ฟุตบอลกระชับมิตรทีมชาติ
วันศุกร์ที่ 11 พฤศจิกายน 2554
ยูเครน 3:3 เยอรมนี
ประตู : 1-0 ยาร์โมเลนโก้ น.29, 2-0 โคโนปลิยานก้า น.36, 2-1 โครส น.39, 3-1 นาซาเรนโก้ น.45, 3-2 โรลเฟส น.65, 3-3 มุลเลอร์ น.77
ไฮไลท์การทำประตูในเกมนี้
ครึ่งแรก
เกมนี้ออกสตาร์ทมาลูกทีมของโยอัคคิม เลิฟ เล่นกันได้น่าดูกว่าแต่กลับกลายเป็นว่ายูเครน ซึ่งตั้งรับเหนียวแน่นมาได้ประตูไปก่อนในนาทีที่ 28 จากจังหวะที่ อังเดร เชฟเชนโก้ ไหลบอลให้ อาร์เตม มิเลฟสกี้ หลุดไปทางขวาก่อนที่จะเปิดต่อให้ ยาโรสลาฟ ราคิตสกี้ จัดการครอสบอลเข้ามาให้ อังเดร ยาโมเลนโก้ จบสกอร์เข้าไป 1-0
จากนั้นอีก 8 นาที ยูเครน ก็หนีไปเป็น 2-0 เมื่อ มิเลฟสกี้ ได้บอลในแดนตัวเองก่อนวางบอลยาวให้ เยฟเกน โคโนเพลียนก้า ควบไปรับบอลก่อนแตะหลบผู้รักษาประตูและยิงเข้าไปสบายๆ แต่เยอรมัน ก็ไล่ตามมาเป็น 2-1 ในอีก 3 นาทีถัดมาจากการปั่นโค้งสุดท้ายของโทนี่ โครส
เยอรมัน เกือบจะตีเสมอได้ในช่วงก่อนหมดครึ่งแรกจากการโหม่งไปชนเสาของเมซุต โอซิล แต่ก่อนหมดครึ่งแรกยูเครน ก็มาได้ประตูหนีห่างเป็น 3-1 อีกจากการปั่นโค้งสุดสวยของเซอร์เก นาซาเรนโก้ เข้าไป
ครึ่งหลัง
นาที 60 แม้เยอรมนีจะได้ครองบอลมากกว่าแต่ยูเครนยังน่ากลัวในจังหวะโต้กลับโดยใช้การต่อบอล 2-3 ทีโดยคราวนี้เกือบอีกแล้วจากนาซาเรนโก้ที่รับลูกส่งจากทางซ้ายมาก่อนหลุดไปดวลกับซีเลอร์เดี่ยวๆก่อนเน้นยิงเสียบเสาไกลแต่ก็ไม่แม่นพอหลุดออกหลัง
นาที 65 เยอรมนีก็ได้ประตูไล่มาอีกลูกแล้วจากลูกเตะมุมทางขวาเปิดเข้ามาให้กับฮุมเมลส์กลางประตูตวัดบอลจนหลุดมาทางเสาไกลและเป็นโรลเฟสวิ่งเข้ามาซ้ำจ่อๆไม่เหลือ เยอรมนีไล่มาเป็น 2-3
นาที 77 "อินทรีเหล็ก" ก็ตีเสมอได้สำเร็จจาก อาโอโก้ ที่ออกบอลไปให้กับมุลเลอร์ทางซ้ายก่อนกองหน้าดาวรุ่งจะพาบอลตัดเข้าในไปเรื่อยจนได้ช่องก็สับไกทันที ริบก้าเจอบังอยู่เลยพุ่งผิดทางพอบอลมาก็กลับไม่ทันแล้วเลยเข้าประตูไป เยอรมนีตีเสมอเป็น 3-3 สำเร็จ
ก่อนไม่มีฝ่ายใดทำอะไรกันได้อีก จบเกมด้วยการเสมอกันไปแบบสุดเดือด 3-3
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
ยูเครน : โอเลซานเดอร์ รับก้า, โบห์ดาน บุทโก้, ยาโรสลาฟ รากิทสกี้, โอเล็กซานเดอร์ คุชเชอร์, เยฟเก้น เซลิน, อันเดร ยาร์โมเลนโก้
(อาลีเยฟ น.82), อนาโตลี ตีโมชุค, อันเดร เชฟเชนโก้ (เก น.67), เยฟเก้น โคโนปลิยานก้า
(เฟเดทสกี้ น.90), โรมัน เบซุส (นาซาเรนโก้ น.39), อาร์เต็ม มิลเลฟสกี้ (เดวิช น.66) เยอรมนี : รอน-โรแบร์ต ซีเลอร์, เดนนิส อาโอโก้, เจโรม บัวเต็ง, แมตท์ ฮัมเมลส์, โฮลเกอร์ บาดส์ตูเบอร์, คริสเตียน เทรสช์ (โรลเฟส น.46
), เมซุท โอซิล (โพลโดสกี้ น.66), ซามี่ เคดิร่า (ชรูร์เร่ ร.46), มาริโอ เกิทเซ่ (มุลเลอร์ น.66), โทนี่ โครส (เบนเดอร์ น.87), มาริโอ โกเมซ (คาเคา น.83)
