
หลังการทดสอบ โกลไลน์ เทคโนโลยี มานานกว่า 9 เดือน ในหลายประเทศ เช่น อังกฤษ, เยอรมัน, ฮังการี และ อิตาลี ดังนั้นทาง IFAB (สมาคมฟุตบอลนานาชาติ) จึงได้ตัดสินใจนำเทคโนโลยีโกลไลน์เข้าหารือในที่ประชุมวาระพิเศษ ณ กรุงซูริค เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคมที่ผ่านมา
สรุปการประชุม ฟีฟ่า มีมติเอกฉันท์ให้นำ โกลไลน์ เทคโนโลยี มาใช้เป็นครั้งแรกในศึกชิงแชมป์สโมสรโลก 2012 ที่ กรุงโตเกียว ในเดือนธันวาคมนี้
ในการทดสอบรอบแรกมี 8 บริษัทที่เข้ามามีส่วนร่วม แต่มีเพียงสองระบบคือ ฮอว์คอาย และ โกลเรฟ ที่ดีพอและสามารถนำมาประยุกต์รวมกันเป็นลิขสิทธิ์อย่างเป็นทางการของฟีฟ่าที่ชื่อว่า โกลไลน์ เทคโนโลยี
เมื่อนำระบบดังกล่าวไปติดตั้งในสนามกีฬาซึ่งจะเสียค่าใช้จ่ายราว 120,000-200,000 ยูโร มันจะได้รับการตรวจสอบขั้นสุดท้ายเพื่อทดสอบการทำงาน ผลของการทดสอบการติดตั้งขั้นสุดท้ายจะต้องได้รับการรับรองจากผ่ายจัดการแข่งขัน, สโมสรหรือผู้ประกอบการสนามกีฬาก่อนที่ระบบจะถูกใช้ในเกมการแข่งขันได้
IFAB ระบุว่า โกลไลน์ เทคโนโลยี สามารถใช้เพื่อตรวจสอบการเข้าประตูของลูกฟุตบอลหรือในจังหวะปัญหาเพื่อช่วยในการตัดสินใจของผู้ตัดสิน
หากลูกฟุตบอลข้ามเส้นประตูไปเต็มใบ โกล-ไลน์ เทคโนโลยี จะส่งสัญญาณโดยอัตโนมัติไปยังเจ้าหน้าที่ของเกมการแข่งขันภายในหนึ่งวินาที โดยข้อความนี้จะปรากฏอยู่บนนาฬิกาข้อมือของผู้ตัดสินและทีมงานของเขา
อย่างไรก็ตามผู้ตัดสินสามารถปฏิเสธข้อมูลที่โชว์หราอยู่บนนาฬิกาข้อมือในระหว่างการแข่งขันได้หากเขาแน่ใจว่าอุปกรณ์ทำงานผิดพลาด
ภาพประกอบจาก thesun.co.uk
คลิปประกอบจาก youtube/fatv