ภาพประกอบจาก AFP
บรรดาแข้งทีมโปรตุกีสเป็นฝ่ายครองเกมได้ซะส่วนใหญ่ แต่หลังจาก เฟร์นานโด ตอร์เรส หัวหอกชาวสแปนิช ซัดเบิกร่องให้ เชลซี ขึ้นนำก่อน 1-0 ก็ทำให้โมเมนตั้มเกมเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
ก่อนที่ "เหยี่ยวลิสบอน" จะตามตีเสมอได้สำเร็จจากลูกจุดโทษของ ออสการ์ คาร์โดโซ่ แต่แล้วโชคชะตาเหมือนเล่นตลกกับทีม เบนฟิก้า เมื่อช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีสุดท้าย เชลซี ได้ลูกเตะมุม ฆวน มาต้า เปิดบอลมาเสาสอง บรานิสลาฟ อิวาโนวิช ขึ้นโหม่งย้อนศรไปเสาแรกลูกย้อยเข้าไปตุงตาข่ายและกลายเป็นประตูชัยให้ทีม "สิงห์บลู" เฉือนเอาชนะ 2-1 ส่งผลให้ยอดทีมจากกรุงลอนดอน สร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์ยูโรปา ลีกได้เป็นครั้งแรก รวมทั้งเป็นการคว้าแชมป์ถ้วยยุโรปเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา
"ผมดีใจสุดๆ มันเป็นเกมที่ยากลำบาก และ เบนฟิก้า ก็เล่นได้ดีกว่าเราจริงๆ ในครึ่งแรก " อดีตดาวยิง ลิเวอร์พูล กล่าวชมคู่แข่ง
"บางทีพวกเขาสมควรอะไรได้มากกว่านี้ โดยเฉพาะความสามารถเฉพาะตัวทำเอาเราลำบากเหมือนกัน"
"ครึ่งแรกเป็นอะไรที่ไม่ดีพอสำหรับเราไม่ว่าจะเป็นสมาธิและความกระตือรือร้นยังไม่ดีเลย"
"เราต้องเปลี่ยนสภาพจิตใจกันใหม่ และคุณก็ได้เห็นในครึ่งหลังแล้วว่าพวกเราสร้างความแตกต่างไปจากเดิม"
"เรามุ่งมั่นจะคว้าแชมป์ยูโรป้า ลีกจริงๆ เพราะบางที นี่อาจเป็นเพียงโอกาสครั้งเดียวของเรา"
นอกจากนี้ ตอร์เรส ยังกล่าวถึงอนาคตในถิ่น แสตมฟอร์ด บริดจ์ ของตนเองอีกด้วยว่า "ผมเซ็นสัญญาเป็นเวลา 5 ปีครึ่ง และผมก็หวังว่าจะได้อยู่กับทีมจนครบตามสัญญา"