
ภาพประกอบจาก AFP
บาร์เซโลน่า จบเส้นทาง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ ในฤดูกาลนี้ ด้วยความพ่ายแพ้อย่างย่อยยับ เมื่อโดน บาเยิร์น มิวนิค บุกมาถล่มถึง คัมป์ นู อีก 0-3 รวม 2 นัด สกอร์ขาดลอยถึง 0-7
ในเกมนี้เป็นที่น่าแปลกใจเมื่อ ตีโต้ บีลาโนบา เทรนเนอร์ บาร์ซ่า ตัดสินใจให้ ลิโอเนล เมสซี่ ดาวเตะคนสำคัญนั่งเป็นตัวสำรองโดยที่ไม่ได้ลงเล่นแม้แต่นาทีเดียว แต่ก็เป็นที่เข้าใจได้ว่าเป็นเพราะดาวเตะทีมชาติอาร์เจนตินาไม่อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ หรือในอีกมุมหนึ่งก็คือ "เทรนเนอร์" เจ้าบุญทุ่ม รู้ดีว่าโอกาสจะพลิกสถานการณ์ได้ยากเต็ม
อย่างไรก็ตาม ปิเก้ มองว่า ถึงจะมี เมสซี่ ลงสนามด้วยก็คงไม่ได้มีอะไรแตกต่างออกไปอยู่ดี โดยกล่าวว่า "เมสซี่ คือนักฟุตบอลที่ดีที่สุดในโลก แน่นอนเวลาไม่มีเขาอยู่ในสนามทีมเราก็ไม่เหมือนเดิม แต่ผมไม่คิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันจะแตกต่างออกไปจากนี้แม้จะมีเขาลงเล่นด้วยก็ตาม"
"มันไม่ได้น่าสนุกที่ต้องมาเจอสถานการณ์แบบนี้ ในครึ่งแรกเราพยายามสู้แต่พอโดนพวกเขายิงได้ทุกอย่างมันก็จบ ช่วง 45 นาทีหลังของเกมมันแย่มากๆ"
ด้าน ชาบี เอร์นานเดซ ยอมรับว่า บาร์เซโลน่า ไม่อยู่ในสภาพที่จะสู้กับ บาเยิร์น ได้ เพราะผู้เล่นสำคัญหลายคนเจ็บกันเยอะ แต่ก็ยกย่องยักษ์ใหญ่จากเยอรมนีว่าสมควรเป็นฝ่ายชนะ โดยระบุว่า "เรามีปัญหาเยอะในแดนรับ ทั้ง ปูโยล, อบิดัล, มาสเคราโน่ บุสเกตส์ รวมถึง เมสซี่ แต่เราคงจะมาอ้างไม่ได้ บาเยิร์น เหนือกว่าเราจริงๆ"
อย่างไรก็ตาม ชาบี ย้ำว่าจาก แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบตัดเชือกทั้งสองคู่ ที่ เรอัล มาดริด และ บาร์เซโลน่า พ่ายให้กับ ดอร์ทมุนด์ กับ บาเยิร์น คงไม่ใช่ข้อสรุปที่จะมาชี้ได้ว่าฟุตบอลสเปนได้สูญเสียสถานะความยิ่งใหญ่ให้ฟุตบอลเยอรมนีไปแล้ว
"มันคงจะไม่ใช่หากจะบอกว่าฟุตบอลเยอรมันเหนือกว่าฟุตบอลสเปนเพียงเพราะผลการแข่งขันแค่ไม่กี่แมตช์ พวกเรายังเป็นทีมที่ดีและเป็นทีมที่จะสามารถประสบความสำเร็จไปได้อีกหลายปี แม้เราจะไม่สามารถหาวิธีสู้กับ บาเยิร์น หรือ เรอัล มาดริด ได้ก็ตาม" ชาบี กล่าวทิ้งท้าย