ภาพข่าว AFP
หลุยส์ ซัวเรซ หัวหอกป้ายแดงบาร์เซโลน่า เปิดเผยความรู้สึกในใจลึก ๆ ของเขาผ่านทางหนังสือเล่มใหม่ของตัวเองว่าไม่เคยมีแม้สักครั้งที่จะมีพฤติกรรมเหยียดผิว ทว่ากลับถูกตราหน้าว่าเป็นพวกชอบเหยียดผิว แถมยังต้องถูกลงโทษแบนห้ามลงสนามถึง 8 นัดด้วยกัน จากรายงานของ โกล ดอท คอม เมื่อ 27 ต.ค. ที่ผ่านมา
หัวหอกทีมชาติอุรุกวัย เคยถูกลงโทษในข้อหาเหยียดผิว ปาทริซ เอฟรา อดีตแบ็กซ้ายแมนฯ ยูไนเต็ด เมื่อปี 2011 ส่งผลให้เขาถูกลงโทษห้ามลงแข่งขันถึง 8 แมตช์ด้วยกัน และยังโดนตำหนิอีกมากมาย ซึ่งเจ้าตัวยืนยันว่าไม่ได้เป็นคนแบบนั้น ถึงแม้ว่าเรื่องกัด และการชอบพุ่งล้มนั้นจะเป็นจริงก็ตาม
หลุยส์ ซัวเรซ เปิดใจว่า "พวกคุณจะด่าว่าผมว่าเป็นไอ้จอมกัด หรือไอ้พวกขี้พุ่งก็ได้ผมไม่ว่าหรอก แต่ผมขอยืนยันเลยว่าผมไม่ใช่พวกชอบเหยียดสีผิว และผมไม่เคยเหยียดผิวใครทั้งนั้นให้ตายสิพับผ่า ผมต้องโดนแบน 8 นัด แถมยังต้องถูกตราหน้าไปตลอดชีวิตว่าเป็นคนที่เหยียดผิวคนด้วยกันเอง มันแย่มาก ๆ เลย"
"มันเจ็บปวดมากนะที่ผมต้องทนรับกับสิ่งที่ผมไม่ได้ทำเลย และมันไม่ได้ส่งผลแค่กับผมมันเลยเถิดไปถึงภรรยาของผม เธอเองก็ต้องทนกับสิ่งที่คนอื่นกล่าวหาผม ทั้ง ๆ ที่เธอเองรู้ดีว่าผมไม่มีทางที่จะเป็นคนอย่างนั้นแน่นอน และในอนาคตหากลูก ๆ ของผมโตขึ้นพวกเขาก็อาจจะได้รับผลกระทบในครั้งนี้ว่าพ่อของพวกเขาเป็นพวกเหยียดสีผิว ผมว่ามันไม่แฟร์กับครอบครัวของผมเลย"
"ในตอนนั้นที่ผมเถียงกับ ปาทริซ ผมใช้ภาษาสเปนว่า 'negro' ซึ่งมันมีความหมายประมาณว่า รึเปล่า - ใช่รึเปล่า"
"คำว่า 'negro' ในภาษาสเปนมีความหมายเดียวกับภาษาอังกฤษรึเปล่าผมตอบเลยว่าไม่ใช่อย่างแน่นอน ผมเป็นคนเหยียดผิวรึเปล่า มันไม่ไม่ใช่แน่ๆ" อดีตกองหน้าลิเวอร์พูล ร่ายยาว