
มีรายงานจากประเทศ อังกฤษว่า "กาตาร์ โฮลดิ้งส์" ซึ่งเป็นกลุ่มนักลงทุนที่คอยดูแลเรื่องการทำธุรกิจให้กับราชวงศ์ ของประเทศ กาตาร์ เตรียมทุ่มเงินมหาศาลถึง 1,500 ล้านปอนด์เพื่อซื้อกิจการทีม "ปิศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
โดยพระราชวงศ์แห่ง กาตาร์ ได้เป็นเจ้าของสินทรัพย์ในลอนดอนหลายที่ด้วยกันอย่างห้างแฮร์ร็อดส์, วัน ไฮด์ พาร์ค, เดอะ ชาร์ด ออฟ กลาสส์ และ สถานทูตสหรัฐอเมริกาในกรอสเวเนอร์ สแควร์ อีกด้วย นอกจากนี้ กลุ่ม กาตาร์ โฮลดิงส์ ยังเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับที่สามในการผลิตรถยนต์ยี่ห้อดังของโลกอย่าง "โฟล์คสวาเกน" และมีหุ้นในรถปอร์เช่ อีกด้วย
ทั้งนี้สื่อดังกล่าวระบุยืนยันว่า ชีค ฮาหมัด บิน จัสซิม บิน จาเบอร์ อัล ทานี่ประธานของกลุ่ม"กาตาร์ โฮลดิ้งส์"และยังเป็นนายกรัฐมนตรีของ กาตาร์ ด้วยนั้นได้แสดงความกระตือรือร้น ที่ต้องการจะฮุบกิจการของทีม "ปีศาจแดง" เป็นอย่างยิ่งเนื่องจากมองว่าการทำเช่นนี้จะเป็นการช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ให้กับประเทศในด้านต่างๆนั้นเอง
ก่อนหน้านี้ แม้ว่าตระกูล เกลเซอร์ จะเพิ่งซื้อสโมสรมาเมื่อปี 2005 ด้วยจำนวนเงิน 790 ล้านปอนด์ แต่ก็ไม่เป็นที่พอใจของแฟนบอลเนื่องจาก 716 ล้านปอนด์เป็นหนี้ที่กู้มา และพวกเขาเชื่อว่ารายได้สโมสรจำนวนมากต้องหมดไปกับการชำระดอกเบี้ย
อย่างไรก็ตาม ไม่กี่เดือนก็มีกลุ่ม "เร้ด ไนท์ส" ซึ่งเป็นแฟนบอลของ ยูไนเต็ด เคยพยายามรวมหัวกันเพื่อขอซื้อสโมสรด้วยจำนวนเงิน 1 พันล้านปอนด์มาแล้ว แต่ก็ได้รับการปฏิเสธโดยเจ้าของชาวอเมริกัน อย่างไรก็ดีกลุ่มทุนจากประเทศว่าที่เจ้าภาพฟุตบอลโลก 2022 พร้อมทุ่มงบประมาณถึง 2.5 พันล้านปอนด์เพื่อซื้อสโมสร และจัดสรรให้ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ช็อปปิ้งแบบไม่อั้น