบ้า,เนลเซ่น,ชัมบงด้า,เอเมอร์ตัน,เอ็นซอนซี่(ฮีร์เด้น น.91),พีเดอร์เซ่น(เกรลล่า น.62 ),แม็คคาร์ธีย์,โรเบิร์ตส์(ฮอยเลตต์ น.70),คาลินิช
เชลซี : ฮิลาริโอ,เบลเล็ตติ(คาคูต้า น.46),อิวาโนวิช,เปาโล แฟร์เรียร่า,เชอร์คอฟ,โอบี มิเกล,บัลลัค,เดโก้(บรูม่า น.46 ),โจ โคล(ดร็อกบา น.46),กาลู
,มาลูด้า
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก