ในเกมนี้ แมนฯยูไนเต็ด ยังคงยึดผู้เล่นชุดเดิมจากนัดที่แล้ว ขณะที่ลิเวอร์พูล มีการเปลี่ยนแปลงผู้เล่นจากนัดแรกในตำแหน่งผู้รักษาประตูที่โรเบิร์ต ได้ลงเล่นแทน มาร์ติน แฮนเซ่น และในตำแหน่งมิดฟิลด์ ที่อาสทริท อัจดาเรวิช ได้ล่งตัวจริง แทน ลี วู๊ดวาร์ด
ช่วงแรกทั้งสองยังไม่สามารถพังประตูกันได้ จนกระทั้งจบ 45 นาทีแรก สกอร์ยังคงอยู่ที่ 0-0
ครึ่งหลังยูไนเต็ดเริ่มต้นเหมือน 45 นาทีแรกตามสไตล์และห้านาทีแรกก็น่าจะตอกฝาโลงคู่ปรับเก่าเมื่อ"ไอ้น้ำดื่ม"เก็บบอลแดนกลางได้ก่อนผ่านบอลสุดเนียนให้แบรนดี้วิ่งทะลุช่องที่สลัดหนีการประกบไปดวลตัวต่อตัวกับนายทวารแต่ดันยิงไปตรงตัวทำให้โรเบิร์สเซฟเอาไว้ได้เฉย
อย่างไรก็ตามนาที 56 ร็อบบี้ เธรลฟอลล์ที่ยิงประตูตัวเองนัดแรกสบโอกาสวอลเลย์ในกรอบด้วยอีซ้ายพิโรธบอลพุ่งเสียบตาข่ายไม่มีเหลือให้ลิเวอร์พูลขึ้นนำ 1-0 และรวมสองสกอร์สองนัดเสมอกันแล้ว 2-2
จากนั้นแมนฯยูไนเต็ดพยายามทวงประตูคืนอย่างหนัก แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่สามารถพังประตูตีเสมอได้ ทำให้จบ 90 นาที ลิเวอร์พูลชนะไป 1-0 รวมผลสองนัด เสมอกัน 2-2 ต้องไปดวลกันต่อในช่วงต่อเวลาพิเศษ
ช่วงต่อเวลาพิเศษทั้งสองฝ่ายต่างเล่นกันอย่างระวังตัวทำให้ไม่มีฝ่ายไหนทำประตูกันเพิ่มได้จนหมดเวลาพิเศษต้องตัดสินกันด้วยการดวลจุดโทษ ผลปรากฏว่า "หงส์จูเนียร์ส" ซัดได้แม่นยำกว่าเอาชนะไปด้วยสกอร์ 4-3 คว้าแชมป์ไปครองเป็นปีที่สองติดต่อกันได้สำเร็จ
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
แมนฯ ยูไนเต็ด : รอน โรเบิร์ต ซีเลอร์, ริชาร์ด เอ็คเคิร์สลี่ย์, เคนนี่ สตริคแลนด์, เจมส์ เชสเตอร์, คอร์รี่ย์ อีแวนส์, ดาเนี่ยล เวลเบค, ดาเนี่ยล ดริ้งค์วอเตอร์, แซม เฮว์สัน, ดาเนี่ยล กัลเบรธ, คริส เฟแกน, เฟเบียน แบรนดี้
ลิเวอร์พูล : เดวิด โรเบิร์ตส์, สตีเฟ่น ดาร์บี้, เจย์ สเปียริ่ง, ร็อบบี้ เธรลฟอลล์, ไมเคิ่ล เบิร์นส์, ชาร์ลี บาร์เน็ตต์, จิมมี่ ไรอัน, อัสทริท อดาเรวิช, เรย์ม่อนด์ พัตเตอริลล์, ไรอัน ฟลินน์, เคร็ก ลินฟิลด์