ภาพข่าว AFP
เวทีฟุตบอลโลกที่เรียกได้ว่าเป็นการแข่งขันที่เหล่านักฟุตบอลทั้งหลายต่างหมายมั่นปั้นมือว่าสักครั้งหนึ่งในชีวิตต้องได้ลงเล่นให้ได้เพื่อเป็นรางวัลแห่งชีวิตค้าแข้ง ทว่าสำหรับผู้เล่นบางรายแม้ว่าจะโด่งดังสักเพียงไหน, เก่งสักเพียงใด แต่พวกเขากลับไม่เคยได้ลิ้มรสเลยว่า เวิลด์ คัพ มันเป็นอย่างไร
คาซูโยชิ มิอุระ (ญี่ปุ่น)
"คิงคาซู" คาซูโยชิ มิอุระ กองหน้าระดับตำนานของญี่ปุ่น ที่เรียกได้ว่าเป็นซุปเปอร์สตาร์ได้อย่างเต็มปากเมื่อเขาสามารถไปโด่งดังได้ถึง อิตาลี กับ ทีมเจนัว ซึ่งความฝันของเขานับตั้งแต่เริ่มต้นเป็นนักเตะอาชีพในปี 1980 ก็คือการได้ไปลงเล่นสักครั้งในฐานะมืออาชีพที่ประเทศบราซิล
ซึ่งเขาตัดสินใจบอกลาทีมชาติไปเมื่อปี 2000 ก่อนที่ ทีมชาติญี่ปุ่น จะได้มีโอกาสไปลงเล่นใน เวิลด์ คัพ 2002 แน่นอนว่าด้วยใจรักฟุตบอลอย่างแท้จริง "คิงคาซู" ในวัย 42 ปี จึงยังไม่เลิกเล่นฟุตบอล และลงเล่นให้กับ เอฟซี โยโกฮาม่า อยู่ลีกดิวิชั่น 2 ญี่ปุ่น
เลียม เบรดี้ (ไอร์แลนด์)
เลียม เบรดี้ ถือว่าเป็นมิดฟิลด์ประเภทอัจฉริยะอย่างแท้จริงในขณะที่เขาค้าแข้งอยู่กับ อาร์เซน่อล หรือว่าไปลงเล่นใน เลก้า เซเรียอา กับ ยูเวนตุส ทว่าเขาก็เป็นหนึ่งในผู้เล่นที่โลกต่างจดจำว่ามีความสามสารถมากเพียงใด แต่กลับไม่เคยได้สัมผัส และลิ้มรสความหอมหวานของ เวิลด์ คัพ เลยแม้แต่หนเดียว
ยารี่ ลิตมาเน่น (ฟินแลนด์)
"ลิตตี้" ยารี่ ลิตมาเน่น ผู้เล่นที่ได้ชื่อว่าดีที่สุดนับตั้งแต่มีนักฟุตบอลของฟินแลนด์เกิดขึ้นมาบนโลกใบนี้ เขาลงรับใช้ ทีมชาติฟินแลนด์ ไปมากกว่า 120 นัด
ทั้งนี้ความตั้งใจของ ยารี่ ลิตมาเน่น ถือว่าไม่ประสบความสำเร็จแม้ว่าเขาจะพยายามสักเพียงใดก็ตาม แต่ก็ไม่เคยพา ฟินแลนด์ ขยับเข้าไปใกล้กับโอกาสที่จะไปเล่นในฟุตบอลโลกเลยแม้แต่หนเดียว ซึ่งหากว่า ฟินแลนด์ ได้โอกาสทะลุไปเล่นในฟุตบอลโลก 2014 หนนี้ล่ะก็ ลิตมาเน่น จะมีอายุครบ 43 ปี พอดีเท่ากับ โรเจอร์ มิลล่า อดีตกองหน้าทีมหมอผี แคเมอรูน ที่เคยสร้างสถิติเอาไว้ในฟุตบอลโลก
เอริค คันโตน่า (ฝรั่งเศส)
สุดยอดซุปเปอร์สตาร์คนดังของ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่แฟน ๆ ต่างยกย่องให้เป็น "เอริค เดอะคิง" แถมยังเป็นผู้เล่นที่โด่งดังที่สุดในโลกสำหรับยุคปี 90 เสียด้วย เสียดายที่เขาไม่เคยได้เข้าไปลงเล่นใน ฟุตบอลโลก เลยแม้แต่หนเดียว เพราะว่าในปี 1994 ฝรั่งเศล ก็ไม่ผ่านรอบคัดเลือกด้วยน้ำมือของ บัลแกเรีย ที่ไปได้ไกลทีเดียวในปีนั้น
พอมาถึง ฟรองซ์98 ที่ฝรั่งเศสเองเป็นเจ้าภาพ ด้วยความเย่อหยิ่งจองหอง และเป็นอาร์ทติสต์ขนานแท้ของ เอริค คันโตน่า ส่งผลให้ เอ็มเม่ ฌักเก้ต์ กุนซือของทัพตราไก่ในตอนนั้นตัดสินใจคัดชื่อของเขาออกด้วยการไว้ใจดาวรุ่งอย่าง ซีเนอดีน ซีดาน ให้มีชื่อไปเล่นฟุตบอลโลกแทน
วาเลนติโน่ มาซโซล่า (อิตาลี)
ยอดนักเตะของอิตาลีในยุค 1940 ถือว่าโด่งดังอย่างสุดขีดกับการลงรับใช้ "กระทิงหิน" โตริโน่ โดย มาซโซล่า ลงเล่นให้กับยอดทีมแห่งตูรินไปถึง 195 นัด ทำได้ทั้งหมด 118 ประตู ถือว่ายอดเยี่ยมที่สุดสำหรับนักเตะในยุคนั้น
ทว่าเมื่อถึงคราวฟุตบอลโลกมาเยือนเขากลับไม่มีโอกาสได้สัมผัสเมื่อมีอาการบาดเจ็บเข้ามาเป็นมารร้าย ส่งผลให้ดาวเตะรุ่นปู่รายนี้จึงไม่เคยได้สัมผัสสุดยอดทัวร์นาเมนต์อย่างฟุตบอลโลกเลยแม้แต่หนเดียว
แบรนด์ ชูสเตอร์ (เยอรมันตะวันตก)
เจ้าของฉายา "ขบถลูกหนัง" รายนี้ถือว่าเป็นนักเตะอีกหนึ่งรายที่มีความสามารถเฉพาะตัวที่ยอดเยี่ยมเฉียบขาด แต่ว่าเมื่อมีความเก่งก็มักจะมาพร้อมกับอารมณ์ติสต์ ซึ่งแน่นอนว่าทำให้ แบรนด์ ชูสเตอร์ ที่มีความก้าวหน้าอย่างมากในอาชีพนักฟุตบอล กลับไม่ประสบความสำเร็จในการได้ไปลุยฟุตบอลโลกแม้แต่หนเดียว
ทว่าประวัติของ ชูสเตอร์ ก็ถือว่าไม่ธรรมดาเมื่อสามารถพาทืม เยอรมันตะวันตก เป็นแชมป์ยุโรปได้ในปี 1980 และยังได้ลงเล่นกับทีมดัง ๆ อย่าง บาร์เซโลน่า หรือว่า เรอัล มาดริด อีกด้วย
ไรอัน กิ๊กส์ (เวลส์)
ไรอัน กิ๊กส์ เป็นนักฟุตบอลในยุคปัจจุบันที่แฟน ๆ ในบ้านเราต่างรู้จักกันดี แน่นอนว่าฉายา "ปีกพ่อมด" นั้นไม่ใช่ได้มาเพราะว่าโชคช่วยแต่อย่างใด แต่ได้มาเพราะว่าความสามารถล้วน ๆ กิ๊กซี่ มีเท้าซ้ายที่คล่องแคล่วบวกกับความเร็วชนิดที่หาตัวจับยากทีเดียว ใครไม่เชื่อลองไปถาม โทนี่ อดัมส์ หรือว่า มาร์ติน คีโอว์น ดูได้ว่าเร็วแค่ไหน
แน่นอนถึงแม้ว่าจะเก่งกาจเพียงใดก็ตามแต่ ไรอัน กิ๊กส์ ก็ไม่เคยแม้แต่ได้เข้าสัมผัสกับรายการใหญ่ ๆ อย่างฟุตบอลโลก หรือว่าฟุตบอลยูโร เลย เพราะว่า เวลส์ มีนักเตะแบบขาเพียแค่คนเดียว เช่นเดียวกับรุ่นก่อนเขาอย่าง เอียน รัช ก็ไม่เคยสัมผัสฟุตบอลโลกเช่นกัน
จอร์จ เวอาห์ (ไลบีเรีย)
สุดยอดนักเตะจากดินแดนแอฟริกาที่ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในนักฟุตบอลที่สุดยอดที่สุดในโลก แถมยังเคยได้ รางวัลบัลลง ดอร์ เสียด้วย ซึ่งเขาโด่งดังอย่างมากสมัยค้าแข้งให้กับ เอซี มิลาน
ครั้งหนึ่ง จอร์จ เวอาห์ เคยได้กล่าวเอาไว้ว่า "หากผมต้องการที่จะลงเล่นในเวิลด์คัพจริง ๆ แบบไม่คิดอะไรมากผมก็สามารถเลือกเล่นให้กับฝรั่งเศส หรือว่า แคเมอรูน ได้อย่างไม่ยากเย็น แต่ว่าผมต้องการที่จะลงเล่นให้กับ ไลบีเรีย ชาติที่ได้ชื่อว่าเป็นแผ่นดินแม่ของผม"
จอร์จ เบสต์ (ไอร์แลนด์เหนือ)
"สุดยอดทั้งชื่อ และสุดยอดทั้งการเป็นนักเตะโดยสมบูรณ์แบบ" นี่คือคำนิยามที่ "ไข่มุกดำ" เปเล่ สุดยอดนักเตะตลอดกาลได้พูดถึง จอร์จ เบสต์
จอร์จ เบสต์ ถือว่าเป็นนักเตะที่มีพรสวรรค์เป็นอย่างยิ่งในยุคนั้นเขาสามารถโชว์ฟอร์มได้อย่างเด็ดขาดในสีเสื้อของ แมนฯ ยูไนเต็ด และแน่นอนว่าเขาคือเทพของเหล่า เร้ด อาร์มี่ ไม่ว่าจะเป็นในอดีตหรือปัจจุบัน ทว่าเมื่อเก่ง และมีชื่อเสียง ชีวิตของเขาก็ต้องอยู่ในแนวเพลย์บอยทั่วไป ด้วยหน้าตาอันหล่อเหลา ถึงกับมีนักข่าวรายหนึ่งเอ่ยถึง เบสต์ ว่า เมื่อคุณเห็น จอร์จ เบสต์ คุณจะได้เห็นเขาพร้อมกับรถสปอร์ต และสาวงามทุกครั้งไป
อัลเฟรโด้ ดิสเตฟาโน่ (อาร์เจนติน่า, โคลอมเบีย, สเปน)
การลงเล่นให้กับ 3 ทีมชาติ ที่ต่างกัน และคว้าแชมป์ ยูโรเปี้ยน คัพ (ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก) ได้ถึง 5 สมัยกับ เรอัล มาดริด แต่นั่นยังไม่เพียงพอที่จะทำให้อัจฉริยะลูกหนังรายนี้ได้สัมผัสบรรยากาศของฟุตบอลโลก
อัลเฟรโด้ ดิ สเตฟาโน่ ลงเล่นให้กับ อาร์เจนติน่า ในช่วงแรกของชีวิตค้าแข้ง ก่อนที่เขาจะโยกมาเล่นให้กับ ทีมชาติโคลอมเบีย ก่อนที่สุดท้ายแล้วเขาจะได้สัญชาติสเปน และเลือกมาลงเล่นให้กับ ทีมชาติสเปน ทว่าเมื่อมีโอกาสจะได้ลงเล่นฟุตบอลโลกเป็นหนแรกในปี 1962 เขากลับถูกอาการบาดเจ็บรบกวนจนสุดท้ายแล้ว เขาก็พลาดที่จะได้ลิ้มรสกลิ่นหอมหวนของฟุตบอลโลก
