ผลฟุตบอล ลา ลีกา สเปน
ราซิ่ง ซานตานเดร์ 1 - 3 เรอัล มาดริด
ราซิ่ง ซานตานเดร์ ต้องขาด ออสการ์ เซร์ราโน่ กองกลางตัวริมเส้นที่เจ็บกล้ามเนื้อโคนขาซ้าย และ มานูเอล อราน่า กองกลางอีกรายเจ็บเอ็นข้อเท้าขวา รวมทั้งไม่มี เฮนริเก้ บุสส์ กับ โดมิงโก้ ซิสม่า สองกองหลังที่ติดโทษแบนด้วย ทำให้ต้องส่ง ออสมาร์ อิบานเยซ กับ คริสเตียน เฟร์นานเดซ ลงเล่นแทน
ทาง "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด เพิ่งเปิดเบร์นาเบว ไล่ถล่ม มาลาก้า ยับเยิน 7-0 เมื่อช่วงกลางสัปดาห์ แต่เกมนี้ไม่มี คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซูเปอร์สตาร์ชาวโปรตุกีสที่เอ็นหลังหัวเข่าฉีกต้องพักประมาณ 14 วัน รวมไปถึง กอนซาโล่ อิกวาอีน กองหน้าชาวอาร์เจนไตน์ ที่หายเจ็บหลัง กลับมาซ้อมแล้ว แต่ยังไม่พร้อมสำหรับเกมนี้
นอกจากนั้นต้องขาด เฟอร์นานโด กาโก้ กองกลางชาวอาร์เจนไตน์ ได้รับบาดเจ็บกล้ามเนื้อฉีก อีกทั้งไม่มี ริคาร์โด้ กาก้า ที่เจ็บกล้ามเนื้อต้นขา และ อัลบาโร่ อาร์เบลัว เจ็บหลัง ด้าน ซามี เคดีร่า กองกลางทีมชาติเยอรมัน เจ็บกล้ามเนื้อต้นขาซ้าย ทำให้ต้องปรับทัพกันขนานใหญ่พร้อมใช้ คาริม เบนเซม่า ออกสตาร์ทเคียงข้างกับ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ เป็นครั้งแรก
เปิดเกมขึ้นมาได้แค่ 12 นาที ทีมเยือนเดินหน้าบุกทันที ชาบี อลอนโซ่ สับไกยิงจากนอกกรอบบอลพุ่งชนคานออกมาอย่างน่าเสียดาย สามนาทีให้หลัง ราชันชุดขาว ได้ลุ้นอีก อังเคล ดิ มาเรีย ตักบอลเข้าไปในเขตโทษให้ มาร์เซโล่ วิเอยร่า ที่เติมขึ้นมาหลุดเดี่ยวก่อนล็อกหลบ อันโตนิโอ โตนโญ่ นายทวารราซิ่งฯ ไปแล้วแต่กลับยิงแฉลบผู้เล่นราซิ่งฯ ออกหลังไปอย่างไม่น่าเชื่อ
กระเถิบมาถึงนาทีที่ 22 เรอัล มาดริด น่าได้ประตูอีกครั้งเมื่อ ชาบี อลอนโซ่ ผ่านบอลให้กับ เบนเซม่า กดด้วยซ้ายบอลไปชนเสาออกมาอย่างน่าเสียดาย
นาทีต่อมา ราชันชุดขาว ได้ประตูออกนำจนได้จากการประสานงานกันอย่างเยี่ยมยอด เมซุต โอซิล ฝากบอลออกซ้ายไปให้กับ อเดบายอร์ ก่อนที่ โอซิล จะวิ่งตามไปรับบอลที่ชิ่งคืนมาแล้วจ่ายเข้าในให้กับ อเดบายอร์ ที่วิ่งอ้อมมารับบอลจับบอลหนึ่งจังหวะแล้วแตะเข้าประตูไปโล่งๆให้ เรอัล มาดริด นำก่อน 1-0
มาถึงนาทีที่ 26 ทำนบของเจ้าบ้านต้องพังทลายลงอีกครั้ง เมื่อ เมซุต โอซิล จ่ายบอลทะลุช่องสุดคมให้กับ คาริม เบนเซม่า หลุดเข้าไปซัดด้วยซ้ายผ่านมือ อันโตนิโอ โตนโญ่ เข้าไปให้ เรอัล มาดริด หนีไปเป็น 2-0 แล้ว และเป็นประตูที่ 6 ของดาวยิงทีมชาติฝรั่งเศส ใน ลา ลีกา ซีซั่นนี้แล้ว
ก่อนหมดครึ่งแรกแค่ 5 นาที ทีมเยือนบุกอย่างต่อเนื่อง เกือบจะได้ประตูที่สาม มาร์เซโล่ ตักบอลเข้าไปในเขตโทษ คาริม เบนเซม่า พลิกเอาบอลลงก่อนกดด้วยขวา อันโตนิโอ โตนโญ่ นายทวารราซิ่ง ซานตานเดร์ ยังเซฟไว้ได้หวุดหวิด หมดครึ่งแรก เรอัล มาดริด นำก่อน 2-0
มาเล่นกันต่อในครึ่งหลัง เจ้าบ้านทำได้ดีขึ้นก่อนมาได้จุดโทษในนาทีที่ 52 จากจังหวะที่ โจวานี่ โดส ซานโต๊ส มิดฟิลด์ดาวรุ่งชาวเม็กซิกัน เลื้อยหลบกองหลังเรอัล มาดริด ไปแล้ว แต่จังหวะจะยิงโดน ชาบี อลอนโซ่ มาชนล้มจากทางด้านหลัง ผู้ตัดสินชี้เป็นจุดโทษทันทีพร้อมให้ใบเหลืองกับ ชาบี ก่อนที่ ปาโบล ปินิยอส รับอาสาซัดด้วยขวา แต่ว่าโดน อีเกร์ กาซิยาส นายทวารเรอัล มาดริด พุ่งถูกทางรับไว้ได้
จากจังหวะโต้กลับเร็วของชุดขาวในนาทีต่อมา อังเคล ดิ มาเรีย พาบอลขึ้นมาจนถึงหน้ากรอบเขตโทษของราซิ่ง แต่โดน มาร์คุส โรเซนเบิร์ก ตามมาหวดคว่ำ ผู้ตัดสินเป่าเป็นฟรีคิก ก่อนให้ใบเหลืองกับ โรเซนเบิร์ก ไปด้วย จากลุกฟรีคิก เซร์คิโอ รามอส ซัดข้ามคานไป
เกมของทีมเยือนผ่อนลงไป เลยโดน ราซิ่ง ซานตานเดร์ กลับมาครองบอลบุกเข้าใส่ จนได้ประตูไล่มา 1-2 ในนาทีที่ 70 จากจังหวะที่ทำชิ่งกันมาสวยงาม ก่อนที่จังหวะสุดท้ายเป็น เมดี้ ลาเซน แปด้วยซ้ายขึ้นหน้าให้กับ เคนเนดี้ บาคีร์โซกลู วิ่งตัดไลน์มายิงด้วยซ้ายเข้าไป เรียกเสียงเชียร์จากแฟนบอลเจ้าบ้านได้กระหึ่ม
อย่างไรก็ตามพอทีมเยือนกลับมาเน้นเกมรุกอีกครั้งก็ทิ้งห่างออกไปอีก จากจังหวะที่ อังเคล ดิ มาเรีย พาบอลขึ้นมาตรงกลางแล้วแปออกซ้ายให้กับ คาริม เบนเซม่า จับหนึ่งครั้งแล้วปั่นด้วยขวาเข้าเสาสองไปให้ เรอัล มาดริด นำสบาย 3-1 ในนาทีที่ 75 เป็นประตูที่สองของ เบนเซม่า ในเกมนี้ และ เป็นประตูที่ 7 ของเจ้าตัวในลา ลีกา
ท้ายเกมนาทีที่ 80 เรอัล มาดริด เปลี่ยนเอา เซร์คิโอ กานาเลส อดีตดาวรุ่งของราซิ่งฯ ลงสนามเจอกับต้นสังกัดเก่า พร้อมถอด เบนเซม่า ออก และ ยังส่ง ราอูล อัลบิโอล เล่นแทน เอสเตบัน กราเนโร่
เรอัล มาดริด มาได้จุดโทษในนาทีที่ 82 เมื่อ ดิ มาเรีย โดน มาร์ค ตอร์เรฆ่อน กองหลังราซิ่งฯ ดักขาล้มลงในเขตโทษ แต่ อเดบายอร์ สังหารเบาหวิวเลยโดน อันโตนิโอ โตนโญ่ นายทวารราซิ่งฯ ล้มตัวเซฟได้ นาที 83 เจ้าบ้านโต้กลับเร็วและเกือบได้ประตูที่สองจากการยิงของ เคนเนดี้ บาคีร์โซกลู แต่ อีเกร์ กาซียาส ป้องกันเอาไว้ได้ จากจังหวะต่อเนื่อง โอซิลได้บอลยาวแลกระชากหลบกองหลัง และ ผู้รักษาประตู แต่ไม่มีจังหวะยิง ผู้เล่นราซิ่งฯ ช่วยกันสะกัดออกไปได้
นาที 89 ชุดขาวตัดสินใจเปลี่ยน โอซิล ออกไปพักแล้วเปิดโอกาสให้ดาวรุ่ง อเล็กซ์ เฟร์นานเดซ อิเกลเซียส ลงมาสัมผัสเกมในช่วงเวลาที่เหลือ ช่วงเวลาที่เหลือทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบเกม เรอัล มาดริด บุกมาถล่ม ราซิ่ง ซานตานเดร์ หายห่วง 3-1 เก็บสามแต้มเต็มได้ตามเป้าหมาย ทำแต้มไล่หลัง บาร์เซโลน่า จ่าฝูงเหลือ 7 คะแนนตามเดิม
รายชื่อผู้เล่น
ราซิ่ง ซานตานเดร์: อันโตนิโอ โตนโญ่ - ปาโบล ปินิยอส (ฟรานซิส เปเรซ น.79), ออสมาร์ อิบานเยซ, มาร์ก ตอร์เรฆอน, คริสเตียน เฟร์นานเดซ - กอนซาโล่ โกลซ่า, เมดี้ ลาเซน - เคนเนดี้ บาคีร์โซกลู, เปโดร มูนิติส, โจวานี่ โดส ซานโต๊ส (อาเรี่ยล นาฮวลปาน น.82) - มาร์คุส โรเซนเบิร์ก
สำรอง: ฟาบิโอ โกลตอร์ติ (ผู้รักษาประตู) - ฆูเลียน ลูเก้, ตาโต้, ปาป้า กูลี่ ดิย็อป, อีบัน โบลาโด้
เรอัล มาดริด: อีเกร์ กาซียาส (กัปตันทีม) - เซร์คิโอ รามอส, เปเป้, ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่, มาร์เซโล่ วิเอยร่า - ชาบี อลอนโซ่, เอสเตบาน กราเนโร่ (ราอูล อัลบิโอล น.80) - อังเคล ดิ มาเรีย, เมซุต โอซิล(อเล็กซ์ เฟร์นานเดซ อิเกลเซียส น.89) - คาริม เบนเซม่า (เซร์คิโอ กานาเลส น.80), เอ็มมานูเอล อเดบายอร์
สำรอง: เยอร์ซี่ ดูเด็ค, อัลบาโร่ โมราต้า, เปโดร เลออน, ฆอร์เก้ กาซาโด้
เลบันเต้ 1 - 0 เอสปันญ่อล
"ไอ้ค้างคาว" เลบันเต้ ได้ตัว เฟลิเป้ ไซเซโด้ กองหน้าทีมชาติเอกวาดอร์ หายเจ็บหัวเข่ากลับมาลงล่าตาข่าย ส่วน "ไอ้นกแก้ว" เอสปันญ่อล แพ้มา 4 จาก 5 เกมหลังสุดแล้ว เกมนี้ได้ตัว โจน เบร์ดู กองกลางหายเจ็บกลับมาช่าวยทีมทันเวลา แต่ไม่มี ฆาบี มาร์เกซ มิดฟิลด์ตัวหลักเจ็บขาซ้าย และ ฮวน ฟอร์ลิน กองหลังชาวอาร์เจนไตน์ ซึ่งพลาดลงสนามราว 1 เดือน หลังจากแขนซ้ายหัก โดยหัวหอกตัวเป้าส่ง เซร์คิโอ การ์เซีย กองหน้าความเร็วสูงลงป่วนแนวรับคู่แข่ง
เปิดเกมครึ่งแรกมาได้แค่ 10 นาที เจ้าบ้านได้โอกาสก่อน ซิสโก้ มูนยอซ แทงบอลให้ ฆวนลู โกเมซ หลุดมาทางซีกซ้าย ก่อนกดเต็มเท้าบอลไปชนคานอย่างน่าเสียดาย จังหวะต่อมา มูนยอซ ผ่านให้ ฆวนลู ซัดอีกครั้งติดเซฟของ การ์ลอส กาเมนี่ นายทวารไอ้นกแก้ว
เจ็ดนาทีต่อมา เอสปันญ่อล ได้โอกาสบ้างเช่นกัน โจน เบร์ดู โยนบอลให้ เซร์คิโอ การ์เซีย ขึ้นโหม่งบอลยังตรงตัว กุสตาโว่ มูนูอา รับได้สบาย ผ่านมา 24 นาที ไอ้นกแก้ว ได้ลุ้นอีกครั้ง เบร์ดู ซัดจากนอกกรอบ โดนผู้เล่นเจ้าบ้านบล็อกได้อย่างหวุดหวิด
อย่างไรก็ตาม ค้างคาวน้อย มาได้ประตูขึ้นนำก่อนในนาทีที่ 27 จากจังหวะที่ บัลมิโร่ บัลโด้ เปิดบอลโค้งมาหน้าประตูให้ เฟลิเป้ ไคเซโด้ ขึ้นโหม่งลงพื้นจากกลางประตูตุงตาข่ายให้ เลบันเต้ นำก่อน 1-0
ครึ่งชั่วโมงของเกม เลบันเต้ บดเข้าใส่ ซิสโก้ มูนยอซ จ่ายบอลเร็วให้บัลโด้ สับไกด้วยขวาบอลหลุดเสาไกลนิดเดียว หมดครึ่งแรก เลบันเต้ นำอยู่ 1-0 กลับมาเล่นกันต่อในครึ่งหลังได้เจ็ดนาที โฆเซ่ กาเยฆอน ของนกแก้วไหลบอลให้กับ โจน เบร์ดู ตะบันด้วยขวาจากนอกเขตโทษ แต่ว่า กุสตาโว่ มูนูอา นายทวารค้างคาวน้อยป้องกันได้
หนึ่งชั่วโมงของเกม เลบันเต้ เปลี่ยนเอา เจฟเฟอร์สัน มอนเตโร่ ลงมาเล่นหน้าแล้วถอด ซิสโก้ มูนยอซ ที่วิ่งมากเหลือเกินในเกมนี้ออกมาพัก
นาทีต่อมา เลบันเต้ โต้กลับเร็วขึ้นมาทาง ฆวนลู เปิดบอลให้กับ บัลโด้ ตะบันด้วยขวาจากนอกเขตบอลข้ามคานไป เจ้าบ้านได้ลุ้นต่อเนื่อง อาเซียร์ เดล ออร์โน่ เปิดบอลมาให้กับ ไคเซโด้ ยิงด้วยซ้ายบอลสูงข้ามคานไปในนาที 67
3 นาทีต่อมา เลบันเต้ มีการเปลี่ยนแปลงตัวผู้เล่นถอด ไคเซโด้ คนทำประตูนำในเกมนี้ออกแล้วส่ง คริสเตียน สตูอานี่ ลงมาเล่นในแดนหน้าแทน ช่วงที่เหลือผลัดกันรุกและรับไม่มีฝ่ายไหนทำอะไรได้เพิ่ม จบเกม เลบันเต้ เปิดรังเชือด เอสปันญ่อล ไปหวุดหวิด 1-0 เก็บสามแต้มที่ต้องการได้สำเร็จ
รายชื่อผู้เล่น
เลบันเต้: กุสตาโว่ มูนูอา - ฆาบี เบนต้า, เซร์คิโอ บาเยสเตรอส, บิคตอเรียโน่ นาโน่, อาเซียร์ เดล ออร์โน่ - บิเซนเต้ อิบอร์ร่า, ชาบี ตอร์เรส - บัลมิโร่ บัลโด้, ซิสโก้ มูนญอซ, ฆวนลู โกเมซ - เฟลิเป้ ไคเซโด้
สำรอง: มานูเอล เรน่า (ผู้รักษาประตู) - มิเกล ปายาร์โด้, ฆวนฟราน การ์เซีย, ซิสโก้ นาดาล, เจฟเฟอร์สัน มอนเตโร่, รูเบน ซูอาเรซ, คริสเตียน สตูอานี่
เอสปันญ่อล: การ์ลอส กาเมนี่ - ฆาบี โลเปซ, จอร์ดี้ อามัต, เอร์เนสโต้ กาลาน, ดาบิด การ์เซีย - อัลโด้ ดุสเชร์, โจน เบร์ดู - หลุยส์ การ์เซีย, โฆเซ่ กาเยฆ่อน, อัลบาโร่ บาสเกซ - เซร์คิโอ การ์เซีย
สำรอง: คริสเตียน อัลบาเรซ (ผู้รักษาประตู) - ราอูล โรดริเกซ, บิคตอร์ เดลกาโด้, เอริก โลเปซ, ฆาเบียร์ ชิก้า, มานู โมลีน่า, ดาบิด โลเปซ
ภาพข่าวจาก http://news.yahoo.com
