ที่อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (คุญย่าโม) เขตเทศบาลนครนครราชสีมา อ.เมืองฯ นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานคณะกรรมการอำนวยการจัดการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 40 และประธานที่ปรึกษาสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อมด้วย พล.ต.คมสัน มานวกุล รองแม่ทัพภาคที่ 2 , นายสุรวุฒิ เชิดชัย นายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา , นายบัญชา พิมพ์สมบูรณ์ ผอ.กกท.ภาค 3 ร่วมกันให้การต้อนรับคณะสมาคมฟุตบอล ผู้จัดการทีม โค้ช สต๊าฟโค้ช และคณะนักกีฬาฟุตบอลทีมชาติไทยครบทีม นำโดยนายดัสกร ทองเหลา โก้ กัปตันทีมที่เดินทางไปกราบสักการะอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี(คุณย่าโม) สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง พร้อมกันนี้ได้ร่วมกันบวงสรวง เพื่อเป็นสิริมงคล
โดยทันทีที่เดินทางมาถึงได้รับการต้อนรับเรียก เสียงไชโยจากพี่น้องประชาชน ที่เป็นแฟนบอลจำนวนมากกว่า 300 คน ต่างพากันรุมขอถ่ายรูปนักบอลคนดัง และขอลายเซ็น โดยเฉพาะ นักฟุตบอลคนดัง นายธีรเทพ วิโณทัย ลีซอ" สุธี สุขสมจิตร, ดัสกร ทองเหลา "โก้" เป็นต้น โดยมีการโหมโรงบรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก
พร้อมกันนี้นายดัสกร ทองเหลา กัปตันทีมชาติไทยได้นำคณะนักกีฬาทั้งหมดจุดธูปเทียนปิดแผ่นทอง สักการะบูชาและขอพรให้สัมฤทธิ์ผลในการการชิงชัยครั้งนี้ได้รับชัยชนะ และร่วมถ่ายภาพเป็นที่ระลึก
ต่อจากนั้นนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ เป็นประธานแถลงข่าวว่า ความพร้อมนักกีฬาพร้อม สนามพร้อม กองเชียร์พร้อม การรักษาความปลอดภัยพร้อม โดยมีนายวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอล ,ไบรอัน ร็อบสัน หัวหน้าสต็าฟโค้ช , นายบัญชา พิมพ์สมบูรณ์ ผอ.กกท.ภาค 3 และ พ.ต.อ.วณัฐ อรรถกวิน รอง ผบก.นครราชสีมา ร่วมแถลงข่าวมีความพร้อมทุกด้าน
ด้าน นายดัสกร ทองเหลา กล่าวว่า ทัวร์นาเมนต์นี้ถือว่าสำคัญมากเราต้องพยายามเอาแชมป์ให้ได้ ซึ่งทุกคนพร้อมที่จะเล่นเต็มที่ โดยเฉพาะสภาพร่างกายของนักเตะทุกคนฟิตมาก โดยเฉพาะเรายังมีเวลาอีก 2 3 วันน่าจะปรับเทคนิคเข้ากันได้ทั้งสนามขณะลงทำการเล่น อย่างไรก็ตาม ช่วงนี้จะต้องปรับสภาพร่างการและความสามารถเฉพาะตัว ความว่องไว ต่างๆ เพื่อให้เข้ากับสภาพสนามแข่ง
ส่วนจุดอ่อนของทีมคู่แข่งอย่างเดนมาร์ก หรือ แม้แต่สิงคโปร์ ที่เราจะทะลุทะลวงเข้าไปทำประตูชัยอะไรนั้น ตอนนี้เรายังไม่ทราบว่าคู่แข่งเขาเล่นอย่างไร ซึ่งคงต้องขอดูก่อน แต่ว่าในส่วนของสิงคโปร์เราพอรู้แล้ว แต่ว่าโปแลนด์ยังไม่รู้ แต่ว่าพอถึงแม็ตช์แล้วก็คงมีเวลาศึกษาอ่านเกมเขาได้ทัน อย่างไรก็ตาม คิดว่า ทุกทีมน่ากลัวหมด
ต่อข้อถามว่า ฝ่ายเดนมาร์ก ก็มองว่าทีมไทยน่ากลัวเหมือนกัน มองอย่างไร "เจ้าโก้" ตอบว่า ทุกทีมน่ากลัว อยู่ที่ว่าทีมไหนจะมีโอกาสดีมากกว่ากัน
เจ้าโก้ กล่าว "เราเองก็มีความมั่นในการแข่งขันครั้งนี้ และเป็นถ้วยพระราชทานคิงส์คัพด้วย ทุกคนก็พร้อมเต็มที่ เรายืนยันว่าแม็ตช์นี้พยายามทำงานให้ออกมาดี และพยายามที่จะคว้าแชมป์ให้ได้ อย่างไรก็ตามหลายฝ่ายมองว่า ช่วงระยะเวลาสั้นมากปัญหากับทีมเวิร์คนั้น ผมว่ามันไม่น่าจะมีปัญหา เพราะเราทุกคนก็อยู่ด้วยกันมาก็พอรู้แล้วว่า ใครจะต้องเล่นอย่างไร และทาง ไบรอัน ร็อบสัน เองเขาก็พยายามปรับแทคติกต่างๆ ให้เข้ากับทุกคน คนไหนเล่นอย่างไรเขาก็พยายามปรับแทคติกให้เขากับทีม ผมคิดว่ากว่าจะถึงวันแข่งก็มีเวลา 2 3 วัน ร็อบสัน คงจะรู้ว่าเขาจะต้องทำอะไรบ้าง"
เพลย์เมเกอร์ ทีมชาติไทย กล่าวต่อว่า "ปัญหาการจบสกอร์เป็นปัญหาของทีมอยู่แล้ว ทุกคนก็รู้อยู่แล้ว แต่ว่าทางโค้ชไบรอัน เองก็กำชับทุกคน ถ้ามีโอกาสเขาก็พยายามสอนว่า โอกาสนั้นเราอย่าปล่อยให้หลุดลอย ซึ่งความหวังคิงส์คัพครั้งนี้เราก็ต้องได้แชมป์อยู่แล้ว โดยเฉพาะทีมก็หวังว่า แชมป์นี้จะเป็นอะไรหลายอย่างที่คืนให้กับแฟนบอล ในฐานะกัปตันทีมชาติไทย สำหรับแฟนบอลชาวไทยทุกคน โดยเฉพาะแฟนบอลที่จะตามมาเชียร์ทีมชาติไทยที่ จ.นครราชสีมา และ แฟนบอลชาว จ.นครราชสีมา เอง ตนรู้สึกอยากเห็นแฟนบอลเข้ามาเชียร์กันมากๆ เพื่อเป็นกำลังใจให้นักฟุตบอลและเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักบอลทีมชาติไทยต่อ ไป ตนเรียนว่าเราทุกคนเต็มที่อยู่แล้ว"
ด้าน สุธี สุขสมกิจ กล่าวเสริมว่า "ทัวร์นาเมนต์นี้ได้กลับมาเล่นที่เมืองไทยแล้วจะมีเวลาอยู่กับทีมชาติมาก ขึ้น เราก็อยากจะได้แชมป์กลับมา เพื่อเป็นกำลังใจและให้กับแฟนฟุตบอลชาวไทย และปลุกกระแสฟุตบอลไทยให้กลับมาอีกครั้งหนึ่ง ส่วนคิงส์คัพคราวนี้ประเทศที่น่ากลัวก็คิดว่าน่าจะเป็นเดนมาร์ก เพราะแชมป์เก่า และเขามีรูปร่างสูงใหญ่ แต่ว่าถ้าเราผ่านได้ตนว่า เล่นคิงส์คัพครั้งนี้จะเป็นบทแบบทดสอบที่ดี และเพื่อที่จะเตรียมตัวไปแข่งกับอิหร่าน ที่เขามีรูปร่างสูงใหญ่เหมือนกัน"
