ภาพ AFP
ฟุตบอลโลก 2014 เดินหน้าผ่านครึ่งทางไปแล้ว และเราก็ได้เห็นกันชัดมากขึ้นว่าในทัวร์นาเมนต์นี้ ดาวเตะคนไหนบ้างที่ทำผลงานได้โดดเด่นยอดเยี่ยม
หนึ่งในคนที่กำลังถูกพูดถึงมากที่สุดในชั่วโมงนี้ ย่อมหนีไม่พ้น ฮาเมส โรดริเกซ หรือ เจมส์ โรดริเกซ ไอ้หนูดาวโรจน์ทีมชาติโคลอมเบีย ที่กำลังโชว์ฟอร์มสดเหลือเกิน จนทำให้หลายคนกำลังมองว่า ศึก เวิลด์ คัพ 2014 น่าจะเป็นทัวร์นาเมนต์ของเพลย์เมคเกอร์วัย 22 ปีรายนี้
ฮาเมส โรดริเกซ เป็นฮีโร่ 2 ประตู นำ โคลอมเบีย เอาชนะ อุรุกวัย 2-0 ในเกมรอบ 16 ทีมสุดท้ายเมื่อคืนวันเสาร์ที่ 28 มิถุนายน ส่งผลให้ทีม "โคเคน" ผ่านเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ขณะที่ตัวเองก็ยิงไปแล้วรวม 5 ประตู ในฟุตบอลโลก 2014 ขึ้นนำเป็นดาวซัลโว และโดยเฉพาะอย่างยิ่งลูกแรกในเกมกับทีม "จอมโหด" ตอนนี้ถูกยกให้เป็นประตูที่ดีที่สุดของทัวร์นาเมนต์ ฟุตบอลโลก 2014
ความจริงแล้วสำหรับ ฮาเมส โรดริเกซ ไม่ใช่นักเตะโนเนมที่ไม่มีใครรู้จัก เพราะแม้จะเพิ่งอายุ 20 ต้นๆ แต่ดาวเตะรายนี้เริ่มสร้างชื่อมาตั้งแต่ตอนค้าแข้งอยู่ในอาร์เจนตินากับสโมสร แบนฟิลด์ ก่อนจะย้ายมาค้าแข้งในยุโรปกับ ปอร์โต้ และล่าสุดเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา ถูก โมนาโก ทุ่มเงินซื้อตัวไป
และนี่คือบันทึกย่อๆ ก่อนจะมาเป็น ฮาเมส โรดริเกซ ในวันนี้
เจมส์ หรือ ฮาเมส
ฮาเมส เกิดที่ เมือง กูกูต้า ประเทศโคลอมเบีย เมื่อปี 1991 มีชื่อเต็มว่า ฮาเมส ดาบิด โรดริเกซ รูบิโอ ชื่อหน้าของเขาถูกตั้งตามชื่อของ เจมส์ บอนด์ ตัวละครในหนังสายลับดัง แต่ในภาษาสเปนแล้ว ต้องอ่านออกเสียงว่า "ฮาเมส"
พ่อของ ฮาเมส "วิลสัน ฮาเมส โรดริเกซ เบโดย่า" ก็เป็นนักฟุตบอลด้วยเหมือนกัน แต่ผู้ที่เลี้ยงดูและนำพา ฮาเมส ให้ฝึกเล่นฟุตบอลคือพ่อบุญธรรมชื่อ ฮวน การ์ลอส เรสเตรโป
ได้พ่อค้ายาเป็นป๋าดัน
ฮาเมส เริ่มเล่นฟุตบอลให้ทีมโรงเรียน อคาดเมีย โตลิเมนเซ่ และหลังจากเล่นได้อยางโดดเด่นในการแข่งขันระดับเยาวชนรายการหนึ่งเมื่อปี 2004 ฟอร์มก็ไปเข้าตา แมวมองอย่าง กุสตาโบ อดอลโฟ่ อูเปกี โลเปซ โดยแมวมองรายนี้ไม่ธรรมดา แต่เป็นที่รู้กันว่าเป็นพรรคพวกของ ปาโบล เอสโคบาร์ เจ้าพ่อค้ายารายใหญ่ของโคลอมเบีย
หลังจากนั้น ฮาเมส ก็ถูกดึงตัวจาก อคาเดเมีย ไปร่วมทีมอาชีพ เอ็นบีกาโด้
เริ่มสร้างชื่อที่อาร์เจนตินา
หลังจากเริ่มเล่นอาชีพในบ้านเกิด ฮาเมส โรดริเกซ ถูก แบนฟิลด์ สโมสรในอาร์เจนตินาคว้าตัวมาร่วมทีมในปี 2008 และทำให้ไอ้หนู ฮาเมส กลายเป็นผู้เล่นต่างชาติอายุน้อยที่สุดที่ได้เล่นในลีกแดน "ฟ้า-ขาว" ฟอร์มการเล่นของ ฮาเมส โดดเด่นขึ้นเรื่อยๆ จนถูกเว็บไซต์กีฬาชื่อดัง "Diario Ole" เอาไปเปรียบเทียบกับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ของทางฝั่งยุโรป
ย้ายสู่ ปอร์โต้
ในปี 2010 ฮาเมส ก็ได้ย้ายมาเล่นในยุโรปกับ เอฟซี ปอร์โต้ ด้วยค่าตัว 5.1 ล้านยูโร โดยสโมสรแดนฝอยทอง ตั้งเงื่อนไขฉีกสัญญาของดาวเตะรายนี้ไว้ถึง 30 ล้านยูโร และเพียงแค่ผ่านไปฤดูกาลเดียว ปอร์โต้ ก็ต้องจับ ฮาเมส เซ็นสัญญาใหม่ถึง 5 ปี พร้อมกับเพิ่มเงื่อนไขฉีกสัญญาเป็น 45 ล้านยูโร เพราะไอ้หนูรายนี้โชว์ฝีเท้าได้ยอดเยี่ยมเหลือเกินจนเริ่มเป็นที่สนใจของทีมยักษ์ใหญ่ในยุโรป
ในฤดูกาล 2011-12 ฮาเมส ทำสถิติ ยิง 14 ประตู และเปิดให้เพื่อนอีก 11 ครั้ง พร้อมกับคว้ารางวัลผู้เล่นดาวรุ่งยอดเยี่ยมด้วยวัย 20 ปี
จอมทัพหมายเลข 10
ฤดูกาล 2012-13 ฮาเมส โรดริเกซ ได้รับเสื้อหมายเลข 10 ของ ปอร์โต้ ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นว่าเขากลายเป็นผู้เล่นคนสำคัญของทีมไปแล้ว เพราะหลังจากดาวดังทั้ง ฮัลค์, เฟรดี้ กวาริน และ ราดาเมล ฟัลเกา ย้ายออกจากทีมไป ฮาเมส ก็ต้องรับภาระในการเป็นผู้นำทีม ซึ่งวันเดอร์คิดโคเคนก็ทำได้ดี เขานำ ปอร์โต้ คว้าแชมป์ลีกเป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกัน และนี่นับเป็นแชมป์รายการที่ 8 ในช่วง 3 ปีที่ ฮาเมส อยู่กับ ปอร์โต้
ก้าวต่อไปกับ โมนาโก
เดือนพฤษภาคม 2013 ฮาเมส ถูก โมนาโก ดึงไปร่วมทีมด้วยค่าตัวที่คาดว่าสูงถึง 45 ล้านยูโร และแน่นอน เขาทำผลงานให้ทีมใหม่ได้อย่างที่ถูกคาดหวัง ยิงไป 10 ประตู ผ่านบอลให้เพื่อนยิงอีก 12 ครั้ง
และแม้จะไม่สามารถช่วยทีมคว้าแชมป์ได้ แต่ ฮาเมส ก็โดดเด่นพอที่จะติดทีมยอดเยี่ยมของ ลีก เอิง ประจำฤดูกาลที่ผ่านมา
แจ้งเกิดเต็มตัวใน ฟุตบอลโลก
เมื่อโคลอมเบียต้องขาด ราดาเมล ฟัลเกา ดาราเบอร์ 1 ของทีม ที่ได้รับบาดเจ็บ นั่นทำให้ ฮาเมส โรดริเกซ ต้องกลายมาเป็นผู้นำในเกมรุกของทีม และผลก็ออกมาอย่างที่เห็น หลังจาก 4 นัดผ่านไป ฮาเมส ยิงไปแล้ว 5 ประตู นำเป็นดาวซัลโว แซงหน้าดาวดังอย่าง ลิโอเนล เมสซี่ และ เนย์มาร์ ด้วยซ้ำ
แน่นอนว่า ฮาเมส ยังจะนำ โคลอมเบีย เดินหน้าสร้างชื่อไว้ใน ฟุตบอลโลก 2014 หนนี้ต่อไป
