
ภาพประกอบจาก http://www.dailymail.co.uk
ยอดทีมแห่งศึก พรีเมียร์ลีก บรรลุข้อตกลงความร่วมมือทางธุรกิจกับค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่แดนลุงแซม โดย แมนฯ ยูไนเต็ด จะมีแบรนด์รถยนต์ "เชฟโรเลต" เป็นผู้สนับสนุนรายใหม่บนหน้าอกเสื้อตั้งแต่ในฤดูกาล 2014-15 เป็นต้นไป ในสัญญาระยะเวลา 7 ปี นั่นหมายความว่า "ปิศาจแดง" จะได้รับเงินสนับสนุนจาก เจนเนอรัล มอเตอร์ส เฉลี่ยแล้วฤดูกาลละ 30 ล้านปอนด์ (1,487 ล้านบาท) มากกว่าสัญญาปัจจุบันกับ เอออน ที่มีมูลค่าปีละ 20 ล้านปอนด์
ขณะเดียวกัน มูลค่าสัญญา 30 ล้านปอนด์ต่อปี ยังทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด กลายเป็นสโมสรฟุตบอลที่มีรายรับจากสปอนเซอร์เสื้อแข่งขันสูงที่สุดในโลก แซงหน้า "เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลน่า ที่รับเงินจาก กาตาร์ ฟาวน์เดชั่น ปีละ 25 ล้านปอนด์ด้วย
ริชาร์ด อาร์โนลด์ ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจของ แมนฯ ยูไนเต็ด กล่าวว่า "นี่คือข้อตกลงระยะยาวที่ยอดเยี่ยมสำหรับสโมสร เราเพิ่งเริ่มความร่วมมือกับ เชฟโรเลต เมื่อ 6 สัปดาห์ก่อน ทว่าพวกเขาได้เสนอแนวคิดที่ยอดเยี่ยมสำหรับทั้งสองฝ่ายและสำหรับแฟนบอลกว่า 659 ล้านคนของเราทั่วโลกด้วย"
คาดกันว่าการเซ็นสัญญาครั้งนี้จะสามารถช่วยให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ลดภาระหนี้สินมูลค่ามากกว่า 500 ล้านปอนด์ที่เกิดขึ้นจากการเข้ามาซื้อกิจการสโมสรของตระกูลเกลเซอร์เมื่อปี 2005 ได้อย่างมาก ขณะที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ก็หวังว่าจะสามารถเรียกงบประมาณสำหรับการเสริมทัพมาเพิ่มอีกเพราะตอนนี้มีเป้าหมายที่จะดึง โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ มาจาก อาร์เซน่อล คาดว่าค่าตัวไม่น่าจะต่ำกว่า 15 ล้านปอนด์ รวมถึง ลูคัส ดาวโรจน์บราซิเลียนของ เซา เปาโล ที่ค่าตัวอาจสูงถึง 30 ล้านปอนด์ด้วย
สโมสรที่ทำรายได้จากสปอนเซอร์หน้าอกเสื้อแข่งขันสูงที่สุด (ต่อปี)
1 แมนฯ ยูไนเต็ด 30 ล้านปอนด์ (เจนเนอรัล มอเตอร์ส)
2 บาร์เซโลน่า 25 (กาตาร์ ฟาวน์เดชั่น)
3 บาเยิร์น มิวนิค 23.6 (ดอยช์ เทเลคอม)
4 ลิเวอร์พูล 20 (สแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด)
4 แมนฯ ซิตี้ 20 (เอติฮัด แอร์เวย์ส)
4 ซันเดอร์แลนด์ 20 (อินเวสต์ อิน แอฟริกา)
7 เรอัล มาดริด 16.8 (บีวิน)
8 เชลซี 13.8 (ซัมซุง)
9 สเปอร์ส 10 (ออโตโนมี่ & อินเวสเทค)
9 มิลาน 10 (เอมิเรตส์)
9 นิวคาสเซิ่ล 10 (เวอร์จิน มันนี่)