
ภาพประกอบจาก AFP
ฟร้องค์ ริเบรี่ สุดยอดเพลย์เมคเกอร์ของ บาเยิร์น มิวนิค หนึ่งในผู้เข้าชิงรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมโลก "ฟีฟ่า บัลลง ดอร์" ประจำปี 2013 ยอมรับว่า ฟุตบอล คือสิ่งที่ให้ทุกอย่างในชีวิต เพราะหากไม่ได้เป็นนักเตะอาชีพ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่า ป่านนี้จะไปทำมาหากินอะไร
ดาวเตะวัย 30 ปี มีพื้นเพอยู่ในย่าน บูโลญจน์-ซูร์-แมร์ก แถบชานเมืองซึ่งประชากรส่วนใหญ่มีรายได้ต่ำ แต่โชคดีที่มีโอกาสได้เข้าร่วมทีมเยาวชนของ ลีลล์ ก่อนจะเริ่มต้นเล่นฟุตบอลอาชีพกับ บูโลญจน์ และพัฒนาตัวเองจนกลายเป็นหนึ่งในนักฟุตบอลที่ดีที่สุดของฝรั่งเศสในยุคนี้
ริเบรี่ กล่าวว่า "ผมโตมาจากสลัม ชีวิตเริ่มต้นจากศูนย์ แต่ผมก็ผ่านมันมาได้ ที่ที่ผมโตมา ผู้คนยากจนมาก และผมเองก็คงจะไม่ต่างจากพวกเขาถ้าไม่ได้มาเป็นนักฟุตบอล ตอนนี้ก็คงเป็นคนตกงานไม่มีช่องทางทำมาหากินเหมือนกับคนส่วนใหญ่ที่นั่น"
"ทุกวันนี้เวลาผมไปช้อปปิ้ง ผมยังคงเตือนตัวเองเสมอว่าสิ่งที่มันเป็นอยู่ตอนนี้ดีมากแค่ไหน คุณไม่มีทางลืมอดีตของตัวเองได้ มันทำให้คุณแกร่งขึ้นเวลาที่คุณต้องผ่านอุปสรรคต่างๆ จนมาวันนี้ผมประสบความสำเร็จที่ บาเยิร์น มันทำให้ผมกลายเป็นนักสู้ บทเรียนต่างๆ ในอดีตมันทำให้ผมเป็นอย่างที่เป็นในวันนี้" เพลย์เมคเกอร์ "ตราไก่" กล่าว
ริเบรี่ เริ่มทำผลงานโด่งดังขึ้นมาจนติดทีมชาติฝรั่งเศสครั้งแรกสมัยที่เล่นอยู่กับ โอลิมปิก มาร์กเซย ในปี 2005 จากนั้นถูก บาเยิร์น ดึงมาร่วมทีมด้วยค่าตัว 25 ล้านยูโร ในปี 2007 และตอนนี้ลงสนามให้ทีม "เสือใต้" ไปแล้ว 259 นัด ยิงได้ 92 ประตู