อาร์เซน่อล สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ทำช็อคในวันสุดท้ายของตลาดซื้อขายนักเตะ โดยทุบสถิติค่าตัวสูงสุดของสโมสรเดิมจาก 17.5 ล้านปอนด์ ที่เคยจ่ายเป็นค่าตัวของ โฆเซ่ อันโตนิโอ เรเยส ในปี 2004 ด้วยการคว้า เมซุล โอซิล กองกลางชาวเยอรมันของ เรอัล มาดริด มาร่วมทัพอย่างเป็นทางการแล้ว ที่ค่าตัว 42.5 ล้านปอนด์ พร้อมเซ็นสัญญาร่วมงานกันเป็นเวลา 5 ปีรับค่าเหนื่อย 140,000 ปอนด์ ต่อสัปดาห์
อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าววงในเชื่อว่า อาร์แซน เวนเกอร์ กับ แพร์ แมร์เตซัคเกอร์ เป็นคนกล่อมให้เจ้าตัวย้ายมาอยู่ในถิ่น เอมิเรสต์ สเดตี้ยม ได้สำเร็จ และอาจได้สวมเสื้อหมายเลข 11 ลงสนาม ขณะที่ มิดฟิลด์ทีมชาติเยอรมัน ต้องเก็บกระเป๋าออกจากถิ่น ซานติอาโก้ เบอร์นาเบว อย่างกะทันหัน ภายหลังการย้ายมาร่วมทีมของ แกเร็ธ เบล เพราะเจ้าตัวต้องการลงสนามอย่างต่อเนื่อง เพื่อยึดตัวจริงในทีมชาติลุยศึกฟุตบอลโลกในปีหน้านั่นเอง
"ผมกำลังเฝ้ารออนาคตของผมในพรีเมียร์ ลีก และที่ อาร์เซน่อล" โอซิล เผยผ่านทวิตเตอร์
"ในการพูดคุยกับอาร์แซน เวนเกอร์ ผมรู้สึกได้ทันทีว่าเขาเชื่อมั่นในตัวผมอย่างเต็มเปี่ยม"
"ผมจะตอบแทนสโมสรและแฟนบอลในแต่ละเกม ในตอนนี้ผมต้องการช่วยให้สโมสรคว้าแชมป์ให้จงได้"
ส่วนทางด้าน อาร์เซน เวนเกอร์ ก็เผยผ่านเว็บไซต์ของสโมสรว่า "เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ตัว เมซุต มาร่วมทีม เขาเป็นนักเตะที่ยอดเยี่ยมและมีคุณภาพ เขาพิสูจน์ให้เห็นแล้วทั้งในระดับทีมชาติและสโมสร เขามีคุณสมบัติครบถ้วนในสิ่งที่ผมต้องการจริง"
"ผมเคยพูดมาตลอดทั้งซัมเมอร์ว่าเราทำงานอย่างหนักเพื่อดึงนักเตะระดับท็อปเข้าสู่สโมสร และ เมซุต เป็นนักบอลที่มีคุณภาพสูงคนหนึ่ง ทุกคนในทีมต่างพร้อมที่จะได้ร่วมงานกับเขา หลังจบช่วงพักเบรกทีมชาติ เขาจะกลับมาเป็นนักเตะของ อาร์เซน่อล อย่างเต็มตัว"
ทั้งนี้ โอซิล เคยร่วมทีม ชาลเก้ 04 ในปี 2006 ด้วยวัย 18 ปี ซึ่งหลังจากนั้น 2 ปีเขาก็ย้ายไปอยูกับ แวร์เดอร์ เบรเมน สโมสรที่สร้างชื่อขึ้นมาจนโด่งดัง ด้วยการลงสนามไปทั้งหมด 71 เกม จากนั้นเพลย์เมกเกอร์ทีมชาติเยอรมนี ก็ย้ายไปอยู่กับ เรอัล มาดริด ซึ่งเขาก็ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมกับ "ราชันชุดขาว" จนได้ลงเล่นให้ทีมมากกว่า 100 นัด
