มาริโอ เกิทเซ่ ฮีโร่พาเยอรมนีสู่แชมป์ฟุตบอลโลกในรอบ 24 ปี

 

 

ODD ANDERSEN / AFP

 

 

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก PATRIK STOLLARZ / AFP

 
          ในคืนวันที่ 13 กรกฎาคม ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557) หรือช่วงเช้าวันใหม่ของบ้านเรา ชื่อของ "มาริโอ เกิทเซ่ (Mario Götze)" ก็ถูกจารึกในหน้าประวัติศาสตร์ของวงการฟุตบอลเยอรมนี เทียบเท่ากับเฮลมุต ราห์น, แกร์ด มุลเลอร์ และอันเดรียส เบรห์เม่ ไปเรียบร้อยแล้ว ในฐานะผู้ที่ยิงประตูชัยให้ทีมฟุตบอลเยอรมนี คว้าแชมป์ฟุตบอลโลกสมัยที่ 4 ยุติการรอคอย 24 ปี เป็นผลสำเร็จ


 
          อย่างไรก็ตาม แม้ว่า เกิทเซ่ ยังไม่สามารถยึดตำแหน่งตัวจริงในทีมชาติได้อย่างถาวร แต่ชื่อเสียงของเขาก็ดังไม่ใช่น้อยเลยล่ะ เพราะในฟุตบอลโลกครั้งนี้ เจ้าตัวฝากฝีเท้าสร้างสีสันแทบทุกเกมจนแจ้งเกิดในหมู่ผู้ชม อีกทั้งหน้าตาหล่อ ๆ บวกหุ่นล่ำ ๆ ของเขายังติดแท็กฮิตในโลกออนไลน์อย่าง #นักบอลหล่อบอกด้วย ทำให้คอบอลสาว ๆ ให้ความสนใจพ่อหนุ่มคนนี้กันไม่น้อย แถมประตูฮีโร่ในรอบชิงชนะเลิศ ยังส่งให้เขา "หล่อ" สุด ๆ ไปเลยล่ะ ...ว่าแล้ว ตามไปรู้จัก มาริโอ เกิทเซ่ (Mario Götze) กันเลยดีกว่า


 
มาริโอ เกิทเซ่ (Mario Götze) ประวัติส่วนตัว กับเส้นทางสายฟุตบอล


 
          มาริโอ เกิทเซ่ (Mario Gotze) เกิดเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน ค.ศ. 1992 (พ.ศ. 2535) ที่เมืองเมมมิงเก้น แคว้นบาวาเรีย ประเทศเยอรมนี เริ่มเล่นฟุตบอลตั้งแต่อายุ 3 ขวบ และเข้าสู่ทีมเยาวชนของสโมสรโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เมื่ออายุ 9 ขวบ ก่อนขึ้นชุดใหญ่เป็นครั้งแรกใน ค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2552) ในตำแหน่งกองกลางตัวรุก แล้วหลังจากนั้นก็เริ่มเป็นตัวหลักของสโมสร


 
มาริโอ เกิทเซ่ (Mario Götze) กับชีวิตในดอร์ทมุนด์

 

ODD ANDERSEN / AFP


 
          เมื่อเกิทเซ่เริ่มมาเป็นตัวหลักของสโมสร ผลงานของดอร์ทมุนด์ก็เริ่มบินสูงทันที ด้วยการยกระดับมาเป็นผู้ท้าชิงแชมป์บุนเดสลีก้า เยอรมนี กับบาเยิร์น มิวนิค สโมสรยักษ์ใหญ่ของประเทศ อย่างเต็มตัว โดยเกิทเซ่ ได้ประสานงานในแดนหน้ากับโรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ศูนย์หน้าของทีม ช่วยให้ฤดูกาล 2010-11 สามารถคว้าแชมป์บุนเดสลีก้าได้ ขณะที่ฤดูกาลต่อมา ก็ได้สร้างประวัติศาสตร์คว้าดับเบิลแชมป์ โดยกวาดแชมป์บุนเดสลีก้า กับ เดเอฟเบ โพคาล


 
          อย่างไรก็ตาม ในช่วงต้นปี ค.ศ. 2013 การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญสำหรับตัวเกิทเซ่ก็เกิดขึ้น เมื่อบาเยิร์น มิวนิค สโมสรเพื่อนร่วมลีก ได้ยื่นซื้อตัวเกิทเซ่ในราคา 37 ล้านยูโร ซึ่งตรงกับค่าฉีกสัญญาของเจ้าตัวพอดี ทำให้บาเยิร์น สามารถเข้าไปเจรจากับตัวเกิทเซ่ได้ทันที โดยที่ทางสโมสรไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธข้อเสนอ เว้นแต่ว่าตัวเกิทเซ่จะปฏิเสธข้อเสนอเอง


 
          สุดท้าย เกิทเซ่ก็ตัดสินใจย้ายไปร่วมทัพบาเยิร์น หลังจากจบฤดูกาล 2012-13 นับเป็นการย้ายตัวที่สั่นสะเทือนวงการฟุตบอลเยอรมนี โดยเจ้าตัวให้เหตุผลว่า "ผมต้องการเก่งกว่านี้" อีกทั้งต้องการเพิ่มโอกาสในการติดทีมชาติเยอรมนี รวมถึงต้องการร่วมงานกับเป๊ป กวาร์ดิโอล่า ผู้ฝึกสอนของบาเยิร์น ซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นสุดยอดกุนซือยุคใหม่ ซึ่งในเรื่องสุดท้าย ทางเจอร์เก้นส์ คล็อปป์ ผู้ฝึกสอนของดอร์ทมุนด์ ก็ออกมาตัดพ้อผ่านสื่อเช่นกันเกี่ยวกับการตัดสินใจของเกิทเซ่ ส่วนทางแฟนบอลดอร์ทมุนด์เอง ก็มีทั้งขอบคุณในผลงานที่ทำมาโดยตลอด และก่นด่าว่าเป็นผู้ทรยศ


 
          อย่างไรก็ดี ดราม่าการย้ายตัวของเกิทเซ่ยังไม่จบ เมื่อในฤดูกาลนั้นเอง ดอร์ทมุนด์ ต้องมาเผชิญหน้ากับบาเยิร์น ในรอบชิงชนะเลิศฟุตบอลสโมสรยุโรป ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก โดยที่เกิทเซ่ไม่สามารถลงเกมนั้นได้ เนื่องจากมีอาการบาดเจ็บ สุดท้ายก็เป็นบาเยิร์นทีมใหม่ชนะดอร์ทมุนด์ทีมเก่าไปได้ 2-1 ทำให้ฤดูกาลนั้น ดอร์ทมุนด์คว้า 3 รองแชมป์ในฤดูกาลเดียว


 
มาริโอ เกิทเซ่ (Mario Götze) กับ ชีวิตใหม่ที่บาเยิร์น


 
          เกิทเซ่ ย้ายไปร่วมทัพบาเยิร์นในฤดูกาล 2013-14 เป็นฤดูกาลแรก แม้ว่าจะมีอาการบาดเจ็บรบกวนอยู่บ้าง แต่เขาก็เป็นหนึ่งในพลพรรคบาเยิร์นที่พาทีมคว้า 4 แชมป์ในฤดูกาลเดียว ได้แก่ บุนเดสลีก้า, เดเอฟเบ โพคาล, ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ และฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก ส่วนในฤดูกาล 2014-15 ที่กำลังจะมาถึงนี้ เขาก็จะได้มีโอกาสร่วมงานกับเลวานดอฟสกี้อีกครั้ง หลังจากที่ย้ายมาจากดอร์ทมุนด์โดยไม่มีค่าตัว


 
มาริโอ เกิทเซ่ (Mario Götze) กับ ทีมชาติเยอรมนี

 

ODD ANDERSEN / AFP


 
          เกิทเซ่ ฉายแววอัจฉริยะตั้งแต่อายุยังน้อย ด้วยการติดทีมชาติตั้งแต่ชุดอายุต่ำกว่า 15 ปี ไล่ขึ้นมาเรื่อย ๆ ในชุดต่ำกว่า 16 ปี, 17 ปี และ 21 ปี ตามลำดับ ซึ่งตอนที่เกิทเซ่ติดทีมชุดต่ำกว่า 17 ปีนั้น ก็สามารถคว้าแชมป์ยูโร ชุดต่ำกว่า 17 ปีได้ด้วยในปี ค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2552)


 
          ขณะที่ทีมชาติชุดใหญ่ เริ่มติดทีมชาติเป็นครั้งแรกใน ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553) อย่างไรก็ตาม ในฟุตบอลโลกปีดังกล่าว เกิทเซ่ไม่ได้ติดทีมไป มาติดทีมในทัวร์นาเมนต์ใหญ่ครั้งแรกในศึกยูโร 2012 ซึ่งในรายการดังกล่าว เยอรมนีจบเส้นทางที่รอบรองชนะเลิศ พ่ายอิตาลีไป 1-2


 
          ส่วนในฟุตบอลโลก 2014 ที่เพิ่งผ่านพ้นไปนั้น นับว่าเป็นรายการที่สร้างชื่อให้เกิทเซ่เลยทีเดียว โดยในรายการนี้เขายิงไปทั้งหมด 2 ประตู ในเกมรอบแรกที่พบกับกาน่า และรอบชิงชนะเลิศที่พบกับอาร์เจนตินา โดยลงมาเป็นตัวสำรอง เป็นหมากเด็ดของโยอาคิม เลิฟ ผู้จัดการทีม พาทีมสู่บัลลังก์แชมป์โลกครั้งที่ 4


 
มาริโอ เกิทเซ่ (Mario Götze) กับ รางวัลส่วนตัว


 
          เกิทเซ่ ได้รางวัลเกียรติยศส่วนตัว สมัยที่เป็นนักเตะเยาวชน ทั้งรางวัลเหรียญฟริตซ์ วอลเตอร์ ซึ่งเป็นรางวัลที่แจกให้แก่นักเตะดาวรุ่งที่ค้าแข้งในเยอรมนี โดยเกิทเซ่ได้รางวัลนี้ 2 สมัย ปี ค.ศ. 2009 และ 2010 นอกจากนี้ ในรางวัลระดับทวีป เจ้าตัวก็สามารถคว้ารางวัลโกลเด้น บอย อวอร์ด ในปี ค.ศ. 2011 ซึ่งมาจากการโหวตของผู้สื่อข่าวในยุโรปหลายประเทศ


 
มาริโอ เกิทเซ่ (Mario Götze) กับ แฟนสาวนางแบบ

 

PEDRO UGARTE / AFP


 
          แน่นอนว่า นักบอลหล่อ ๆ แบบนี้ จะไม่มีคนรู้ใจได้อย่างไร โดยหลังจากที่เกมนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 2014 จบลง บรรดาแม่บ้านเยอรมัน ก็ต่างลงมาในสนามมาหาแฟนหรือสามีของตัวเอง ซึ่งในบรรดาแฟนนักบอลทีมชุดนี้นั้น นับว่า แฟนของเกิทเซ่ เป็นสาวที่สะดุดตาคนหนึ่ง จนหลายคนอยากรู้ว่า เธอมีชื่อเสียงเรียงนามว่าอย่างไร


 
          สำหรับแฟนเกิทเซ่ เธอชื่อ แอน แคธริน บรอมเมล เป็นซูเปอร์โมเดล มีใบหน้าที่สวยคม หุ่นสวยงามโค้งเว้าเร้าใจ แต่หลายคนอาจจะไม่ทราบว่า เธอมีอายุแก่กว่าเกิทเซ่ 3 ปี และมีส่วนสูงที่สูงกว่า 1 เซนติเมตร


 
มาริโอ เกิทเซ่ (Mario Götze) กับเกร็ดน่ารู้อื่น ๆ


 
          - เกิทเซ่ สามารถเล่นได้ทั้งปีกซ้ายและปีกขวา เพลย์เมกเกอร์ หรือแม้กระทั่งเป็น กองกลางตัวสอดเข้าไปยิงประตู (False 9) ดังที่ยิงได้ในนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 2014 อีกด้วย


 
          - ค่าตัวของเกิทเซ่ ที่ย้ายจากดอร์ทมุนด์ ไป บาเยิร์น มูลค่า 37 ล้านยูโร นับเป็นค่าตัวที่แพงที่สุดของนักฟุตบอลเยอรมนี ก่อนที่จะถูกเมซุต โอซิล ทำลายสถิติในปี 2013 ด้วยการย้ายจากเรอัล มาดริด ไป อาร์เซน่อล ค่าตัว 42.5 ล้านยูโร


 
          จากเรื่องราวทั้งหมดนี้ ก็เป็นประวัติเนื้อ ๆ เน้น ๆ ของมาริโอ เกิทเซ่ ฮีโร่ผู้พาเยอรมนีขึ้นสู่บัลลังก์แชมป์ฟุตบอลโลกในรอบ 24 ปี
 
 

 

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
มาริโอ เกิทเซ่ ฮีโร่พาเยอรมนีสู่แชมป์ฟุตบอลโลกในรอบ 24 ปี อัปเดตล่าสุด 15 กรกฎาคม 2557 เวลา 17:54:34 5,603 อ่าน
TOP