เบ็คแฮม แขวนสตั๊ด - FA เล็งดึงเป็นทูตทีมชาติอังกฤษ



เดวิด เบ็คแฮม


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก PATRICK HERTZOG, ROBIN PARKER / FOTOSPORTS INTERNATIONAL, ROBYN BECK, STR, DAMIEN MEYER, JOHANNES EISELE / AFP

          เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2556 เว็บไซต์ independent.co.uk รายงานว่า เดวิด เบ็คแฮม นักเตะดาวดังชาวอังกฤษ วัย 38 ปี ประกาศเตรียมโบกมืออำลาวงการฟุตบอล หลังจากหมดสัญญากับปารีส แซงต์ แชร์กแมง ในฤดูกาลนี้อย่างแน่นอนแล้ว


เดวิด เบ็คแฮม
        

          โดย เดวิด เบ็คแฮม เปิดเผยว่า ผมต้องขอขอบคุณ เปแอสเช ที่ให้โอกาสผมในการค้าแข้งต่อ แต่ตอนนี้ผมรู้สึกว่า มันถึงเวลาเหมาะสมแล้วที่จะยุติอาชีพของตัวเองในการเล่นระดับสูงสุดแล้ว ขอบคุณครอบครัวที่ได้มีส่วนช่วยให้บรรลุความฝัน รวมไปถึงวิคตอเรีย ภรรยา และลูกทั้ง 4 คน ซึ่งเป็นผู้มอบแรงบันดาลใจและสนับสนุนตัวเองในการเล่นมาเป็นเวลานาน ขอบคุณเพื่อนร่วมทีมทุกคน ผู้จัดการทีมที่ยอดเยี่ยมที่ผมได้รับเกียรติได้เรียนรู้กับพวกเขา และขอบคุณแฟน ๆ ที่สนับสนุนผมมาตลอดและส่งแรงใจให้ผมประสบความสำเร็จ

          ด้านเดวิด เบิร์นสไตน์ ประธานสมาคมฟุตบอลอังกฤษ เปิดเผยหลังจากเบ็คแฮมแขวนสตั๊ดว่า ตนเองสนใจที่จะเชิญเบ็คแฮมมาเป็นทูตแก่ฟุตบอลอังกฤษ เนื่องจากเขาได้เป็นสัญลักษณ์ของฟุตบอลไปแล้ว และตนคิดว่า ไม่มีใครเหมาะสมกว่าเบ็คแฮมที่จะได้รับตำแหน่งนี้

          ขณะที่ รอย ฮ็อดจ์สัน ผู้จัดการทีมชาติอังกฤษ เปิดเผยว่า เบ็คแฮมเป็นบุคคลที่มีพรสวรรค์ และเป็นที่ต้องการของทุกคน ฉะนั้น อาจจะทำให้เขาถูกดึงออกจากวงการฟุตบอลได้ แต่ถึงอย่างไร ตนต้องการรักษาเบ็คแฮมให้อยู่ในวงการฟุตบอลใหนานที่สุด เพราะเราจะได้ประโยชน์จากประสบการร์ และความยอดเยี่ยมในช่วงที่เขาได้เป็นนักเตะ

          สำหรับประวัติของเบ็คแฮม เกิดเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม ค.ศ. 1975 (พ.ศ. 2518) เริ่มเป็นนักฟุตบอลอาชีพกับสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยขึ้นทีมชุดใหญ่พร้อม ๆ กับ พอล สโคลส์, นิคกี้ บัตต์, แกรี่ เนวิลล์, ฟิล เนวิลล์ และไรอัน กิ๊กส์ หรือเรียกนักเตะกลุ่มนี้ว่า คลาส ออฟ 92 โดยเริ่มลงสนามในพรีเมียร์ลีก นัดแรก เมื่อวันที่ 2 เมษายน 1995 ในเกมที่พบกับลีดส์ ยูไนเต็ด

เดวิด เบ็คแฮม
         

          อย่างไรก็ตาม ผลงานสร้างชื่อของเบ็คแฮม เกิดขึ้นในฤดูกาล 1996-97 เมื่อสามารถยิงประตูจากครึ่งสนาม ผ่านมือนีล ซุลลิแวน ผู้รักษาประตูวิมเบิลดันไปได้ ในเกมการแข่งขันพรีเมียร์ลีกนัดแรกของฤดูกาล และฤดูกาลนั้นเอง เบ็คแฮมก็คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกกับ แมนฯ ยูไนเต็ดเป็นสมัยที่ 2

         
ทว่า จุดเปลี่ยนของชีวิตเบ็คแฮม เกิดขึ้นในฟุตบอลโลก 1998 ที่ฝรั่งเศสเป็นเจ้าภาพ เมื่อเขากลายเป็นฮีโร่ และแพะรับบาปขึ้นมาในคราวเดียว โดยที่ในเกมฟุตบอลโลกรอบแรก นัดสุดท้าย เบ็คแฮมปั่นฟรีคิกสุดสวยใส่โคลอมเบีย พาทีมเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายของการแข่งขัน ไปพบกับอาร์เจนติน่า คู่ปรับตลอดกาล ซึ่งในเกมนี้เองเบ็คแฮม กลับไปเล่นนอกเกม โดยนำขาไปโดนขาหลังดีโอโก ซิเมโอเน่ นักเตะอาร์เจนติน่า ล้มลง ทำให้ผู้ตัดสินควักใบแดงไล่เบ็คแฮมออกจากสนามทันที ซึ่งผลการแข่งขันในเกมนี้ อังกฤษแพ้ดวลจุดโทษ 4-3 แต่เบ็คแฮมโดนสื่ออังกฤษถล่มยับ เหตุการณ์รุนแรงจนถึงขั้นถูกแฟนบอลขู่ฆ่า

         
แต่ถึงอย่างไร เมื่อกลับมาเล่นให้แมนฯ ยูไนเต็ดหลังจากจบฟุตบอลโลก เบ็คแฮมก็ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม เป็นคนยิงประตูตีเสมอท็อตแน่ม ฮอต สเปอร์ ในเกมพรีเมียร์ลีก นัดสุดท้าย ก่อนที่ยูไนเต็ดจะเป็นฝ่ายชนะในเกมนั้น 2-1 ส่งผลให้คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ต่อมาก็เป็นคนเปิดเตะมุมทั้งสองครั้ง ให้แมนฯ ยูไนเต็ด ยิงประตูแซงบาเยิร์น มิวนิค ในฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก นัดชิงชนะเลิศ ฤดูกาล 1998-99 ได้เป็นผลสำเร็จ ด้วยสกอร์ 2-1 และเป็นการคว้า 3 แชมป์ในปีเดียว

          แม้ว่าชีวิตในเกมทีมชาติของเบ็คแฮม ยังคงสถานะเป็นแพะรับบาปจากฟุตบอลโลก 1998 แต่ในปี 2001 เบ็คแฮมก็สามารถลบล้างสถานะแพะได้เป็นผลสำเร็จ เมื่อปั่นฟรีคิกสุดสวยในนาทีสุดท้าย ของการแข่งขันฟุตบอลโลก 2002 รอบคัดเลือก เกมพบกับกรีซ พาอังกฤษเข้ารอบฟุตบอลโลกด้วยสกอร์ 2-2 แต่ว่า เหมือนโชคชะตาจะเล่นตลกกับเบ็คแฮม เมื่อเขาได้รับบาดเจ็บกระดูกเท้าแตกในเกมที่พบกับเดปอร์ติโบ ลา กอรุนญ่า ในศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ทำให้โอกาสที่จะไปเล่นฟุตบอลโลก 2002 แทบเป็นศูนย์

         
สุดท้าย ปาฏิหาริย์มีจริง เบ็คแฮมสามารถฟิตทันฟุตบอลโลก 2002 และเป็นคนยิงจุดโทษดับอาร์เจนติน่า ล้างแค้นเหตุการณ์เมื่อ 4 ปีที่แล้วได้เป็นผลสำเร็จ พร้อมกับส่งอาร์เจนติน่าตกรอบแรกฟุตบอลโลก ทั้ง ๆ ที่เป็นเต็ง 1 ของรายการ

เดวิด เบ็คแฮม

          เมื่อเข้าสู่ฤดูกาล 2002-03 ชีวิตเบ็คแฮมกับแมนฯ ยูไนเต็ด ก็มาถึงจุดแตกหัก เมื่อเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีม เตะสตั๊ดในห้องแต่งตัวด้วยอารมณ์ที่หงุดหงิด หลังพ่ายอาร์เซน่อล 0-2 คาบ้าน ในศึกเอฟเอ คัพ แต่ว่าสตั๊ดเจ้ากรรม ดันพุ่งไปโดนปลายคิ้วของเบ็คแฮมแตกทันที ทำให้จบฤดูกาลนั้น เบ็คแฮมได้ย้ายซบเรอัล มาดริด จากสเปน ส่วนเหตุการณ์สตั๊ดบิน เฟอร์กูสันออกมายอมรับในภายหลังว่า เขาไม่ได้ตั้งใจเตะให้ถูกเบ็คแฮม ซึ่งถ้าไปเตะอีกรอบก็คงทำไม่ได้แบบนี้แน่นอน

         
ชีวิตในสเปนของเบ็คแฮม ดูเหมือนว่าจะสวยหรู แต่ก็พบกับวิกฤติอีกครั้งในยุคของฟาบิโอ คาเปลโล่ เป็นผู้จัดการทีม เมื่อเขาไม่ได้มีเบ็คแฮมอยู่ในแผนการทำทีม จึงจับนั่งสำรองเป็นส่วนใหญ่ แต่ว่า เบ็คแฮมก็ไม่มีบ่น ก้มหน้าก้มตาซ้อม ทำผลงานให้ดีที่สุด ก่อนที่จะชนะใจคาเปลโล่ได้ กลายเป็นบุคคลสำคัญที่ช่วยให้มาดริด เถลิงแชมป์ลาลีก้า ฤดูกาล 2006-07

          หลังจากได้แชมป์ลาลีกา เบ็คแฮมก็ย้ายสู่สโมสร แอลเอ แกเล็คซี่ และย้ายมาอยู่กับเอซี มิลาน ในอิตาลี แบบยืมตัว ฤดูกาล 2009-10 ซึ่งปีนั้น มีการแข่งขันฟุตบอลโลก 2010 คาดว่า จะเป็นปีสุดท้ายที่จะลงเล่นได้ แต่โชคชะตาเหมือนเล่นตลกอีกแล้ว เมื่อเบ็คแฮมได้รับบาดเจ็บเอ็นร้อยหวายขาด ชวดไปเล่นฟุตบอลโลกแบบเจ็บปวด อย่างไรก็ตาม เบ็คแฮมก็ติดทีมสต๊าฟฟ์ของอังกฤษชุดฟุตบอลโลก 2010 แทน

         
เมื่อหมดสัญญากับ แอลเอ แกแล็คซี่ ในปี 2013 เบ็คแฮมก็เซ็นสัญญาร่วมทีมปารีส แซง แชร์กแมงต์ จากฝรั่งเศส ก่อนที่จะคว้าแชมป์กับเปเแอชเชได้ และตัดสินใจแขวนสตั๊ดในที่สุด ทิ้งทวนผลงานการติดทีมชาติอังกฤษ 115 นัด 17 ประตู


เดวิด เบ็คแฮม


          สุดท้าย ช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมที่สุดของ เดวิด เบ็คแฮม เกิดขึ้นตอนอยู่กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ระหว่างปี 1993-2003 โดยสามารถช่วยทีมคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ได้ถึง 6 สมัย, เอฟเอ คัพ 2 สมัย และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 1 สมัย ส่วนในระดับชาติเขาก้าวขึ้นไปติดทัพสิงโตคำรามครั้งแรกเมื่อเดือนกันยายนปี 1996

          ด้านชีวิตครอบครัว เบ็คแฮม แต่งงานกับวิคตอเรีย อดัมส์ อดีตสมาชิกวงสไปซ์ เกิร์ล มีลูกด้วยกัน 4 คน ได้แก่ บรู้คลิน, โรเมโอ, ครูซ และฮาร์เปอร์

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
มติชน

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เบ็คแฮม แขวนสตั๊ด - FA เล็งดึงเป็นทูตทีมชาติอังกฤษ อัปเดตล่าสุด 17 พฤษภาคม 2556 เวลา 15:36:14 1,085 อ่าน
TOP