
เอฟเอ คัพ รอบรองชนะเลิศ
วันอาทิตย์ที่ 11 เมษายน 2553
สเปอร์ส 0 - 2 ปอร์ทสมัธ
ประตู : 0-1 เฟรเดริค ปิกิยอน น.99,0-2 เควิน ปริ๊นซ์ บัวเต็ง(จุดโทษ) น.117
ไฮไลท์การทำประตูในเกมนี้
ครึ่งแรก
นาทีที่ 24 เป็นโอกาสของ ปอมปีย์ บ้าง เฟรเดริก ปิกิยอน รับบอลในเขตโทษด้านขวา แต่วอลเล่ย์ตามน้ำไม่เต็มเท้า เลยเสร็จ เอเรลโญ่ โกเมส รับสบาย
นาทีที่ 37 ฮัสซัน เย็บด้า จ่ายบอลจากกลางสนามด้านขวาให้ เฟรเดริก ปิกิยอน ควบตามบอลหลุดเดี่ยวเข้าเขตโทษ แต่ยิงไปติดบล็อค โกเมส พอดี
นาทีที่ 39 สเปอร์สเกือบได้ประตูขึ้นนำจากการยิงนอกกรอบของฮัดเดิลสตั๊นที่แม้ว่าจะไม่ แรง แถมยิงด้วยซ้าย แต่บอลกลับลอยแล้วฮุคลงกำลังจะเสียบสามเหลี่ยม แต่เดวิด เจมส์โคตรไวพุ่งไปปัดมือเดียวออกหลังไปได้
นาทีสุดท้ายครึ่งแรก ไก่เดือยทอง ได้โอกาสติดๆ กันในเขตโทษ เคร้าช์ ยิงแฉลบเข้าทาง เบนท์ลี่ย์ ยิงทีแรกติด มัลลินส์ ยิงอีกครั้งก็แฉลบออก จบครึ่งแรก ยังเสมอ 0-0
ครึ่งหลัง
นาทีที่ 47 เจอร์เมน เดโฟ หลุดเข้าเขตโทษด้านซ้ายแต่ยิงไปติดบล็อค ริคาร์โด้ โรช่า
นาทีที่ 57 ไก่เดือยทอง ได้โอกาสงามๆ จากจังหวะที่ ปีเตอร์ เคร้าช์ โหม่งตั้งมากลางประตูให้ เจอร์เมน เดโฟ ตวัดยิงไม่เต็มเท้า เสร็จ เดวิด เจมส์ รับไม่ยาก
นาทีที่ 59 แฮร์รี่ เร้ดแนปป์เปลี่ยนเอาโรมัน พาฟลูเชนโก้ลงไปเล่นแทนเจอร์เมน เดโฟที่สภาพความฟิตไม่สมบูรณ์สักเท่าไรออก ทำให้คู่กองหน้าของสเปอร์สเป็นศูนย์หน้าร่างโย่งด้วยกันทั้งคู่
นาทีที่ 65 ปีเตอร์ เคร้าซ์สมควรที่จะทำประตูขึ้นนำให้กับสเปอร์สอย่างแรง จากจังหวะที่เดวิด เจมส์ออกไปตัดลูกเปิดของสเปอร์สพลาด ทำให้เคร้าซ์ได้เทคตัวโขกเหน่ง ๆ แบบไม่มีผู้รักษาประตูอยู่ แต่พี่แกกลับโขกออกไปหน้าตาเฉย
นาทีที่ 75 แกเร็ธ เบล เติมเกมรุกขึ้นมาถึงสุดเส้นหลังฝั่งซ้าย แล้วชิพไปที่เสาสอง บอลเหมือนจะหลุดออกหลังอยู่แล้ว แต่ เคร้าช์ ยังโหม่งมุมแคบไปโดนเสาเหลี่ยมนอกออก
ช่วงทดเวลาไปหนึ่งนาที ปีเตอร์ เคร้าซ์ได้เพิ่งเข้าไปชาร์จที่เสาแรกเต็ม ๆ แต่เดวิด เจมส์ที่แม้จะทิ้งตัวไปผิดทางแล้ว แต่ก็ยังใช้ขาเซฟเอาไว้ได้หวุดหวิด ก่อนที่สเปอร์สจะบอมบ์บุกเข้ามาอีกครั้ง แต่ก็ยังทำอะไรไม่ได้ถนัด ก่อนที่บอลจะล้นไปเข้ามือเจมส์ในที่สุด จบ 90 นาทีปอร์ทสมัธยันสเปอร์สเอาไว้ได้ ทำให้ต้องมีการต่อเวลาพิเศษไปอีก 30 นาที
ช่วงต่อเวลาพิเศษครึ่งแรก
สเปอร์ส มีโอกาสลุ้นในนาทีที่ 98 โรมัน พาฟลิวเชนโก้ ควบตามบอลเข้าหาเขตโทษ แต่ไม่มีเพื่อนมาช่วย เลยต้องยิงเองข้ามคานออกไป
นาทีที่ 99 พอร์ทสมัธ มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 แบบมีโชค จากฟรีคิกที่หยอดเข้าไปในเขตโทษ เควิน-พรินซ์ บัวเต็ง โหม่งตั้งแล้ว ไมเคิ่ล ดอว์สัน ลื่นล้มลงไปก่อน เลยเสร็จ เฟรเดริก ปิกิยอน ยิงจ่อๆ ผ่าน โกเมส ไม่เหลือ
นาทีที่ 102 ปีเตอร์ เคร้าซ์ ก็ทำสำเร็จจนได้หลังจากซัดบอลเข้าไปตุงตาข่ายแล้ว จากลูกเปิดของเบลทางฝั่งซ้าย แต่ผู้ตัดสินเป่าฟาวล์ไปก่อน เพราะบอกว่ามีนักเตะของสเปอร์สเข้าไปกระแทกเจมส์ในจังหวะที่จะออกมาตัดบอล
ช่วงต่อเวลาพิเศษครึ่งหลัง
นาที 115 สเปอร์ส มาพลาดเสียจุดโทษ เมื่อ วิลสัน ปาลาซิออส ไปเกี่ยว อารูน่า ดินดาน ล้มลงในเขตโทษผู้ตัดชี้เป็นลูกโทษที่จุดโทษทันที และเป็น เควิน-พรินซ์ บัวเต็ง รับหน้าที่สังหารไม่พลาด ปอมปีย์นำห่าง 2-0
หลังจากนั้น สเปอร์ส พยายามบุกอย่างหนัก แต่สุดท้ายเจาะไม่เข้า จบเกม พอร์ทสมัธ พลิกล็อกเอาชนะ สเปอร์ส ไปแบบสุดมัน 2-0 ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศไปพบกับ เชลซี วันที่ 15 พฤษภาคม
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
สเปอร์ส : โกเมส,ไมเคิ่ล ดอว์สัน,เซบาสเตียน บาสซง



ปอร์ทสมัธ : เดวิด เจมส์,สตีฟ ฟินแนน,ริคาร์โด้ โรช่า,ไมเคิ่ล บราวน์,เฮย์เดน มัลลินส์(ฮิวจ์ส น.119),อารอน โมโคเอน่า,ฮาสสาน เย็ปด้า(อูทาก้า น.87),เควิน ปริ๊นซ์ บัวเต็ง

