ในช่วงต้นเกม เชลซี ต้องเสียมิชาเอล บัลลัค กองกลางคนสำคัญไปตั้งแต่ต้นเกมจากอาการบาดเจ็บ จนทำให้ต้องเปลี่ยนเอาจอห์น โอบี มิเกล ลงสนามมาแทน
อย่างไรก็ดี เกมในช่วงครึ่งแรกเป็นเกมที่ตันและไม่มีจังหวะจะโคนที่จะสร้างความหวาดเสียวกันได้เท่าไหร่ เนื่องจากทางนิวคาสเซิล ใช้เกมเพรสซิ่งบีบจนทีมรองจ่าฝูงต้องคายบอลเร็วและไม่สามารถใช้การสร้างสรรค์ได้อย่างเต็มที่ จบครึ่งแรกสกอร์ก็เลยยังไม่มีใครทำอะไรก็ได้ เสมอกันไปก่อน 0-0
เริ่มครึ่งหลังมาไม่กี่นาทีกาลูใช้สปีดหนีแบรมเบิ้ลเข้าถึงเขตโทษแม้จะตะกุกตะกักแต่ก็ยังทะลึ่งไปได้เรื่อยๆก่อนตบกลับให้แลมพาร์ดวิ่งมาซัดแต่บอลโด่งเหินออกไปแบบไม่มีลุ้น จากนั้นไม่นานไรท์ ฟิลลิปส์ป้ายจากหน้าเขตโทษให้ดร็อกบาวิ่งเอียงตัวปั่นไซด์แต่บอลข้ามคานไปไกลพอๆกับแลมพ์
พอดูไม่มีอนาคตมูรินโญ่ก็เปลี่ยนเอาโจ โคลมาแทนไรท์ ฟิลลิปส์มาแทนในนาทีที่ 55 หมายจะเอาประตูขึ้นนำให้ได้
เชลซี พยายามแต่ไม่สามารถเจาะแนวรับของนิวคาสเซิลได้อยู่ดี และช่วงท้ายเกมในการทดเวลาบาดเจ็บยังเกือบโดนทีเด็ดจากเกมสวนกลับของเจ้าบ้านอีกด้วย โดยเป็นการเปิดบอลแอนดรูว์ แคร์โรลล์ ที่ได้หลุดทะลุเข้าไปผ่านบอลมาหน้าปากประตูแต่ดันไม่มีเพื่อนเติมขึ้นมา
แต่หลังจากนั้น โจ โคล ก็เกือบเป็นฮีโร่ให้ทีมเมื่อได้บอลโยนจากกราบขวาของแฟร์เรยร่า ก่อนจะวิ่งแปโดนไม่เต็ม แต่บอลก็พุ่งกระดอนถากเสาไปอย่างน่าเสียดาย ทำให้จบเกมด้วยการเสมอกันไป 0-0 และทำให้เชลซี ยังต้องตามหลังแมนฯ ยูไนเต็ดอยู่ 3 คะแนนเท่าเดิม พลาดโอกาสในการไล่บี้ลุ้นแชมป์อย่างน่าเสียดาย
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
นิวคาสเซิล : สตีฟ ฮาร์เปอร์ ,โนลแบร์โต้ โซลาโน่ ,ไตตัส บรัมเบิ้ล ,สตีเฟ่น เทย์เลอร์ ,สตีเฟ่น คาร์ ,เจมส์ มิลเนอร์ ,นิคกี้ บัตต์ ,คีรอน ดายเออร์ ,เอ็มเร่ โบโลโซกลู ,อองตวน ซิเบียร์สกี้ (แอนดรูว์ แคร์โรลล์ น.78) ,โอบาเฟมี่ มาร์ตินส์
เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก ,เปาโล แฟร์เรยร่า ,มิชาแอล เอสเซียง ,จอห์น เทอร์รี่ ,เวย์น บริดจ์ ,ฌอน ไรท์ ฟิลลิปส์ (โจ โคล น.55) ,โคล้ด มาเกเลเล่ (อังเดร เชฟเชนโก้ น.76) ,แฟรงค์ แลมพาร์ด ,มิชาเอล บัลลัค (จอห์น มิเกล น.13) ,ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา ,ซาโลมง กาลู