ภาพข่าว GOAL THAILAND
สำหรับ ทีมชาติไทย ใน ซูซูกิคัพ ต้องมาอยู่ในกลุ่มนี้ถือว่าหนักเอาเรื่องอยู่ เพราะว่าแชมป์เก่าอย่าง สิงคโปร์ ก็สามารถเอาชนะเราไปได้ในแมตช์ชิงชนะเลิศเมื่อ 2 ปีก่อน ส่วน มาเลเซีย ถือว่ากำลังพัฒนา ขณะที่ เมียนมาร์ เป็นม้ามืดที่ประมาทไม่ได้เลยทีเดียว
ข้อมูลเจาะลึก 4 ทีมกลุ่มบี
สิงคโปร์ ในฐานะเจ้าภาพร่วม และแชมป์เก่า พวกเขาคงไม่มีหนทางไหนในการแข่งขันครั้งนี้มากกว่าพยายามที่จะป้องกันแชมป์ให้ได้เท่านั้น
ทว่าในการแข่งขันครั้งนี้ สิงคโปร์ เองก็เปลี่ยนแปลงไปพอสมควรเมื่อ อเล็กซานเดอร์ ดูลิช หัวหอกตัวเก่งรีไทร์ไปเรียบร้อย ขณะที่ ราด็อจโก้ อัฟราโมวิช กุนซือคนเก่งก็ตัดสินใจอำลาทีมไป แล้วได้ทางด้านเฮดโค้ชเยอรมนีอย่าง เบิร์นด์ สเตนจ์ เข้ามาคุมทีมแทน
โดยทาง สิงคโปร์ ถือว่าเป็นทีมที่ได้แชมป์ อาเซียนคัพ มากที่สุดเนื่องจากว่าจัดการซิวแชมป์ไปแล้วทั้งหมด 4 ครั้งด้วยกัน
"ช้างศึก" ไทยแลนด์ ครองแชมป์ อาเซียนคัพ มาแล้วทั้งหมด 3 ครั้งด้วยกัน ซึ่งในครั้งนี้ถือว่าเป็นงานหนักอีกครั้งที่ต้องมาอยู่ใน กรุ๊ป ออฟ เดธ ทว่าด้วยผลงานของ "โค้ชซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ก็ประจักษ์ให้เห็นแล้ว่าเขาแน่แค่ไหนที่พาทีมคว้าอันดับ 4 เอเชียนเกมส์ มาครองได้ แถมยังทวงแชมป์ซีเกมส์คืนมาได้แล้วอีกด้วย
ทีมชาติไทยชุดนี้จะเน้นไปที่ผู้เล่นดาวรุ่งจาก เอเชียนเกมส์ เป็นหลักเพื่อเป็นฐานในระยะยาวโดยจะมี ชนาธิป สรงกระสินธ์, ชาริล ชัปปุยส์, อดิศักดิ์ ไกรษร และนฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม เป็นตัวชูโรง ส่วนผู้เบ่นตัวเก๋าอย่าง อดุลย์ หละโสะ กลับมาติดทีมชาติอีกครั้งในฐานะกัปตันทีม บวกกับผู้เล่นหน้าใหม่อย่าง มงคล ทศไกร กับ ประกิต ดีพร้อม
แน่นอนว่าความหวังของทีมชาติไทยที่จะได้เป็นแชมป์สมัยที่ 4 เทียบเท่า สิงคโปร์ ก็มีอยู่ไม่น้อยทีเดียว เพราะว่าผู้เล่นทุกคนที่ "โค้ชซิโก้" คัดเลือกมานั้นถือว่าเด็ดดวงจริง ๆ
"เสือเหลือง" มาเลเซีย คว้าแชมป์ อาเซียนคัพ มาแล้ว 1 สมัยในปี 2010 ทว่ากุนซือคนเก่าคนแก่ของ มาเลซีย ก็ได้ตัดสินใจสละเก้าอี้ออกไปแล้ว โดยได้อดีตผู้เล่นชื่อดังอย่าง ดอลล่าห์ ซัลเลห์ ขึ้นมาคุมทีมชุดนี้แทน
โดยทาง มาเลเซีย ชุดนี้จะมีทีเด็ดตรงผู้เล่นอย่าง ซาฟี ซาลี่ กับ อัมรี่ ยาย่าห์ คู่หูจากทีม จอฮอร์ มาช่วยกันถล่มประตู แต่ที่น่าเป็นห่วงคือ เสือเหลืองตัวนี้อาจจะไม่ดุอย่างที่คิดเพราะว่าพวกเขาอุ่นเครื่องมาแล้ว 5 นัด แต่กลับพ่ายแพ้ไปถึง 4 นัดด้วยกัน
เมียนมาร์ ผ่านเข้ารอบแบ่งกลุ่มด้วยตำแหน่งแชมป์ในรอบคัดเลือกด้วยฝีมือของ ราด็อจโก้ อัฟราโมวิช กุนซือผู้ที่พา สิงคโปร์ เป็นแชมป์ในการแข่งขันเมื่อปี 2012
โดยในสถิติที่ผ่านมา เมียนมาร์ ทำได้ดีที่สุดเพียงแค่ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศเมื่อปี 2004 เท่านั้น นอกจากนั้นพวกเขายังไม่เคยทำได้ดีกว่านี้เลยแม้แต่หนด้วย แต่ด้วยฝีมือของ "พ่อมดขาว" ราด็อจโก้ อัฟราโมวิช อาจจะทำให้เมียนมาร์กลายเป็นม้ามืดในการแข่งขันครั้งนี้ก็เป็นได้