ครึ่งแรกนาที 12 เอฟเวอร์ตันได้ฟรีคิกระยะ 30 หลาเป็นอลัน สตั๊บบ์กองหลังตัวเก๋าวิ่งมาซัดเต็มข้อบอลพุ่งเลียดแหวกฝูงนักเตะที่ฟาน เดอร์ซาร์มองเห็นช่องพุ่งขยับทันแต่โชคร้ายที่คาร์ริคพยายามยื่นขาสกัดบอลไม่เปลี่ยนทางแต่พุ่งขึ้นนิดหน่อยทำให้น้าเอ็ดดี้เสียจังหวะรับไม่อยู่ บอลตุงตาข่ายไม่มีเหลือ เจ้าถิ่นนำก่อน 1-0
นาที 43 กิ๊กส์รับหน้าที่เตะฟรีคิกระยะ 25 หลาและตัดสินใจหยอดมาที่เสาสองเป็นไฮนเซ่ที่วิ่งมาแหย่ขาแต่ไม่ทันบอลเลยออกหลังไปนิดเดียวก่อนหมดครึ่งแรกด้วยสกอร์ที่จ่าฝูงตกเป็นรองอย่างพลิกล็อก
ครึ่งหลังเล่นมาแค่ 5 นาทีเจ้าบ้านก็มาได้ประตูที่สองอีกโดยมิเกล อาร์เตต้าไหลบอลนิ่มให้เฟอร์น็องเดซวิ่งตีคู่เวส บราว์นอยู่หน้าเขตโทษก่อนทำท่าจะยิงหนึ่งจังหวะจนน้องน้ำตาลผวาทำให้การประกบห่างไปหนึ่งช่วงตัวก่อนที่ดาวเตะผิวหมึกจะตะบันเต็มตีนเตี่ยด้วยอีขวาบอลส่ายเสียบสามเหลี่ยมเข้าไปอย่างหยดย้อย เอฟเวอร์ตันนำสบาย 2-0
นาที 61 ผีแดงได้ลูกส้มหล่นเมื่อลูกเตะมุมของกิ๊กส์โยนมาไม่มีอะไรแต่เทอร์เนอร์ทำให้มันมีอะไรเมื่อกระโดดท่าสวยตามที่คริส วู้ดอดีตมือหนึ่งทีมชาติอังกฤษสอนมาแต่กลับทำหลุดมือง่ายๆและเป็นจอห์น โอเชสไลด์ยิงด้วยอีซ้ายไม่มีเหลือ
นาทีถัดมาผีแดงตีเสมอได้เฉยจากลูกเตะมุมของไรอัน กิ๊กส์เป็นโรนัลโด้ที่หนีตัวประกบอยู่สองสามจังหวะก่อนกระโดดโหม่งเหน่งๆติดเทอร์เนอร์ที่ล้มตัวตะปบแต่บอลมันขลุกคลิกอย่างหน้าประตูทำให้ฟิล เนวิลล์กดดันเตะทิ้งผิดเหลี่ยมบอลเข้าประตูตัวเองอย่างน่าอนาถ สกอร์ 2-2 แล้ว
ก่อนหมดเวลา 11 นาทีฮิบเบิร์ตดันทะลึ่งจ่ายบอลจากหน้าเขตโทษตัวเองยัดตรงกลางหน้ากรอบโทษตัวเองเลยไปเข้าเท้าโรนัลโด้ที่ปาดออกให้โอเชียเปิดจากขวากรอบโทษบอลเลยมาถึงรูนี่ย์ที่เสาไกลซึ่งหลอกทำท่าจะยิงจนฮิบเบิร์ตพุ่งสไลด์จั่วลมก่อนเอียงตัวแปเสียบหน้าต่างไกลเข้าไป ยูไนเต็ดพลิกนำ 3-2
ช่วงท้ายเกมยูไนเต็ดปิดเกมเผาเวลาและมาได้ประตูปิดท้ายจากลูกที่รูนี่ย์ดึงเช็งตักบอลโด่งหนีกับดักล้ำหน้าให้อีกเกิ้ลส์ตัวสำรองทะลุหลุดเดี่ยวก่อนโชว์เทพปั่นไซด์อ้อมกองหลังบอลโค้งเบียดเสาไม่มีเหลือ คว้าชัยสุดสวย 4-2 ทิ้งเชลซีเป็น 5 แต้มทำให้นัดหน้าถ้าชนะแมนฯซิตี้และเชลซีแพ้อาร์เซนอลก็จะคว้าแชมป์ทันที
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม :
เอฟเวอร์ตัน : เทอร์เนอร์,ฮิบเบิร์ท,โยโบ้,สตับบ์,เลสค็อตต์,อาร์เตต้า,เนวิลล์,คาร์สลี่ย์,เฟอร์น็องเดซ,ออสมัน(แม็คฟาดเด้น น.72),วอห์น (บีตตี้ น.72)
แมนฯยูฯ : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ซาร์,จอห์น โอเช,เวส บราว์น,กาเบรียล ไฮนเซ่ ,ปาทริซ เอวร่า(ริชาร์ดสัน น.56),โอเล่น กุนนาร์ โซลชา(อีเกิ้ลส์ น.86),พอล สโคลส์,ไมเคิ่ล คาร์ริค,ไรอัน กิกส์,เวย์น รูนี่ย์,อลัน สมิธ(โรนัลโด้ น.63)