เริ่มเกมยังไม่บุกอะไรกันมากโดยทีมเยือนได้โอกาสครั้งแรกจากจังหวะที่ฮเล็บติดเครื่องจากแดนกลางโดยมีอเดบายอร์และยุงเบิร์กวิ่งฉีกแยกทำทางแต่ดาวเตะทีมชาติเบลารุสไม่จ่ายให้ใครลากไปถึงหน้ากรอบโทษก่อนยิงด้วยอีซ้ายบอลพุ่งเลียดน่ากลัวแต่กิฟเว่นล้มตัวเซฟติดมือ
แต่นาทีที่ 9 ลูกสาดยาวจากแดนหลังของเจ้าถิ่นเป็นมาร์ตินส์โขกเช็ดให้ดายเออร์วิ่งตีคู่กับตูเร่ก่อนโขกฉกตัดหน้าเลห์มันน์ที่พยายามออกมาตัดแต่คว้าลมยังดีที่พื้นที่มีน้อยทำให้บอลออกหลังไปเอง
จากนั้นเกมเริ่มมาอยู่ฝั่ง"สาลิกา"จนทำให้แนวรับอาร์เซนอลชักป่วนๆบ้างแล้วและนาที 22 มาร์ตินส์ปาดบอลให้ดัฟฟ์ติดเครื่องก่อนยิงทางฝั่งซ้ายของกรอบโทษบอลพุ่งปาดหลุดเสาไกลออกไปนิดเดียว
ช่วงนาที 25 กิฟเว่นเจ็บเลยต้องเอาฮาร์เปอร์มาแทนทำให้ขวัญของนักเตะเจ้าถิ่นมีแกว่งๆไปเล็กน้อย
"ปืนใหญ่"เดินหน้าปูพรมใส่และอีกไม่กี่นาทีลูกแทงทะลุช่องของฟาเบรกัสให้อเดบายอร์วิ่งหลุดแต่โชว์เหนือเกี่ยวส้นเปลี่ยนทางให้ยุงเบิร์กวิ่งสอดมาแต่โดนเทย์เลอร์ทั้งดึงทั้งฉุดแต่ผู้ตัดสินทำเฉยจนมิดฟิลด์ทีมชาติสวีเดนลุกมาด่าน้ำลายยืดจนรับเหลือไปซะเอง จากภาพช้าก็เห็นชัดเจนว่ายุงเบิร์กโดนทำฟาว์ลจนเวนเกอร์ลุกมาโวยวายอย่างหงุดหงิด
ก่อนหมดเวลาครึ่งแรกห้านาทีดัฟฟ์มีโอกาสล้มตัวยิงแค่ 6 หลาแต่ติดบล็อกแผงหลังทีมเยือนจนเจ้าตัวส่ายหัวด้วยความเสียดาย
อีกนาทีสองนาทีนิวคาสเซิ่ลมาอีกชุดคราวนี้เป็นลูกชุลมุนลอยโด่งกลางอากาศหน้าเขตโทษจนแย่งกันเข้าบอลตุ๊บสองตุ๊บก่อนมาเข้าทางดัฟฟ์ที่ซัดด้วยอีซ้ายแบบไม่เต็มโดยมีเอบูเอ้เข้าเบียดจนบอลถากเสาออกไปเอง หมดครึ่งแรกสกอร์ยัง 0-0
เริ่มครึ่งหลังมาไม่ถึงนาทีอาร์เซนอลเกือบช็อกเมื่อลูกทุ่มมาเข้าทางเจมส์ มิลเนอร์ที่ตัดสินใจเปิดบอลโด่งด้วยหลังเท้ากึ่งๆวอลเลย์บอลย้อยข้ามหัวเลห์มันน์ไปชนคานจังโครม
ยิ่งเล่นเป็นอาร์เซนอลที่หาโอกาสยากขึ้นเรื่อยๆและทำให้นิวคาสเซิ่ลได้ใจขึ้นมาทันตาเห็น เวนเกอร์เห็นท่าไม่ดีเลยส่งเอาบัปติสต้ามาเสริมเกมรุกแทนฮเล็บในนาที 61
วันนี้อาร์เซนอลหมดทั้งสภาพและรูปเกมซึ่งไม่สวยงามและเล่นไม่ออกเลย ส่วนนิวคาสเซิ่ลกำลังรอชิงจังหวะจังๆซักลูกหลังเห็นแข้งทีมเยือนไร้พิษสงสุดๆ
ครึ่งหลังเป็นเกมที่น่าง่วงนอนมาก ไม่มีใครได้สร้างโอกาสไปทำประตูเลย เรียกว่าใครอดนอนมาเยอะๆได้หลับหน้าจอแน่
ก่อนหมดเวลานาทีเดียวนิวคาสเซิ่ลเกือบเฮบ้างเมื่อฟรีคิกไกลเป็นมิลเนอร์ที่สาดเข้ากรอบโทษบอลตกพื้นเด้งผ่านเสาไปนิดเดียวโดยที่ดิยาบี้ไปยื้อและฉุดออนเยวูที่สกรีนมาอยู่ด้านหน้าแต่เข้าไม่ถึงบอลเอง
จากนั้นหมดเวลาทั้งคู่แบ่งกันไปคนละแต้มและทำให้สถานการณ์ไปลุยแชมเปี้ยนส์ลีกของอาร์เซนอลยังไม่แน่ไม่นอนอยู่ต่อไปเช่นเดิม
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
นิวคาสเซิ่ล : กิฟเว่น 6(ฮาร์เปอร์ น.25,6),โซลาโน่ 7,ออนเยวู 6,เทย์เลอร์ 7,คาร์ 6,มิลเนอร์ 7,บัตต์ 8,เอ็มเร 5(ลูเก้ น.88),ดัฟฟ์ 6,มาร์ตินส์ 6,ดายเออร์ 5(เอ็นซอกเบียร์ น.52,6)
อาร์เซนอล : เลห์มันน์ 6,เอบูเอ้ 6,ตูเร่ 7,กัลลาส์ 8 ,คลิชี่ 6,ฮเล็บ 6(บัปติสต้า น.61,6),ฟาเบรกัส 6,จิลแบร์โต้ 7,ดิยาบี้ 7,ยุงเบิร์ก 5,อเดบายอร์ 5(อาลิอาดิแยร์ น.71,6)