
ภาพประกอบจาก http://news.yahoo.com
รูนี่ย์ ได้รับมอบหมายจากกุนซือ รอย ฮ็อดจ์สัน ให้สวมปลอกแขนเป็นกัปตันทีม ในเกม ฟุตบอลโลก 2014 รอบคัดเลือก กับ ซานมาริโน เนื่องจาก สตีเว่น เจอร์ราร์ด ติดโทษแบน และ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ก็มีปัญหาบาดเจ็บ ซึ่งเรื่องนี้กลายเป็นที่น่าสนใจไม่น้อยเพราะที่ผ่านมา ดาวยิงจาก แมนฯ ยูไนเต็ด เคยทำพฤติกรรมสุดแสบ ได้รับใบแดงมาหลายครั้งในการสวมเสื้อ "สิงโตคำราม"
กองหน้าวัย 26 ปี เคยโดนไล่ออกจากสนามในการเล่นทีมชาติมาแล้ว 2 ครั้ง หนแรกในปี 2006 จากการกระทืบใส่ ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ ของโปรตุเกส ส่วนอีกครั้งเกิดขึ้นเมื่อปีก่อนตอนที่ไปเตะผู้เล่นของ มอนเตเนโกร
อย่างไรก็ตาม รูนี่ย์ ยืนยันว่าตอนนี้ตัวเองโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่มากกว่าเดิม และไม่มีวันที่จะปรี๊ดแตกทำตัวเกเรแบบที่เคยอีกเป็นอันขาด โดยกล่าวว่า "มันจะไม่เกิดขึ้นอีกแน่ ผมสัญญาได้เลย ผมรู้สึกว่าตัวเองโตขึ้นมากในฐานะนักฟุตบอล สิ่งที่เกิดขึ้นที่มอนเตเนโกรเป็นเรื่องงี่เง่า และตอนนั้นหลังจากที่ทำไปผมก็รู้ตัวแทบจะทันทีว่าตัวเองผิด ผมเสียใจและเสียค่าโง่จากครั้งนั้น"
สิ่งที่ รูนี่ย์ บอกดูเหมือนจะเป็นความจริง เพราะหลังจากเกมที่มอนเตเนโกรเมื่อตุลาคมปีที่แล้ว หัวหอก "ปิศาจแดง" ได้ใบเหลืองแค่ครั้งเดียวในการเล่นทั้งในสโมสรและทีมชาติรวม 44 เกม
"หลังจากนั้นคุณคงเห็นจากการลงเล่นให้สโมสร ว่าผมเปลี่ยนไป ผมลดละเลิกการเข้าสกัดแบบโง่ๆ และไม่ทำพลาดเหมือนสมัยตอนเป็นวัยรุ่นอีก" รูนี่ย์ ซึ่งก่อนหน้านี้เคยทำหน้าที่หัวหน้าทีมชาติอังกฤษมาแล้ว ในเกมอุ่นเครื่องกับบราซิล กล่าวทิ้งท้าย