
ศึกฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ ส่อแววว่าจะเริ่มต้นด้วยปัญหาซะแล้ว ทั้งที่ยังเหลือเวลาอีกถึง 12 ปีกว่าจะถึงเวลาแข่งขัน เมื่อมีกระแสแสดงความกังวลจากองค์กรเกี่ยวกับสิทธิของเพศที่ 3 ว่าศึก เวิลด์ คัพ บนดินแดนอาหรับจะเป็นการจำกัดสิทธิ์การมีส่วนร่วมของกลุ่มแฟนบอลที่เป็นเกย์และเพศที่ 3 หรือไม่
พฤติกรรมรักร่วมเพศนั้น ถือเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายสำหรับกาตาร์ซึ่งทำให้เกิดความกังวลขึ้นในหมู่แฟนบอลชาวเพศที่ 3 แต่ เซ็ปป์ แบล็ตเตอร์ ประธานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) กล่าวถึงเรื่องนี้ว่าจะไม่กลายเป็นปัญหาใหญ่โตอย่างแน่นอน
บอสใหญ่ ฟีฟ่า กล่าวว่า "ผมคงต้องบอกว่าพวกเขาคงต้องงดเว้นกิจกรรมทางเพศทุกอย่างไว้ก่อนเมื่อถึงตอนนั้น ผมมั่นใจว่าเมื่อถึงการแข่งขันฟุตบอลโลกที่กาตาร์มันจะไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน"
อย่างไรก็ตาม คำพูดของ แบบนี้ กลับยิ่งสร้างความไม่พอใจมากขึ้น เมื่อตัวแทนจากกลุ่มพิทักษ์สิทธิของผู้นิยมรักร่วมเพศได้โต้ตอบว่า ประธาน ฟีฟ่า ไม่ได้ให้ความจริงใจในการจัดการปัญหานี้
ยูริฟ ลาฟริคอฟส์ ผอ.ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของ สมาคม เลสเบี้ยน, เกย์, รักร่วมสองเพศ, ผู้ข้ามเพศ และ ผู้แปลงเพศ นานาชาติ (ไอแอลจีเอ) สาขาภาคพื้นยุโรป กล่าวว่า "นี่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นนะ นี่มันคือเรื่องความเป็นความตายของผู้คนเลยทีเดียว ผมว่าพวกเขาน่าจะมีคำแถลงที่ดูจริงจังมากกว่า ไม่ใช่แต่มาตอบให้มันจบๆ ไป เรากำลังพูดถึงเรื่องสิทธิขั้นพื้นฐานอย่างยิ่งของมนุษย์ ที่กำลังเป็นปัญหา"
ขณะเดียวกัน "คิกอิทเอาท์" องค์กรระดับนานาชาติที่ดำเนินการเรื่องต่อต้านการเหยียดสีผิว และมีบทบาทอย่างมากในการรณรงค์กำจัดความรุนแรงในเกมฟุตบอล ก็ได้ร่วมแสดงความไม่พอใจกับท่าทีของ แบล็ตเตอร์ ด้วย
เฮอร์มัน อูเซลี่ย์ ประธานกลุ่ม คิกอิทเอาท์ กล่าวในการแถลงข่าวว่า "มันอาจจะดูเป็นเรื่องตลก แต่นี่เป็นปัญหาที่ต้องเอาจริงเอาจังสำหรับคนที่ถูกเขาเย้ยหยัน เราไม่น่าจะได้เป็นท่าทีแบบนั้นจากผู้ที่เป็นผู้บริหารสูงสุดขององค์กรระดับโลก คุณควรต้องแสดงความเป็นผู้นำ เพราะคุณย่อมมีอำนาจที่จะกำหนดแนวทางที่ควรจะเป็น และหากมันไม่ประสบผลสำเร็จคุณก็ต้องพยายามเดินหน้าสู้"
ภาพข่าวจาก http://indykids.net