
ภาพ AFP
เบื้องหลังการเซ็นสัญญาย้ายทีมของนักฟุตบอลทั้งที่โด่งดังระดับโลกหรือเป็นพวกตัวเล็กตัวน้อย ล้วนมีการทำข้อตกลงเงื่อนไขตามแต่ใจของนักเตะ และตามที่สโมสรต้องการ และบางครั้งเมื่อข้อเท็จจริงเป็นที่เปิดเผยออกมา มันทำให้เราถึงกับอึ้งว่าเงื่อนไขพวกนี้เขาคิดกันได้ยังไง
ต้องบอกว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง และบุคคลในเรื่องก็มีอยู่จริง ไม่ใช่ตัวแสดงแทน
10 อันดับ เงื่อนไขการเซ็นสัญญา ย้ายทีม ที่เพี้ยนที่สุดในโลก
10 คริสเตียโน่ โรนัลโด้ - เรอัล มาดริด
เป็นที่รู้กันว่า โรนัลโด้ ย้ายมาร่วมทีม เรอัล มาดริด ด้วยค่าตัวถึง 80 ล้านปอนด์ และเมื่อได้ตัวมาแล้ว "ราชันชุดขาว" คงไม่อยากจะเสีย "เจ็ทโด้" ไปอีก
ตามรายงานข่าวจาก "มาร์ก้า" เปิดเผยว่า เรอัล มาดริด ถึงกับระบุไว้ในสัญญาของ โรนัลโด้ ว่าทีมไหนจะมาขอซื้อ ต้องยื่นข้อเสนอมูลค่า 1 พันล้านยูโร เท่านั้น ก็ตีความได้ว่าคงไม่ต้องย้ายไปไหนกันแล้วละ
ใครจะซื้อ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ จ่ายมาแค่ 1 พันล้านยูโร
9 สติ๊ก อิงเก้ บียอร์นบี้ - ลิเวอร์พูล
บียอร์นบี้ย์ ย้ายมาร่วมทีม ลิเวอร์พูล ในปี 1992 โดยที่ฝั่ง "หงส์แดง" ระบุเงื่อนไขในสัญญาแบบมึนๆ อยู่เหมือนกัน
สัญญาของ บียอร์นบี้ กำหนดไว้ว่าห้ามไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับกิจกรรมการเล่นสกีใดๆ ทั้งสิ้น ใครไม่รู้ก็อาจจะนึกว่า ลิเวอร์พูล ไม่อยากให้อดีตแบ็กทีมชาติเดนมาร์กเสี่ยงต่ออาการบาดเจ็บ แต่ความจริงคือว่า "หงส์แดง" กลัวว่านักเตะจะหันไปเอาดีทางการเล่นสกีอย่างจริงจังตามแบบคุณพ่อที่เป็นนักสกีระดับแชมป์โอลิมปิกต่างหาก
8 แบร์นด์ สตานเก้ - ทีมชาติอิรัก
สตานเก้ เทรนเนอร์รุ่นลายครามชาวเยอรมัน เซ็นสัญญาคุมทีมชาติอิรักในปี 2002 ในช่วงเดียวกับที่ จอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ สั่งการกองทัพให้เคลื่อนพลสู่ตะวันออกกลางเต็มกำลัง และกุนซือเมืองเบียร์ได้ขอให้มีการระบุเงื่อนไขว่า 1 เขาจะไม่ตอบคำถามเกี่ยวกับเรื่องการเมืองใดๆ ทั้งสิ้น และ 2 เขามีสิทธิ์ที่จะยกเลิกสัญญาเมื่อมีการโจมตีเปิดฉากขึ้น
การตั้งเงื่อนไขของ สตานเก้ ถูกยกให้เป็นแนวคิดที่ฉลาดล้ำ
7 สเตฟาน ชวาร์ซ - ซันเดอร์แลนด์
ในระหว่างการเจรจาเพื่อร่างสัญญาก่อนที่จะจบเรื่องการย้ายทีม สเตฟาน ชวาร์ซ ถูกตัวแทนของฝ่าย ซันเดอร์แลนด์ ยิงคำถามว่าในระหว่างที่เล่นกับทีม ความฝันสูงสุดที่อยากจะทำคืออะไร คำตอบจากกองกลางทีมชาติสวีเดนก็คือ ถ้ามีการเปิดขายตั๋วกันจริงๆ จังๆ เมื่อไหร่ จะขอนั่งจรวดขึ้นไปท่องอวกาศ
ก็เป็นอันสรุปว่า ซันเดอร์แลนด์ เขียนชัดเจนลงไปในสัญญาว่า "ห้ามขึ้นไปบนอวกาศ" ปิดทางไม่ให้ ชวาร์ซ ได้ทำเรื่องห่ามๆ แบบนี้
ตอนอยู่กับ ลิเวอร์พูล สติ๊ก อิงเก้ บียอร์นบี้ หมดสิทธิ์เล่นสกีไม่ว่ากรณีใด ๆ
6 ดาบิด บีย่า - บาร์เซโลน่า
ดาบิด บีย่า กลายเป็นนักฟุตบอลคนแรกในประวัติศาสตร์ ที่มีการระบุเงื่อนไขเกี่ยวกับการเหยียดสีผิวไว้ในสัญญา ตอนย้ายจาก บาเลนเซีย มาเล่นกับ บาร์เซโลน่า ในปี 2010
แต่กรณีของ บีย่า ไม่ได้ถือว่าเป็นเรื่องแปลก แต่เป็นการเริ่มต้นรณรงค์เรื่องการเหยียดผิวในวงการฟุตบอล โดย โจน ลาปอร์ต้า อดีตประธานสโมสร บาร์ซ่า ระบุว่า "มันเป็นครั้งแรกที่สัญญามีการระบุถึงเรื่องเหยียดผิวไว้ตามความตกลงของสโมสรฟุตบอลในยุโรป จากนี้ไปเราจะบันทึกเรื่องนี้ไว้ในการเซ็นสัญญาทุกครั้ง"
5 บ็อบบี้ กูลด์ - วิมเบิลดัน
ขึ้นชื่อเรื่องความห่ามคงไม่มีใครเกินคนนี้ แซม แฮมแมม นักธุรกิจชาวเลบานอนที่เคยซื้อทีมดังในอังกฤษทั้ง วิมเบิลดัน และ คาร์ดิฟฟ์ มาบริหาร
ในสมัยที่ แฮมแมม ยังเป็นเจ้าของทีม วิมเบิลดัน แนวคิดหลุดโลกของเขาคือที่มาของฉายา "เครซี่ แก๊ง" ของพลพรรคนักเตะ "เดอะ ดอนส์" และหนึ่งในความเมพของเขาเกิดขึ้นในการเซ็นสัญญา บ็อบบี้ กูลด์ เข้ามาเป็นผู้จัดการทีมในช่วงปี 1987 ถึง 1990
แฮมแมม ตั้งเงื่อนไขในสัญญาของ กูลด์ ว่าเขามีสิทธิ์ที่จะสั่งให้มีการเปลี่ยนผู้เล่นชุด 11 คนแรกก่อนถึงเวลาเตะ 45 นาที และแม้จะไม่ได้มีการนำเอาเงื่อนไขนี้มาบังคับใช้จริง แต่ กูลด์ ก็คงเป็นผู้จัดการทีมคนเดียวในโลกที่ยอมขนาดนี้
4 แฟร้งค์ พาเกลสดอร์ฟ - ฮัมบูร์ก
อันนี้เป็นลักษณะของความสัมพันธ์ที่ปกติคงไม่ได้เห็นกันบ่อยนัก เพื่อ แฟร้งค์ พาเกลสดอร์ฟ เซ็นสัญญาคุมทีม ฮัมบูร์ก โดยขอกำหนดเงื่อนไขว่า เมื่อไหร่ที่ท่านประธานสโมสร อูเว่ ซีเลอร์ พ้นจากตำแหน่ง เขาก็จะขอออกจากทีมไปด้วยพร้อมๆ กัน
และแล้ววันนั้นก็มาถึง เมื่อ ซีเลอร์ พ้นตำแหน่งไป ใครๆ ก็คิดว่าเดี๋ยว พาเกลสดอร์ฟ คงไขก๊อกลาออกตามด้วย แต่เอาเข้าจริงๆ ก็คือ เขายังอยู่คุมทีม ฮัมบูร์ก ต่อไปอีกตั้ง 4 ปี
3 โชเซ่ มูรินโญ่ - อินเตอร์ มิลาน
กรณีของ มูรินโญ่ ออกแนวโชว์เก๋าไม่มีอะไรมากกว่านั้น
ในปี 2010 สุดยอดกุนซือจอมยียวน พูดถึงสัญญาของตัวเองที่เซ็นไว้กับ อินเตอร์ มิลาน ว่า "สัญญาของผมมันระบุไว้อย่างง่ายๆ ผมยังเหลือสัญญาอีก 3 ปี โดยมีเงื่อนไขว่าพวกเขาไม่มีสิทธิ์มาขวางถ้าผมอยากออก"
ช่วงกำลังขึ้นหม้อสุด ๆ โชเซ่ มูรินโญ่ อยากได้เงื่อนไขอะไร สโมสรระดับ อินเตอร์ ยังไม่กล้าต่อรอง
2 นูรี่ ซาฮิน - ลิเวอร์พูล
เดือนมกราคม ปี 2012 ลิเวอร์พูล ตั้งใจจะซื้อ นูรี่ ซาฮิน จาก เรอัล มาดริด ทว่ารายละเอียดเล็กน้อยในสัญญาทำให้มันเกิดขึ้นไม่ได้
กองกลางทีมชาติตุรกี ขอตั้งเงื่อนไขในสัญญาว่า หากมีทีมที่อยู่ในข่ายลุ้นแชมป์ยื่นข้อเสนอขอซื้อตัวด้วยมูลค่า 5 ปอนด์ ย้ำว่าแค่ 5 ปอนด์ ลิเวอร์พูล ต้องยอมขาย แล้วอย่างนี้ทีมไหนมันจะไปยอมตกลงด้วย
สรุปแล้ว ลิเวอร์พูล ก็เลยเปลี่ยนเป็นขอยืมมาลองใช้งานก่อนแค่ฤดูกาลเดียว ซึ่งก็ถือว่าทำถูกแล้วละ
1 สเปนเซอร์ พริเออร์ - คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้
ความเพี้ยนของ แซม แฮมแมม กลับมาอีกรอบ คราวนี้เป็นตอนที่บริหารทีม คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้
ในปี 2001 ตอนที่จะเซ็นสัญญาคว้า สเปนเซอร์ พริเออร์ จาก แมนฯ ซิตี้ ไม่น่าเชื่อว่าในเงื่อนไขข้อตกลงจะมีการกำหนดไว้ว่า พริเออร์ จะต้องทำท่าทางมีความสัมพันธ์กับแกะ และต้องกินลูกอัณฑะแกะด้วย !!
แน่นอนว่าเงื่อนไขข้อนี้ไม่ได้มีการบังคับใช้กันจริงๆ แต่ แฮมแมม ประธานสโมสรสุดเพี้ยนก็ยังพูดตลกได้ว่า "เอาละ ถ้ามันแย่เกินไปเขาจะหามะนาว, เกลือ หรือพาสลี่ย์มาแกล้มแก้เลี่ยนก็ได้นะ"
แซม แฮมแมม คนนี้ที่สุดของความเพี้ยน
เนื้อหาจาก fourfourtwo.com