จากกรณี นายพงษ์พันธ์ วงษ์สุวรรณ ถอนยวงยกทีมออกจากสโมสรฟุตบอล ทีโอที เอฟซี ซบทีม "มนุษย์ไฟฟ้า" การไฟฟ้า บุรีรัมย์ บนเก้าอี้ผู้จัดการทีมเต็มตัว รวมทั้งดึงทายาทเก้าอี้กุนซือทีมฮัลโหล อย่าง "โค้ชต้อม" ณรงค์ สุวรรณโชติ ติดสอยห้อยตามไปด้วยนั้น
รายงาน ข่าวแจ้งว่า ตลอดระยะเวลา 20 ปี ที่นายพงษ์พันธ์ เป็นโค้ชให้กับทีโอที สามารถสร้างผลงานที่ดีและความภาค ภูมิใจให้กับทีโอทีมาโดยตลอด ถึงแม้ในบางครั้งทีมจะตกชั้นลงไปเล่นดิวีชั่น 1 ก็ไม่สร้างความท้อถอยให้นายพงษ์พันธ์ และแม้ระยะเวลาที่ผ่านมา เงินในการทำทีมส่วนใหญ่จะมาจากทีโอที แต่ไม่เต็มที่และมีภาระบนความคาดหวังที่จะต้องสร้างผลงานจำนวนมาก ดังนั้น หลายครั้งที่จะต้องใช้บารมีขอความช่วยเหลือผู้ใหญ่นอกทีโอทีในการสนับสนุน เพื่อทีมจะอยู่รอด
ล่าสุด แหล่งข่าววงในแจ้งว่า การที่นายพงษ์พันธ์ ยกทีมจากทีโอทีไปคุมทีมการไฟฟ้ามีสาเหตุอยู่ 2 ประการ คือ 1. การที่นักการเมืองต้องการสร้างชื่อ เนื่องจากในปีที่ผ่านมา กระแสของไทยพรีเมียร์ลีกโด่งดังมากและมีการรับปากของผู้ใหญ่ในทีโอทีจะยกทีม ให้อยู่ในความดูแลของฝ่ายการเมือง 2. ผลประโยชน์ก้อนใหญ่จากการทำทีมครั้งนี้
จากเหตุผลดังกล่าว ปีที่แล้วกระแสฟุตบอลไทยโด่งดัง จึงทำให้ทีโอที ให้ความสำคัญต่อฟุตบอลมากขึ้น ในปีนี้ มีการเตรียมเพิ่มงบประมาณจากเดิม 20 ล้านบาท เป็น 50 ล้านบาท ขั้นตอนอยู่ระหว่างเสนอเข้าคณะกรรมการบริหาร (บอร์ดทีโอที)ในวันนี้ (8 มค. 53) ซึ่งสิ่งนี้เป็นการดีที่มีการสนับสนุนอย่างจริงจัง แต่ถ้าคำนึงถึงการเพิ่มงบประมาณให้กับทีมงาน ที่ครั้งหนึ่งเคยช่วยทำทีม แต่เมื่อทีมประสบปัญหาเรื่องการเงินกลับหายหน้าไป รวมถึงการเบิกจ่ายเงินก้อนนี้ ไม่จำเป็นที่จะต้องชี้แจ้งผู้บริหารทีโอที โดยผู้บริหารทีมมีอำนาจเต็มในการจัดการ ก็เป็นสิ่งที่ต้องจับตาใกล้ชิด
อย่างไรก็ตาม งบประมาณการทำทีมฟุตบอลทีโอทีก้อนใหญ่นี้ มากกว่างบทำธุริกิจของหน่วยงานเกมส์ออนไลน์ซึ่งทำรายได้ให้กับทีโอทีทั้งปี ในสภาวะเศษรฐกิจแบบนี้เหมาะสมแล้วหรือ จึงเป็นเรื่องน่าแปลกว่า ทีโอที ไม่จำเป็นในการจะต้องลงทุนเงินจำนวนมหาศาลขนาดนี้ด้วยเงินของทีโอทีเอง แต่ทีโอทีสามารถใช้เงินจำนวนเท่าเดิมไม่เกิน 10 ล้านบาทและแสวงหาผู้สนับสนุนทีมจากที่อื่นๆ อย่างเช่น บริษัท สามารถ , ซิสโก้ (Cisco), Forth, NEC, JRW, HUEWEI,ยูคอมและเพชราวุธ ก็ได้ ซึ่งทุกบริษัทได้รับผลประโยชน์จำนวนพันกว่าล้านบาทในทุกปี
ในเรื่องดังกล่าวประธานบอร์ด ทีโอที นายธีรวุฒิ บุญยโสภณ คงต้องพิจารณาเรื่องนี้อย่างรอบครอบ ท่ามกลางปัญหาในทีโอทีหลายเรื่องเข้ามาและงบประมาณอันจำกัด ทั้งเรื่องการเปิดประมูล MSAM อุปกรณ์ติดตั้งชุมสายโทรศัพท์สำหรับเปิดให้บริการบรอดแบนด์ที่ถูกครหาว่าไม่ โปร่งใส รวมทั้งข้อสงสัยถึงการแต่งตั้งผู้บริหารบางตำแหน่งในองค์กร ซึ่งมีการเว้นว่างไว้เพื่อรอใครบางคนในหน่วยงาน 3G ซึ่งทุกเรื่องอยู่ภายใต้ท่านประธานต้องสะสาง
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
