ภาพข่าว AFP, สปอร์ต ฮีโร่ จำกัด, Afro Picgy's Studio
ทีมชาติไทย สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ด้วยการครองแชมป์ เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ เป็นสมัยที่ 4 เท่ากับ สิงคโปร์ เจ้าของสถิติเดิม ซึ่งลูกทีมของ "โค้ชซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ถือว่าโชว์ฟอร์มการเล่นได้อย่างแจ่มแจ้ง ด้วยผลงานลงแข่งขัน 7 นัด ชนะ 5 นัด เสมอ 1 นัด และแพ้ 1 นัด
ถึงแม้ว่าในเกมการแข่งขันนัดสุดท้าย ทีมชาติไทย จะพ่ายแพ้ต่อ มาเลเซีย ไป 2-3 ทว่ารวมผล 2 นัดแล้ว ทัพช้างศึก เอาชนะไปได้ในสกอร์รวม 2 นัด 4-3 งาบแชมป์ไปครองอย่างสง่าผ่าเผย ซึ่งทาง อีเอสพีเอ็น เลือกระบบการเล่น 4-1-4-1 เอาไว้ในทีมยอดเยี่ยมครั้งนี้
ทีมยอดเยี่ยม เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ 2014
ผู้รักษาประตู : กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ (ไทย)
มือกาววัย 24 ปี จาก เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ถือว่าเป็นรองกัปตันทีม ทว่าเมื่อ อดุลย์ หละโสะ ไม่ได้ลงสนามเขาก็กลายเป็นกัปตันทีมไปโดยปริยาย ซึ่ง "เจ้าตอง" ถือว่าโชว์ฟอร์มการเซฟประตูได้อย่างยอดเยี่ยมโดยเก็บคลีนชีทไปทั้งหมด 4 เกม จากการลงแข่งขัน 7 นัด ถือว่าไม่ธรรมดา
แบ็คซ้าย : พีรพัฒน์ โน๊ตชัยยา (ไทย)
"เจ้าบาส" พีรพัฒน์ โน๊ตชัยยา ถือว่าเป็นแบ็คซ้ายดาวรุ่งที่สามารถรังสรรค์ผลงานออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมทีเดียว เขาลงเล่นทางกราบซ้ายกับ เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ ได้อย่างลงตัว และด้วยการแบ็คซ้ายทว่ากลับเติมขึ้นมายิงประตูได้ถึง 6 ครั้งตลอดทัวร์นาเม้นท์ บวกกับอีกกว่า 200 ครั้งในการผ่านบอล อนาคตของเขาคงไปได้อีกไกล
เซนเตอร์แบ็ค : ชูเคอร์ อัดนาน (มาเลเซีย)
ปราการหลังกัปตันทีมชาติมาเลเซียวัย 35 ปี ถือว่ามีลูกเก๋าประสบการณ์โชวฉ์ให้เห็นเยอะในการแข่งขันครั้งนี้ โดยหลังจบการแข่งขันที่ได้เพียงรองแชมป์เจ้าตัวก้ประกาศอำลาทีมชาติทันที เนื่องจากว่าต้องการให้ มาเลเซีย ดันนักเตะเลือดใหม่ขึ้นมาแทนที่ผู้เล่นหน้าเก่าแบบเขา ตามแบบทีมชาติไทย
เซนเตอร์แบ็ค : ธนบูรณ์ เกษารัตน์ (ไทย)
"เจ้าตั้ม" ธนบูรณ์ เกษารัตน์ เจ้าของสถิติการเคลียร์บอกมากที่สุดใน ซูซูกิคัพ หนนี้ แน่นอนว่าสถิติไม่เคยหลอกใคร การที่ "โค้ชซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง เลือกใช้ กองหลังดาวรุ่ง รายนี้แทนที่จะเลือกใช้แนวรับประสบการณ์สูงอย่าง ชลทิตย์ จันทคาม หรือว่า ณัฐพร พันฤทธิ์ ถือว่าเป็นสิ่งที่เสียงมาก แต่เมื่อได้เห็นฝีเท้า และการอ่านเกมแล้ว ต้องบอกว่า เซนเตอร์วัย 21 ปี อนาคตไกลทีเดียว แถม "เจ้าตั้ม" ยังสามารถดันขึ้นไปเล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรับได้อีกด้วย และมีลูกยิงไกลเป็นทีเด็ดอย่างในเกมที่เจ้าตัวยิงใส่เมียนมาร์ในรอบแบ่งกลุ่ม
แบ็คขวา : กี ง็อค ไฮ (เวียดนาม)
กี ง็อค ไฮ ถือว่าเป็นแบ็คขวาที่มีความสมดุลย์สูงทีเดียว ทั้งเรื่องความเร็วที่ไม่เป็นรองปีกฝั่งตรงข้าม แถมยังมีสปีดต้นอันน่าเหลือเชื่อ บวกกับเทคนิคการเล่นอันแพรวตามแบบฉบับการเป็นแบ็คที่ดีทั้งลูกครอสที่อันตรายหรือว่าการอ่านเกมที่เฉียบขาด
มิดฟิลด์ : ฮาริสส์ ฮารัน (สิงคโปร์)
ฮาริสส์ ฮารัน จอมทัพของสิงคโปร์ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งมิดฟิลด์ที่รับบทบาทได้อย่างเฉียบขาดในการคุมแผงกองกลางของสิงคโปร์ แน่นอนว่าเจ้าตัวมีเบสิคที่ยอดเยี่ยม พร้อมกับมีทีเด็ดในการสังหารประตูคู่แข่ง แม้ว่าทีมจะต้องตกรอบไปตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่ม แต่ด้วยฝีเท้าที่ฉมัง และการบงการเกมตามแบบฉบับของจอมทัพส่งผลให้ ฮาริสส์ ฮารัน เข้ามาติดทีมยอดเยี่ยมไปด้วย
มิดฟิลด์ : อัมรี่ ยาย่าห์ (มาเลเซีย)
มิดฟิลด์ตัวเก่งจากเซลังงอ ถือว่าเป็นหัวใจของแผงกองกลางมาเลเซียเลยทีเดียว และด้วยวัย 31 ปี ไม่ได้ทำให้ อัมรี่ ยาย่าห์ ฟอร์มถดถอยไปจากสมัยหนุ่่ม ๆ เลย ทั้งด้วยเทคนิคที่แพรวพราวไม่ว่าจะเป็นสกิลการเลี้ยงบอลที่พริ้วไหว และการส่งบอลอันแม่นยำ
มิดฟิลด์ : ชาริล ชัปปุยส์ (ไทย)
ซุปตาร์ลูกหนังทีมชาติไทย ถือว่าเป็นหนึ่งในกองกลางที่เจ๋งที่สุดใน เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ 2014 ครั้งนี้ ด้วยสไตล์การจ่ายบอลแบบง่าย ๆ เล่นง่ายไม่ดึงจังหวะมากจนเกินไป แถมยังมีลูกนิ่งเป็นทีเด็ดทั้งฟรีคิก หรือว่าลูกจุดโทษที่ยิงได้อย่างเฉียบคม โดยแข้งลูกครึ่ง ไทย-สวิส รายนี้ถือว่าแจ้งเกิดได้อย่างเต็มตัวในทัวร์นาเม้นท์นี้ ไม่ใช่เพียงหน้าตาเท่านั้นที่ทำให้ ชาริล ชัปปุยส์ แจ้งเกิดได้ แต่เพราะด้วยฝีเท้าที่ได้รับการยอมรับกันในวงกว้าง นั่นทำให้ กองกลางหน้าหล่อรายนี้ ประสบความสำเร็จ
มิดฟิลด์ : ชนาธิป สรงกระสินธ์ (ไทย)
ผู้เล่นรางวัล MVP ประจำทัวร์นาเม้นท์อย่าง "เมสซี่เจ" ชนาธิป สรงกระสินธ์ แน่นอนว่าหากไม่แน่จริงคงไม่ได้รางวัลนี้มาครอบครอง แถมยังเป็นผู้เล่น MVP ที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ของทัวร์นาเม้นท์อีกด้วย เพราะด้วยฝีเท้าที่ฉกาจฉกรรจ์สามารถพาบอลเคลื่อนที่ไปข้างหน้าได้อย่างนิ่มนวล และความเร็วที่ยอดเยี่ยมแสดงให้ทุกสายตาได้ประจักษ์แล้วว่าเขานั้นเหนือกว่าผู้เล่นอีกหลาย ๆ คนมากแค่ไหน
มิดฟิลด์ : พาห์ม ทัน ลอง (เวียดนาม)
ปีกขวาตัวเก่งของเวียดนามมีความเร็วเป็นจุดเด่นยามที่เขาพาบอลตะลุยไปข้างหน้า หรือแม้แต่การเลี้ยงตัดเข้ากลางก็คล่องแคล่วไม่แพ้ใครเลยทีเดียว พาห์ม ทัน ลอง สามารถโชว์สกิลของตัวเองได้อย่างต่อเนื่องเมื่อยามลงสนาม นั่นจึงทำให้เขากลายเป็นผู้เล่นตำแหน่งปีกที่ดีที่สุดในทัวร์นาเม้นท์
กองหน้า : ฟิล ยังฮัสแบนด์ (ฟิลิปปินส์)
ฟิล ยังฮัสแบนด์ จากอดีตเด็กฝึกหัดของ เชลซี ยอดทีมแห่งพรีเมียร์ลีกอังกฤษ แม้ว่าในวันนี้เขาจะไม่ได้ลงเล่นกับสโมสรที่ใหญ่มากแต่ว่าเทคนิคส่วนตัวของเขาถือว่าเหนือชั้นมากเลยทีเดียว และเป็นตัวหลักของ ดิ อัซกาลส์ มาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นจังหวะยิงประตูหรือจ่ายบอลให้เพื่อนถือว่าหัวหอกรายนี้แจ่มแจ๋วเป็นที่สุด
ผู้เล่นตัวสำรอง
ฮัซซัน ซันนี่ (สิงคโปร์)
ซิโมเน่ โรต้า (ฟิลิปปินส์)
เลห์ พุค ตู (เวียดนาม)
ซาฟิค ราฮิม (มาเลเซีย)
เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ (ไทย)
อินดรา ปูตา มาฮายุดดิน (มาเลเซีย)
เลห์ คอง วิน (เวียดนาม)
โค้ชยอดเยี่ยม ประจำทัวร์นาเม้นท์
"ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง
คงไม่มีใครมาแย่งตำแหน่งโค้ชยอดเยี่ยมไปจาก กุนซือคนหนุ่มวัย 41 ปี ไปได้ ด้วยแทคติคที่เขาใส่ให้ลูกทีม พร้อมกับระเบียบวินัยในสนาม และความฟิต ซึ่งทำให้ ทีมชาติไทย สามารถก้าวขึ้นมาเป็นเบอร์ 1 อาเซียนได้อย่างสง่าผ่าเผย ด้วยรูปแบบการเล่นเกมบุกที่ดุดัน และต่อบอลกันได้อย่างสวยงาม
แน่นอนว่าเขาคือบุรุษเพียงรายเดียวในประวัติศาสตร์ฟุตบอล อาเซียน คัพ ที่สามารถก้าวขึ้นเป็นแชมป์ได้ทั้งในฐานะผู้เล่น และในบทบาทการเป็นกุนซือ
ขอบคุณข้อมูลจาก อีเอสพีเอ็น