ผลบอล พรีเมียร์ ลีก
วันเสาร์ที่ 14 เมษายน 2555
สนาม : แคร์โรว โร้ด
นอริช ซิตี้ 1 : 6 แมนเชสเตอร์ ซิตี้
ประตู : 0-1 เตเวซ น.18, 0-2 อเกวโร่ น.27, 1-2 เซอร์แมน น.51, 1-3 เตเบซ น.73, 1-4 อเกวโร่ น.75, 1-5 เตเบซ น.80, 1-6 จอห์นสัน น.90+3
ไฮไลท์การทำประตูในเกมนี้
ครึ่งแรก
นาทีที่ 9 เตเวซ โดนย่ำเท้าจนล้มในกรอบ แต่ผู้ตัดสิน คริส ฟอย ไม่ให้จุดโทษ แถมยังชูใบเหลืองให้ดาวยิงอาร์เจนไตน์อีก ก่อนที่จังหวะต่อมา เซร์คิโอ อเกวโร่ "กุน" จะเรียกร้องจะเอาจุดโทษอีกหลังโดนกระแทกหน้าคะมำ ทว่าก็ยังไม่ได้
นาทีที่ 14 "นกขมิ้นเหลืองอ่อน" ใกล้เคียงต่อการได้ประตูสุดๆ เมื่อ แกร้นท์ โฮลต์ เทกตัวขวิดบอลข้าม โจ ฮาร์ท ไปแล้ง แต่โดน โจลีออน เลสค็อตต์ เคลียร์จากเส้นหวุดหวิด
นาทีที่ 18 เล่นเอาเงียบกริบกันทั้งสนามเลย สำหรับลูกยิงของเตเบซในจังหวะนี้ เมื่อเขาได้บอลทางกรอบเขตโทษด้านขวา ก่อนที่จะง้างเท้าตะบันแบบเต็มตีน บอลพุ่งไปเสาแรก ก่อนที่จะส่ายหนีมือของรัดดี้ที่พุ่งไปปิดเสาแรก แต่บอลดันหนีมือเข้าไปเสียบตาข่าย ทำให้ตอนนี้แมนฯซิตี้ออกนำไปก่อนแล้ว 1-0
นาทีที่ 27 ตาค้างไปเลยสำหรับแฟนเจ้าบ้านและกองแช่ง เมื่อเตเวซโชว์จังหวะตัดสินเกม รับบอลจากอเกวโร่ ก่อนที่จพตอกส้นกลับไปให้ดาวยิงอาร์เจนไตน์ตะบันแบบเต็มข้อจากนอกกรอบเขตโทษ บอลพุ่งแหวกอากาศผ่านมือของรัดดี้ที่พุ่งยังไงก็ไม่ทันเข้าไป แมนฯซิตี้แฮปปี้สุดๆ นำห่างแล้ว 2-0
นอริช พยายามฮึด ตอนครึ่งชั่วโมง โฮลต์ กองหน้ากัปตันทีมเอี้ยวตัวตวัดยิงลูกเปิดจากกราบขวาแบบไม่จับ แต่ไม่แรงพอ ฮาร์ท เลยรับสบายๆ จบครึ่งแรก แมนฯ ซิตี้ บุกมานำอยู่ 2-0
ครึ่งหลัง
นาทีที่ 51 นอริช ตีไข่แตกไล่มา 1-2 เมื่อบอมบ์ใส่ แมนฯ ซิตี้ ก่อนที่ ฮาร์ท จะชกออกมาเข้าทางปืน เซอร์แมน แตะแล้วซัลโวเสียบมุมเด็ดขาด
นาที 72 หลัง นอริช จากทำเกมบุกเข้าใส่อยู่นาน แต่ไม่สามารถเจาะแนวรับ เรือใบ ได้ ทำให้ สตีฟ มอริสัน ต้องลองส่องไกล แต่ไม่เข้ากรอบ
ถัดมา 1 นาที ดาบิด ซิลบา ไหลบอลเข้าเขตโทษฝั่งขวาให้ ยาย่าตูเร่ กดเรียดด้วยขวา จอห์น รัดดี้ รับกระฉอก บอลกระดอนมาที่หน้ากรอบ 6 หลา คาร์ลอส เตเวซ โถมตัวโขกเต็มหัว เป็นประตูส่ง เรือใบ ขึ้นนำ 3-1
อีก 2 นาทีต่อมา เกมกลายมาเป็นขาด เมื่ออเกวโร่มาโชว์จังหวะสวยสด โดยเขารับบอลมาจากยาย่า ก่อนที่จะเลี้ยงจี้เข้าหากองหลัง แม้จะโดนเบียดโดนชนแต่ก็ไม่หวั่น ก่อนที่จะตวัดยิงบอลพุ่งโค้งในกรอบเขตโทษไปเสียบเสาสองอย่างสวยงาม ซิตี้ทิ้งห่างเร็วสุดๆ 4-1
จากนั้น มันโช่ ขยับเปลี่ยนตัวโดยส่ง อดัม จอห์นสัน แทน ซิลบา ก่อนที่กองหลังเจ้าบ้าน ไรอัน เบนเน็ตต์ จะจ่ายคืนหลังเบาเกินเลยถูก เตเวซ ฉกเข้าไปแตะหลบ รัดดี้ แล้วแปง่ายๆ เป็นแฮตทริกของตัวเองพร้อมส่งให้ แมนฯ ซิตี้ หนี 5-1 ในนาทีที่ 80
ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 3 จอห์นสันมาทำประตูแปแบบสบายๆจากการจ่ายของกลิชี่ ทำให้แมนเชสเตอร์ ซิตี้เอาชนะนอริชไปแบบท่วมท้น 6-1 มีเพิ่มเป็น 77 คะแนนจี้หาแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเหลือเพียงแค่ 2 แต้ม แม้ว่าจะแข่งมากกว่าหนึ่งนัดก็ตาม
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
นอริช ซิตี้ : จอห์น รัดดี้, เอลเลียต วอร์ด, ไรอัน เบนเน็ตต์
, อดัม ดรูรี่ย์, รัสเซลล์ มาร์ติน, แบรดลี่ย์ จอห์นสัน(เซอร์แมน
น.45), โจนาธาน ฮอว์สัน, แอนโธนี่ย์ พิลกินสัน(ฮูลาแฮน น.45), เอลเลียต เบนเน็ตต์, แอร่อน วิลบราแฮม(มอร์ริสัน น.68), แกรนท์ โฮลท์ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ : โจ ฮาร์ท, โจเลี่ยน เลสค็อตต์, แวนซองต์ กอมปานี, กาแอล กลิชี่, ปาโบล ซาบาเลต้า, ไนเจล เดอ ยอง, แกเร็ธ แบร์รี่, ซาเมียร์ นาสรี่
(ยาย่า น.63), ดาบิด ซิลบา(จอห์นสัน น.76), คาร์ลอส เตเบซ(ริชาร์ดส์ น.81), แซร์คิโอ้ อเกวโร่
