ฟุตบอลยูฟ่า ยูโรป้า ลีก รอบ 32 ทีมสุดท้ายนัดสอง
ยูนิเรีย อูร์ซิเชนี่ 1 - 3 ลิเวอร์พูล
(รวม 2 นัด ลิเวอร์พูล เข้ารอบด้วยประตูรวม 4-1)
คลิปฟุตบอล ยูนิเรีย1-3 ลิเวอร์พูล ยูโรป้า ลีก นัดสอง
http://football.kapook.com/clipvdo_inside.php?qid=28371
ยูนิเรีย อูร์ซิเชนี่ กลับมาเปิดบ้านล้างแค้น ลิเวอร์พูล หลังจากนัดแรกบุกไปแพ้ที่ แอนฟิลด์ มา 0-1 โดยเกมนี้เจ้าถิ่นจัดชุดใหญ่ลงสนามมี มาริอุส บิลาสโก้ เป็นหน้าเป้า ขณะที่ทีมเยือนก็ใช้ชุดใหญ่ลงเล่นเต็มสูบ ยกเว้นแดนหน้าที่ใช้ ดาวิด เอ็นก็อก ลงล่าตาข่าย ส่วน เฟร์นานโด ตอร์เรส เป็นแค่สำรอง
เปิดฉากขึ้นมา 2 นาที เจ้าถิ่นส่งสัญญาณเตือนอย่างรวดเร็ว โซริน ฟรุนซ่า เก็บตกยิงเต็มข้อเหินข้ามคานออกไปนิดเดียว นาทีถัดมาเป็นโอกาสของ หงส์แดง บ้าง สตีเว่น เจอร์ราร์ด ได้บอลในเขตโทษ โยกเข้าเท้าขวาแล้วซัดเต็มๆ แต่ กีดริอุส อาร์เลาสกี้ส์ ล้มตัวเซฟเอาไว้ได้
ถึงนาทีที่ 19 ยูนิเรีย ก็มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากลูกเตะมุมทางด้านซ้าย บรูโน่ แฟร์นันเดส เทกตัวได้สูงที่สุด ก่อนจะโหม่งเต็มศีรษะเสียบตาข่าย โดยที่ โฆเซ่ เรน่า ได้แต่ยืนมอง เจ้าถิ่นต้องเปลี่ยนตัวคนแรกในนาทีที่ 28 จอร์จ กาลามาซ กองหลังบาดเจ็บเล่นต่อไม่ไหว เออร์ซิน เมห์เมโดวิช ต้องลงมาเล่นแทน
ลิเวอร์พูล เน้นเกมบุกบ้าง จนกระทั่งนาทีที่ 30 ก็มาได้ประตูตีเสมอ 1-1 จากจังหวะที่กองหลังเจ้าถิ่นเตะสกัดไม่ดีตั้งออกมาหน้าเขตโทษให้ ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ ยิงไกลด้วยเท้าขวาจากระยะ 30 หลาสวนกลับเข้าไปเสียบตาข่ายอย่างสุดสวย
หลังจากนั้น เจ้าถิ่นกลับมาโหมบุกหนัก และได้ลูกเตะมุมติดๆ กันหลายครั้ง แต่พอถึงนาทีที่ 40 หงส์แดง กลับมาได้ประตูแซงนำ 2-1 จากฟรีคิกทางกราบขวาของ สตีเว่น เจอร์ราร์ด กองหลังเจ้าถิ่นโหม่งสกัดไม่ดีอีก ไรอัน บาเบล เกี่ยวติดเท้าแล้วตวัดยิงด้วยขวาทีเดียวเสียบตาข่าย จบครึ่งแรก ลิเวอร์พูล กลับมานำ 2-1
กลับมาเล่นในครึ่งหลัง หงส์แดงพังสกอร์ขาดเป็น 3-1 ในน.57 เป็นความยอดเยี่ยมของ ยอสซี่ เบนายูน ที่ลากบอลตัดเข้ามาในสกรอบเขตโทษก่อนเปิดให้ เจอร์ราร์ด ยิงลูกเรียดบอลเสียบเสาแรก อีก 3 นาทีต่อมา ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ รับใบเหลือง จังหวะต่อมาสเคอร์เทล โดนเสียบหนักเล่นต่อไปไม่ไหวลงแปลหามออกจากสนามทำให้ต้องส่ง โซติริออส คีร์เกียกอส เล่นแทน
เจ้าถิ่นยังไม่ถอดใจ แฟร์นันเดส สบโอกาสกดในเขตโทษแต่ติดบอล คีร์เกียกอส ในน.77 ราฟา ถอด เบนายูน ออกแล้วส่ง ฟาบิโอ ออเรลิโอ แทน ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีสกอร์เพิ่ม จบเกม ลิเวอร์พูลบุกมาถล่ม ยูนิเรีย อูร์ซิเซนี่ ขาดลอย 3-1 ทำให้ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมด้วยสกอร์รวม 4-1
รายชื่อผู้เล่น
ยูนิเรีย : กีดริอุส อาร์เลาสกี้ส์, วาซิเล่ มาฟเต, วาเลริยู บอร์เดียนู, บรูโน่ แฟร์นันเดส, จอร์จ กาลามาซ (เออร์ซิน เมห์เมโดวิช น.27), โซริน ปาราสชิฟ (ริคาร์โด้ วิลาน่า น.56), มาริอุส โอโนฟราส (อันโตนิโอ เซเมโด้ น.62), โซริน ฟรุนซ่า, ยูเลียน อปอสตอล, รัซวาน ปาดูเรตู, มาริอุส บิลาสโก้
สำรองไม่ได้ใช้ : ดาเนี่ยล ทูดอร์, , ราอูล รูเซสคู, เอปามินอนด้า นิคู, ลอเรนติยู มาริเนสคู
ลิเวอร์พูล : โฆเซ่ เรน่า, เจมี่ คาร์ราเกอร์ (มาร์ติน เคลลี่ น.62), มาร์ติน สเคอร์เทล (โซติริออส คีร์เกียกอส น.66), ดาเนี่ยล แอ็กเกอร์, เอมิเลียโน่ อินชัว, ฮาเวียร์ มาสเคราโน่, ลูคัส เลว่า, ยอสซี่ เบนายูน (ฟาบิโอ ออเรลิโอ น.77), สตีเว่น เจอร์ราร์ด, ไรอัน บาเบล, ดาวิด เอ็นก็อก
สำรองไม่ได้ใช้ : ดิเอโก้ คาวาเลียรี่, อัลแบร์โต้ อควิลานี่, เดิร์ค เค้าท์, เฟร์นานโด ตอร์เรส
โรม่า 2 - 3 พานาธิไนกอส
(รวมผล 2 นัด พานาธิไนกอส เข้ารอบด้วยประตูรวม 6-4 )
โรม่า เปิดบ้านรอรับ พานาธิไนกอส โดยที่ต้องเอาชนะให้ได้ หลังบุกไปพ่ายมาก่อนในนัดแรก 2-3 เกมนี้ไม่มี ฟรานเชสโก้ ต๊อตติ ที่ยังไม่หายเจ็บ ทำให้ต้องฝากความหวังไว้กับ มีร์โก วูชินิช ส่วนทีมเยือนมีตัวทีเด็ดอยู่ที่ ฌิบริล ซิสเซ่ เหมือนเดิม
เจ้าถิ่นมาได้ฟรีคิกระยะราว 30 หลาในนาทีที่ 11 หลัง อเลสซิโอ แชร์ชี่ ไปถูก นิกอส สปิโรปูลอส ทำฟาวล์ และเป็น ดานิเอเล่ เด รอสซี่ ที่เขี่ยให้ ยอห์น อาร์เน่ รีเซ่ วิ่งเข้ามาซัดด้วยซ้าย บอลพุ่งเสียบตาข่ายอย่างสวยงาม ขึ้นนำ 1-0
"หมาป่าเหลือง-แดง" ยังไม่เพลาเกมบุก มัตเตโอ บริกี ลองส่องไกลนอกกรอบเขตโทษ บอลพุ่งเฉี่ยวเสาออกหลังไป ผู้มาเยือนตอบโต้บ้าง จากลูกเตะมุม ซิเมา ได้ยิงด้วยขวา ดิมิทริส ซัลปินกิดิส พยายามจะแหย่ขาเปลี่ยนทาง แต่ไม่ถึงทำให้บอลผ่านหน้าประตูออกหลังไปหวุดหวิด
พานาธิไนกอส มาได้จุดโทษในนาทีที่ 40 หลัง โซติริส นินิส ไปถูก เด รอสซี่ ทำฟาวล์ในกรอบเขตโทษ โดยเป็น ซิสเซ่ ที่รับหน้าที่สังหารไม่พลาด ตีเสมอเป็น 1-1
3 นาทีต่อมา ทีมเยือนพลิกขึ้นนำเป็น 2-1 คราวนี้ นินิส ไปฉกบอลได้จาก มาร์โก คาสเซ็ตติ ก่อนสับไกด้วยขวาระยะถนัด บอลพุ่งเสียบตาข่ายไม่เหลือ หมดสิทธ์ที่ อเล็กซานเดอร์ โดนี่ จะเซฟไว้ได้
ช่วงทดเจ็บของครึ่งแรก ผู้มาเยือนจากแดนเทพนิยายมาบวกเพิ่มได้อีกเม็ด แชร์ชี่ ไปเสียบอลให้กับ นินิส ก่อนจ่ายให้คู่ขา ซิสเซ่ หลุดกัปดักล้ำหน้าเข้าไปยิงตุงตาข่าย พร้อมกับเป็นประตูที่ 2 ในเกมนี้ของเจ้าตัวด้วย จบ 45 นาทีแรก พานาฯ ออกนำไปก่อน 3-1
ครึ่งหลัง เคลาดิโอ รานิเอรี่ แก้เกมด้วยการถอด บริกี ออก พร้อมกับส่ง ชูลิโอ บาปติสต้า ลงมาแทน เน้นรุกเต็มสูบ พลพรรค "จัลโล่รอสซี่" ได้โอกาสทันที เด รอสซี่ เปิดให้ แชร์ชี่ กระหน่ำด้วยซ้าย แต่ อเล็กซานดรอส ซอร์วาส ป้องกันได้อย่างยอดเยี่ยม
ถัดมา แชร์ชี่ หลุดเข้าไปยิงบริเวณจุดโทษ บอลยังไม่ผ่านมือ ซอร์วาส เหมือนเดิม เจ้าบ้านไล่ขึ้นมาเป็น 2-3 ในนาทีที่ 67 จากจังหวะที่ รีเซ่ ซัดไปติดเซฟ ซอร์วาส ก่อนที่ เด รอสซี่ จะตามซ้ำไม่พลาด
นาทีต่อมา คอสตาส คัตซูรานิส ยิงไปชนเสาอย่างจัง ซัลปินกิดิส พยายามจะตามซ้ำ บอลยังไปติด โดนี่ อีก จากนั้น เฌเรมี่ เมเนซ ที่เพิ่งลงมาเป็นสำรอง เปิดฟรีคิกให้ เด รอสซี่ ได้โหม่ง แต่ ซอร์วาส พุ่งปัดออกหลังไปอีกครั้ง
ช่วงเวลาที่เหลือ โรม่า โหมบุกกระหน่ำหวังจะเอาคืนให้ได้ แต่ไม่เป็นผล จบเกม พานาธิไนกอส บุกมาชนะ 3-2 ทำให้ผ่านเข้ารอบต่อไปด้วยสกอร์รวม 6-4
รายชื่อนักเตะ
โรม่า : อเล็กซานเดอร์ โดนี่; มาร์โก คาสเซ็ตติ, ฟิลิปป์ เม็กแซส, ฮวน, ยอห์น อาร์เน่ รีเซ่; มัตเตโอ บริกี, ดานิเอเล่ เด รอสซี่; อเลสซิโอ แชร์ชี่, ซิโมเน่ แปร์ร็อตต้า, โรดริโก้ ตัดเด; มีร์โก วูชินิช
สำรอง : บ็อกดาน โลบอนท์, มาร์โก ม็อตต้า, มักซ์ โตเน็ตโต้, นิโกลัส บูร์ดิสโซ่, ริคาร์โด้ ฟาตี้, ชูลิโอ บาปติสต้า, เฌเรมี่ เมเนซ
พานาธิไนกอส : อเล็กซานดรอส ซอร์วาส; สเตอร์กอส มารินอส, ลูคัส วินตร้า, โฆซู ซาร์เรียกี, เซดริก ก็องเต้; คอสตาส คัตซูรานิส, ซิเมา; ดิมิทริส ซัลปินกิดิส, โซติริส นินิส, นิกอส สปิโรปูลอส; ฌิบริล ซิสเซ่
สำรอง : มาริโอ กาลิโนวิช, อันเต้ รูกาวิน่า, มัทเทียส บียาร์สมายร์, ลาซารอส คริสโตดูปูลอส, จิลแบร์โต้ ซิลวา, เซบาสเตียน เลโต้, เคลย์ตัน
สปอร์ติ้ง ลิสบอน 3 - 0 เอฟเวอร์ตัน
(รวม 2 นัด สปอร์ติ้ง เข้ารอบด้วยประตูรวม 4-2)
สปอร์ติ้ง ลิสบอน เปิดบ้านต้อนรับ เอฟเวอร์ตัน โดยที่นัดแรก ทอฟฟี่ เฉือนชนะมาก่อน 2-1 เกมนี้เจ้าถิ่นปรับแนวรุกเพิ่ม ส่ง ยานนิค ฌาโล่ ลงเล่นคู่ เลียดสัน ในแดนหน้า ขณะที่ทีมเยือนไม่มี ซิลแว็ง ดิสแต็ง ที่ติดโทษแบน และ จอห์นนี่ ไฮติงก้า ก็ติดคัพ-ไท ทำให้ ฟิลิปป์ เซนเดอรอส ได้ลงตัวจริง ส่วนตำแหน่งอื่นๆ ไม่มีการเปลี่ยนแปลง
เริ่มเกมขึ้นมา สปอร์ติ้ง โหมบุกหนักทันที นาทีที่ 4 มารัต อิซไมลอฟ หลุดเข้าเขตโทษด้านซ้าย ก่อนยิงเรียดเน้นๆ ไปติดเซฟ ทิม ฮาวเวิร์ด นาทีที่ 16 เจ้าถิ่นมาได้ลูกฟรีคิกระยะหวังผลประมาณ 25 หลา เจา มูตินโญ่ บรรจงปั่นข้ามกำแพงไปแล้ว แต่บอลชนคานกระดอนออกมา โตเนล หวดซ้ำก็หลุดกรอบออกไป
ทอฟฟี่สีน้ำเงิน มีโอกาสน้อยครั้งในครึ่งแรก แต่ก็ส่งบอลไปตุงตาข่ายได้ในนาทีที่ 44 เลห์ตัน เบนส์ เปิดฟรีคิกริมเส้นฝั่งขวา ผู้เล่นสปอร์ติ้งดันเช็กล้ำหน้าขึ้นกันหมด ก่อนที่ ฟิลิปป์ เซนเดอรอส จะแปเข้าไป ซึ่งก็ล้ำหน้าอยู่ดี จบครึ่งแรกเสมอกันอยู่ 0-0
ครึ่งหลัง สปอร์ติ้ง เดินเครื่องบุกหนักขึ้นเรื่อยๆ นาทีที่ 60 เจา มูตินโญ่ วอลเล่ย์ในเขตโทษด้านซ้ายไปติดเซฟ ทิม ฮาวเวิร์ด
นาทีที่ 64 สปอร์ติ้ง มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จนได้ จากจังหวะที่ ยานนิค ฌาโล่ แทงบอลให้ มิเกล เวโลโซ่ ที่ยืนเหลื่อมเหมือนจะล้ำหน้า แต่ไม่มีธงจากผู้ช่วยผู้ตัดสิน เวโลโซ่ เลยหลุดเข้าไปซัดผ่าน ฮาวเวิร์ด ไม่เหลือ
จากนั้น เจ้าถิ่นมาได้ประตูหนีห่าง 2-0 ในนาทีที่ 77 เริ่มจาก ยานนิค ฌาโล่ ยิงมุมแคบทีแรก ติดเซฟ ฮาวเวิร์ด ปัดออกมา มารัต อิซไมลอฟ เก็บได้แล้วหมุนไปหมุนมาแต่ก็ไม่มีช่อง เลยต้องคืนออกมานอกเขตให้ เปโดร เมนเดส วิ่งเข้ามาซัดด้วยขวาระยะ 22 หลา บอลแฉลบ แจ็ค ร็อดเวลล์ ตัวสำรอง เปลี่ยนทางผ่าน ฮาวเวิร์ด เข้าไป
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ มาติอัส เฟร์นานเดซ ตัวสำรองหลุดเข้าไปซัดให้เจ้าถิ่นต้อนขาด 3-0 จบเกม สปอร์ติ้ง ลิสบอน เอาชนะ เอฟเวอร์ตัน ไปได้ 3-0 รวมสองนัด สปอร์ติ้ง เข้ารอบด้วยประตูรวม 4-2
รายชื่อผู้เล่น
สปอร์ติ้ง ลิสบอน : รุย ปาทริซิโอ, อเบล, เลอันโดร กริมี่, โตเนล, ดาเนี่ยล คาร์ริโก้, เปโดร เมนเดส, มิเกล เวโลโซ่, เจา มูตินโญ่, มารัต อิซไมลอฟ, ยานนิค ฌาโล่, เลียดสัน
สำรอง : ติอาโก้, อันแดร์สัน โพลก้า, อาเดรียน ซิลวา, บรูโน่ เปเรรินญ่า, มาติอัส เฟร์นานเดซ, ซิมอน วุคเชวิช, คาร์ลอส ซาเลโร่
เอฟเวอร์ตัน : ทิม ฮาวเวิร์ด, ฟิล เนวิลล์, โจเซฟ โยโบ, ฟิลิปป์ เซนเดอรอส, เลห์ตัน เบนส์, แลนดอน โดโนแวน, มิเกล อาร์เตต้า, ลีออน ออสแมน, สตีเว่น พีนาร์, ดินิยาร์ บิลยาเลตดินอฟ, หลุยส์ ซาฮา
สำรอง : คาร์โล แนช, ฟิล จาเกียลก้า, แดน กอสลิ่ง, แจ็ค ร็อดเวลล์, ซีมุส โคลแมน, วิคเตอร์ อนิเชเบ้, ยาคูบู อเย็กเบนี่
ผลบอล ยูโรป้า ลีก ทุกคู่ คลิกที่นี่
ภาพข่าวจาก http://sports.yahoo.com
