เรือใบสอยโบลตันขึ้นทาบหงส์,เจ้าสัวรัว3-0

 

ฟุตบอล  พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ


แมนฯ ซิตี้ 2 - 0 โบลตัน


ที่สังเวียนซิตี้ ออฟ แมนเชสเตอร์ "เรือใบสีฟ้า" แมนฯ ซิตี้ปรับโผจากเกมที่พ่ายฮัลล์ ซิตี้โดยส่งสองแข้งใหม่ปาทริค วิเอร่ากับอดัม จอห์นสันลงเล่นเป็นตัวจริงหนแรก แต่ทั้งนี้เรือใบสีฟ้าได้โจลีออน เลสค็อตต์หายเจ็บกลับมานั่งเป็นตัวสำรองร่วมกับฌอน ไรท์ ฟิลลิปส์ และสตีเฟ่น ไอร์แลนด์ ขณะที่เคร็ก เบลามี่เดี้ยง

 
ส่วนโบลตันประสบปัญหาขาดแกรี่ เคฮิลล์กองหลังคนสำคัญที่ป่วย แถมวลาดิเมียร์ ไวส์ที่ยืมมาจากทีมเงินถังก็ดวลกับต้นสังกัดที่แท้จริงตามกฏไม่ได้ แต่แจ็ค วิลเชียร์ที่ยืมมาจากอาร์เซน่อลได้ออกสตาร์ตเป็นตัวจริง

 
เกมเริ่มต้นแบบเนือยๆ แต่เจ้าบ้านได้เสียวในนาทีที่ 14 จากจังหวะที่คาร์ลอส เตเวซไหลบอลเข้าเขตโทษด้านซ้ายให้แกเร็ธ แบร์รี่สอดเข้าซัดถูกแซ็ต ไนท์เข้ามาบล็อคได้ทัน ผ่านมาอีกสามนาที เดอะ ทร็อตเตอร์สก็หาโอกาสตอบโต้บ้างจากลูกยิงระยะ 25 หลาของโยฮัน เอลมานเดอร์ ทว่าบอลพุ่งเรียดออกนอกกรอบ

 
รูปเกมของทั้งสองฝ่ายยังไร้พิษสงไม่เลิก ชวนให้น่าง่วงสิ้นดี กระทั่งนาทีที่ 31 จอห์นสันก็พาบอลลุยขึ้นทางขวาหนีวิลเชียร์หลุดเข้าเขตโทษได้แล้วมีพอล โรบินสันเข้ามาแหย่ขาดักที่เส้นหลังเปิดโอกาสให้ปีกเรือใบถลาล้มเรียกลูกโทษได้พอดี

 
และจากลูกโทษจังหวะนี้ เตเวซก็วิ่งเข้ากดเต็มแรงไปที่กลางประตู แม้ยุสซี่ ยัสเคไลเน่นจะไม่ได้ขยับไปไหน แต่ด้วยความแรงบอลจึงกระทบตัวนายทวารทีมเยือนทะลักเข้าสู่ตาข่ายให้เจ้าบ้านนำ 1-0

 
โบลตันเดินหน้าหมายทวงคืนทันที และเกือบได้เฮจากลูกเตะมุมด้านซ้ายในนาทีที่ 38 ซึ่งหลุดออกมาหน้าเขตโทษให้ฟาบริซ มูอัมบ้ากระทุ้งเต็มเกือกแฉลบแว็งซ็องต์ กอมปานี แต่บอลไม่เปลี่ยนทิศจึงถูกเชย์ กิฟเว่นปัดทิ้งได้

 
พริบตาต่อมา เรือใบสีฟ้าเกือบหนีห่างไปอีกเม็ดจากลูกโยนยาวของเวย์น บริดจ์ที่ซามูเอล ริกเก็ตต์สโขกสกัดไม่ดี หลุดเข้าแดนตัวเองให้เอ็มมานูเอล อเดบายอร์เก็บตกอัดเต็มข้อจาก 18 หลา แต่บอลเฉี่ยวออกไป จบครึ่งแรกทีมเจ้าบุญทุ่มจึงนำอยู่ 1-0

 
ครึ่งหลังทีมเรือใบได้ลุ้นก่อนในนาทีที่ 53 จากการโขกสกัดลูกโด่งของไนท์ที่ลอยออกมาหน้าเขตโทษแล้วทามีร์ โคเฮนพยายามพักอกแต่ยื่นแขนไปโดนบอลจึงเสียลูกฟรีคิกระยะ 30 หลา ทว่าเตเวซกระหน่ำไปชนคานทั้งๆที่ยาสเคไลเน่นไม่ได้ขยับแล้ว

 
อย่างไรก็ดี อีกสองนาทีถัดมาโคโล่ ตูเร่ก็เล่นต่อไม่ไหวหลังเจ็บมาตั้งแต่ต้นครึ่งหลังจึงเดินออกไปให้เลสค็อตต์ลงมาแทนโดยมีกิฟเว่นรับช่วงเป็นกัปตัน กระทั่งนาทีที่ 62 มูอัมบ้าก็รับใบเหลืองโทษฐานสะกิดจอห์นสันล้มที่ริมสนาม ก่อนที่เจ้าถิ่นจะเปลี่ยนไรท์ ฟิลลิปส์ลงไปแทนบริดจ์ในนาทีที่ 69 พร้อมทั้งย้ายแบร์รี่ไปสวมบทแบ็คซ้าย

 
ถึงตรงนี้ รูปเกมของแมนฯ ซิตี้กลับมาดีขึ้นอีกรอบหลังถูกโบลตันอาศัยลูกโด่งโจมตีจนรวนเรไปพักหนึ่ง จวบจนนาทีที่ 73 วิเอร่าก็ตักบอลยาวให้อเดบายอร์วิ่งสวนการเช็คล้ำหน้าที่ผิดพลาดของริกเก็ตต์เข้าไปวอลเลย์ผ่านแสกหน้ายาสเคไลเน่นเป็นสกอร์นำ 2-0 ของแมนฯ ซิตี้

 
เริ่มดวลกันใหม่ทีมเยือนก็เปลี่ยนโคเฮนออกให้มาร์ค เดวิสลงไปแทน แต่นาทีที่ 75 โรบินสันก็ได้ใบเหลืองเมื่อเข้าสอยไรท์ ฟิลลิปส์จนตัวลอย

 
โบลตันเปลี่ยนผู้เล่นอีกรายโดยส่งแม็ตธิว เทย์เลอร์ลงไปแทนวิลเชียร์ในนาทีที่ 78 แต่สุดท้ายก็พังประตูคืนไม่ได้ จบเกมเรือใบจึงกำชัย 2-0 ทำแต้มเท่ากับลิเวอร์พูลโดยมีเกมตุนอยู่อีกนัด แต่ประตูได้เสียเป็นรองหงส์แดง

 

ฟูแล่ม 3 - 0 เบิร์นลี่ย์


"เจ้าสัวน้อย" ฟูแล่ม มีปัญหาผู้เล่นเจ็บกันเยอะ แต่ได้ ไซม่อน เดวิส กองกลางหายเจ็บกลับมา โดยคู่หน้าส่ง เดวิด เอล์ม หัวหอกชาวสวีเดนลงตัวจริงเป็นเกมที่ 2 ติดต่อกัน สำหรับ เบิร์นลี่ย์ จัดวาง สตีเว่น เฟล็ทเชอร์ กับ เดวิด นิวเจนท์ ล่าตาข่าย

 
ออกสตาร์ทครึ่งแรกได้แค่ 8 นาที เจ้าสัวน้อย ได้ลุ้นก่อนจากจังหวะที่ เดเมี่ยน ดั๊ฟฟ์ พลิ้วเข้าไปทางกรอบเขตโทษด้านขวาก่อนซัดด้วยขวาบอลหลุดเสาสองไป หลังจากนั้น 5 นาที อองเดร บิเกย์ กองกลางทีมเยือนหวดด้วยขวาจากระยะ 20 หลา บอลออกเสาสองไป

 
ฟูแล่ม ยังทำได้ดีกว่าเล็กน้อย เดวิด เอล์ม ดาวยิงสวีดิชตะบันไกลจากระยะ 25 หลา ทว่า ไบรอัน เยนเซ่น นายทวารของเบิร์นลี่ย์ ป้องกันได้ในนาทีที่ 21 สองนาทีต่อมา เจ้าสัว ขึ้นนำจนได้ เดวิด เอล์ม จ่ายบอลให้กับ แดนนี่ เมอร์ฟี่ กองกลางตัวเก่งสอดขึ้นมายิงด้วยขวาจากระยะ 12 หลา ลูกเรียดเสียบมุมซ้ายงามหยดให้ฟูแล่ม นำแล้ว 1-0

 
ผ่านมา 28 นาที ดิ๊คสัน เอตูฮู ของฟูแล่ม ลองส่องไกลระยะประมาณ 25 หลา แต่ว่า ไบรอัน เยนเซ่น นายทวารเบิร์นลี่ย์ เซฟได้อย่างยอดเยี่ยม

 
เกมของเจ้าบ้านเหนือกว่ามาได้ประตูที่สองในนาทีที่ 31 บ็อบบี้ ซาโมร่า กระทุ้งด้วยซ้ายโดน ไบรอัน เยนเซ่น นายทวารทีมเยือนปัดออกมาเข้าทางของ เดวิด เอล์ม ตามซ้ำด้วยซ้ายบอลเรียดเข้ากลางประตูให้ฟูแล่ม นำ 2-0
 

นาทีต่อมา เบิร์นลี่ย์ เปลี่ยนเอา คริส อีเกิ้ลส์ ลงมาเล่นแทน ลีออน คอร์ต ท้ายครึ่งแรก นาทีที่ 37 เบิร์นลี่ย์ ได้ฟรีคิกระยะ 25 หลาทางซ้าย ดาเนี่ยล ฟ็อกซ์ ปั่นด้วยอีซ้ายบอลไซด์หากรอบ แต่ว่า มาร์ค ชวาร์เซอร์ นายทวารฟูแล่ม รับไว้ได้

 
ทีมเยือนน่าได้ประตูไล่คืนมาในนาทีที่ 42 เมื่อ ดิ๊กสัน เอตูฮู เข้าสกัดฟาวล์ใส่ สตีเว่น เฟล็ทเชอร์ ผู้ตัดสินชี้เป็นฟรีคิกทางด้านซ้ายของกรอบเขตโทษ  ก่อนที่ ไทโรน เมียร์ส จะปั่นไปชนเสากระดอนออกมาอย่างเสียดาย

 
นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก ไซม่อน เดวิส ปีกตัวเก๋าชาวเวลส์ซัดด้วยซ้ายจากระยะ 20 หลา บอลข้ามคานไป ครบ 45 นาที ฟูแล่ม นำก่อน 2-0

 
มาลุยกันต่อในครึ่งหลัง เจ้าสัวน้อย ออกตัวได้แรงเหมือนเดิมก่อนได้ประตูที่สามในนาทีที่ 54 จากจังหวะที่ เอ็ดการ์ ไปทำฟาวล์ บ็อบบี้ ซาโมร่า ล้มลง ผู้ตัดสินเป่าให้เป็นฟรีคิกของเจ้าบ้าน ก่อนที่ ซาโมร่า จะลุกมาปั่นด้วยซ้ายจากระยะ 25 หลา บอลเสียบมุมซ้ายให้ ฟูแล่ม นำกระจาย 3-0

 
สามนาทีต่อมา คริส อีเกิ้ลส์ ตัวสำรองของเบิร์นลี่ย์ ได้ส่องจากระยะ 25 หลากดไม่ลงบอลข้ามคานไป โอกาสของฟูแล่ม มีมากกว่า เดเมี่ยน ดั๊ฟฟ์ ตัวทีมชาติไอร์แลนด์ พลิ้วเข้าไปสับด้วยซ้ายจากระยะ 20 หลา ทว่า เควิน แม็คโดนัลด์ ตามมาเหยียดขาขวางไว้ในนาทีที่ 67

 
เวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรเพิ่มมิได้ จบเกม ฟูแล่ม ต้อน บาร์นสลี่ย์ หายห่วง 3-0 เก็บสามแต้มแบบนิ่มแข้ง
 
 
รายชื่อผู้เล่น


ฟูแล่ม : มาร์ค ชวาร์เซอร์ - คริส แบร์ด, เบรเด้ ฮังเกลันด์, อารอน ฮิวจ์ส, นิคกี้ ชอรี่ย์ - เดเมี่ยน ดัฟฟ์, ดิ๊กสัน เอตูฮู, แดนนี่ เมอร์ฟี่ย์, ไซม่อน เดวิส -  บ็อบบี้ ซาโมร่า, เดวิด เอล์ม
สำรอง : ปาสกาล ชูแบร์บูห์เลอร์ (ผู้รักษาประตู) - สตีเฟ่น เคลลี่, สเตฟาโน่ โอกาก้า, เอริค เนฟแลนด์, โจนาธาน กรีนิ่ง, คริส สมอลลิ่ง, บียอร์น เฮลเก้ รีเซ่

 
เบิร์นลี่ย์ : ไบรอัน เยนเซ่น - ไทโรน เมียร์ส, ลีออน คอร์ต, คล้าร์ก คาร์สไล, เดวิด เอ็ดการ์ - เวด เอลเลียตต์, อองเดร บิเกย์, เควิน แม็คโดนัลด์, ดาเนี่ยล ฟ็อกซ์ - สตีเว่น เฟล็ทเชอร์, เดวิด นิวเจนท์
สำรอง : นิคกี้ วีฟเวอร์ (ผู้รักษาประตู) - ไมเคิ่ล ดัฟฟ์, มาร์ติน เพเตอร์สัน, ร็อบบี้ เบล็ค, สตีเว่น ธอมป์สัน, คริส อีเกิ้ลส์, แจ็ค คอร์ค

 

ภาพข่าวจาก http://sports.yahoo.com

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เรือใบสอยโบลตันขึ้นทาบหงส์,เจ้าสัวรัว3-0 โพสต์เมื่อ 10 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา 10:26:40
TOP