
ฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ
วันเสาร์ที่ 28 สิงหาคม 2553
เชลซี 2 : 0 สโต๊ค ซิตี้
ประตู : 1-0 ฟลอร็องต์ มาลูด้า น.32,2-0 ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา น.77
ไฮไลท์การทำประตูในเกมนี้
ครึ่งแรก
นาทีที่ 4 เชลซี ก็มาได้โอกาสลุ้นทำประตูก่อนเมื่อ มิคาเอล เอสเซียน ได้บอลอยู่กลางสนามก่อนจ่ายทะลุช่องไปในเขตโทษ แอชลี่ย์ โคล วิ่งมาจับบอลหนึ่งจังหวะก่อนซัดหลุดเสาไกลออกไปแบบได้ลุ้น
นาทีที่ 9 แฟร้งค์ แลมพาร์ด จ่ายบอลทะลุช่องให้ ฟลอร็งต์ มาลูด้า วิ่งไปรับบอลในเขตโทษ ก่อนจะถูก ไรอัน ชอว์ครอสส์ เข้ามาเสียบล้มลงไป ผู้ตัดสินชี้เป็นจุดโทษทันที และเป็น แลมพาร์ด รับหน้าที่สังหาร แต่ยิงไปถูก โธมัส โซเรนเซ่น ล้มตัวรับไว้ได้ติดมือ
นาทีที่ 31 เชลซีออกนำ 1-0 จากจังหวะที่ จอห์น เทอร์รี่ เลี้ยงบอลทะลุขึ้นมากลางสนาม ก่อนแทงทะลุช่องไปให้ มาลูด้า หลุดเข้าไปซัดด้วยขวาสวนตัว โซเรนเซ่น ที่พยายามออกมาปิดมุมเข้าไปไม่เหลือ
นาทีที่ 33 ดร็อกบา โยนเข้าเขตโทษให้แอชลี่ย์ โคล เติมเกมขึ้นมากระโดดวอลเลย์ด้วยซ้ายตามน้ำบอลกลับพุ่งไปชนคานพลาดได้ประตู อย่างน่าเสียดายจบครึ่งแรกเชลซีนำ 1-0
ครึ่งหลัง
นาที 50 นิโกล่าส์ อเนลก้า พาบอลมาทางริมเส้นฝั่งซ้ายก่อนจะโยนเข้าไปจุดนัดพบให้ ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา โหม่งเต็มหัวแต่บอลตรงตัว โซเรนเซ่น
นาที 77 เชลซีนำ 2-0 เมื่อนิโกล่าส์ อเนลก้า ได้บอลหลุดเข้าไปในกรอบโทษแล้วโดนโธมัส โซเรนเซ่น ออกมาสกัดล้มลงเป็นจุดโทษทันทีและเป็นดิดิเย่ร์ ดร็อกบา ยิงเข้าไป
นาทีที่ 85 ในที่สุด รามิเรส แข้งบราซิเลี่ยน ก็ได้ลงประเดิมสนามให้แก่เชลซีจนได้ หลังจากถูกเปลี่ยนตัวลงแทนมิชาเอล เอสเซียงพร้อมเสียงปรบมือต้อนรับจากแฟน ๆ ทั่วสนามแสตมป์ฟอร์ด บริดจ์
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ซาโลมอง กาลู ที่อุตส่าห์ดันเบียดกองหลังของสโต๊ค หลุดเข้าไปดวลตัวต่อตัวกับทางโธมัส โซเรนเซ่นได้แล้ว แต่เจ้าตัวกลับยิงติดเซฟแบบตรง ๆ ดื้อ ๆ ทำให้พลาดบวกเม็ดที่สามให้แก่ทีมไป จบ 90 นาที เชลซีเอาชนะสโต๊คไปได้ 2-0 รวม 3 นัดเก็บ 9 คะแนนเต็มได้อย่างยอดเยี่ยม
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก,จอห์น เทอร์รี่,อเล็กซ์,แอชลี่ย์ โคล,เปาโล แฟร์เรร่า,จอห์น โอบี มิเกล,แฟรงค์ แลมพาร์ด(กาลู น.72),มิชาเอล เอสเซียง(รามิเรส น.85),ฟลอร็องต์ มาลูด้า,ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา,นิโกลาส์ อเนลก้า(สเตอร์ริดจ์ น.81)
สโต๊ค ซิตี้ : โธมัส โซเรนเซ่น,ไรอัน ชอว์ครอสส์,โรบิ์ต ฮูธ,แดนนี่ ลอลลินส์,แอนดี้ วิลกินสัน(วีแลน น.51),อับดุลลาย ฟาย,รอรี่ ดีแลป(พิวจ์ น.86),แมทธิว เอ็ทเธอริงตัน

