สำหรับ ไทยพรีเมียร์ลีก ซีซั่น 2015 นี้ ถือว่ามีความน่าสนใจเป็นอย่างมากเลยทีเดียว เนื่องจากว่าบรรดาทีมต่าง ๆ ก็พากันอัพเกรดตัวเองให้เป็นทีมที่แข็งแกร่งมากขึ้น บางทีมหวังถึงการเป็นแชมป์ บางทีมหวังได้ไปเล่นในถ้วยเอเชียฤดูกาลหน้า บางทีมก็หวังติดท็อปไฟฟ์ ในขณะที่อีกกลุ่มหวังเพียงอยู่รอดในลีกสูงสุดแห่งสยามประเทศ
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด คือทีมแชมป์เก่าเมื่อฤดูกาลก่อน ส่วน เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด อดีตแชมป์เก่า 3 สมัยที่ห่างเหินจากตำแหน่งแชมป์มานาน ในฤดูกาลนี้พวกเขาก็หวังจะมาทวงแชมป์คืน ขณะที่ ชลบุรี เอฟซี, สุพรรณบุรี เอฟซี, หรือว่า ราชบุรี มิตรผล เอฟซี รวมไปถึง บางกอกกล๊าส ทีมเหล่านี้ก็มีหวังลุ้นได้ตั้งแต่ ท็อปไฟฟ์ ไปจนถึงการเบียดแย่งแชมป์กับ 2 ทีมยักษ์ใหญ่ข้างต้น
สำหรับสิ่งที่น่าสนใจประจำ ไทยพรีเมียร์ลีก 2015 ถ้าเอาจริง ๆ ก็คงมีอยู่ราว ๆ สัก 5 เรื่องได้ ซึ่งในวันนี้เราจะมาชำแหละให้ได้รู้กัน
ขุนพล บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด บอกได้เลยว่าอันตรายทุกคน
1) การเสริมทัพอันน่ากลัวของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
"แชมป์เก่า" บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้ทำการปล่อยกองหน้าตัวเก่งของเขาอย่าง ฆาเบียร์ ปาตินโญ่ และ คาร์เมโล่ กอนซาเลซ ออกจากทีมไปพร้อม ๆ กัน แน่นอนว่าเหล่าแฟนบอลต่างพากันสงสัยว่าขายยอดกองหน้าทิ้งไปทำไม แต่ทุกอย่างก็กระจ่างเมื่อทาง "บิ๊กเน" เนวิน ชิดชอบ จัดการอิมพอร์ตยอดหัวหอกที่เคยมีค่าตัวถึง 9 ล้านยูโรของ โอลิมเปียกอส และเคยเป็นเป้าหมายของ ลิเวอร์พูล, เชลซี และอาร์เซน่อล อย่าง ดิโอโก้ ซานโต้ เข้ามาสู่ทีม
นอกจากนั้น "แชมป์เซาะกราว" ยังได้เสริมตัวผู้เล่นเข้ามาอีกหลายรายไม่ว่าจะเป็น ประกิต ดีพร้อม มิดฟิลด์ซ้ายพิฆาต จาก ทีโอที เอฟซี, นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม จาก บีอีซี เทโรศาสน, เคย์น วินเซนต์ หัวหอกลูกครึ่งญี่ปุ่น-นิวซีแลนด์ จาก สงขลา ยูไนเต็ด และ โก ซุล กิ จาก อุลซาน ฮุนได แชมป์เก่า เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ปี 2012
"เจ้ามุ้ย" ธีรศิลป์ แดงดา จะพกวิชากลับจากสเปนมามากน้อยเพียงใด ในการช่วยให้ "กิเลนผยอง" กลับมาลุ้นแชมป์
2) การกลับมาของ ธีรศิลป์ แดงดา
"เจ้ามุ้ย" ธีรศิลป์ แดงดา หัวหอกเบอร์ 1 ทีมชาติไทย ได้คัมแบ็คกลับมายัง เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากไปเก็บเกี่ยวประสบกาณณ์ใน ลา ลีกา สเปน กับ อูเด อัลเมเรีย มาได้ระยะหนึ่ง ซึ่งการกลับมาในครั้งนี้ของ "เจ้ามุ้ย" บอกได้เลยว่าจะต้องน่ากลัวกว่าเก่าแน่นอน การที่เจ้าตัวได้ไปอยู่ในลีกสเปนที่เป็นลีกอาชีพมาอย่างยาวนานน่าจะได้อะไรกลับมาเยอะแน่ ๆ เพราะอย่างน้อย ๆ เจ้าตัวก็สามารถทำประตูให้กับทีมชุดใหญ่ของ อัลเมเรีย ได้ด้วยในการประเดิมสนามเป็น 11 ตัวจริงในศึก โกปา เดล เรย์
ราชบุรี มิตรผล เอฟซี ถือว่าเป็นทีมที่น่ากลัวทีเดียวในฤดูกาลนี้ และหากทีมใหญ่เผลอเมื่อไหร่อาจน้ำตานองได้
3) ทีมสอดแทรกที่น่ากลัว
ราชบุรี มิตรผล เอฟซี อีกหนึ่งทีมใหญ่ ที่เมื่อฤดูกาลที่แล้วสามารถสร้างเซอร์ไพรส์ได้แบบสุด ๆ ด้วยการจบการแข่งขันที่อันดับ 4 ของไทยพรีเมียร์ลีกได้อย่างสวยงาม นั่นคงเป็นเพราะว่าการทุ่มเทในการทำทีมแบบสุด ๆ ของ ผู้จัดการทีมคนเก่งอย่าง "เสี่ยฟลุ๊ค" ธนวัชร์ นิติกาญจนา ผู้ที่ปลุกปั้นทีมมาอย่างยาวนาน ด้วยการหาสิ่งที่ดีที่สุดให้กับทีมอยู่เสมอจนกระทั่งไปเจอยอดแข้งบราซิเลียนอย่าง เฮแบร์ตี้ เฟอร์นานเดซ ซึ่งกลายเป็นดาวซัวโวสูงสุดของไทยพรีเมียร์ลีกในเวลาต่อมา
"เสี่ยฟลุ๊ค" ธนวัชร์ นิติกาญจนา ผู้จัดการทีมจอมทุ่มเทของ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี
โดยในฤดูกาลนี้ "ราชันมังกร" ราชบุรี มิตรผล เอฟซี ก็ยังคงไม่เลิกเพิ่มเติมสิ่งที่ดีสุดให้กับทีม ด้วยการจัดหากุนซือคนใหมอย่าง อเล็กซ์ โกเมซ โคเมซ อดีตโค้ชเยาวชนบาร์เซโลน่า เข้ามาคุมทีม แถมยังได้ดาวยิงอย่าง บรูโน่ โลเปซ ที่เคยลงเล่นในรายการ ยูโรป้า ลีก มาร่วมทีมอีกต่างหาก
นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี พร้อมลุยใน ไทยพรีเมียร์ลีก แล้ว
4) การประเดิมลีกสูงสุดของ ยักษ์ใหญ่จากแดนอีสาน
"สวาทแคท" นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ทีมแชมป์จาก ยามาฮ่า ลีกวัน เมื่อฤดูกาลที่แล้ว สามารถก้าวขึ้นมาอยู่ในลีกสูงสุดของสยามประเทศได้เป็นผลสำเร็จ ด้วยการโชว์ฟอร์มการเล่นได้อย่างดุดัน แถมในฤดูกาลนี้ยังมีข่าวกับดาวดังมากมายไม่ว่าจะะเป็น เธียร์รี่ อองรี หรือว่า นิโกล่าส์ อเนลก้า ทว่าสุดท้ายแล้วพวกเขาก็ได้ตัว โดมินิค อดิยิอาห์ มาร่วมทีม ซึ่งดาวยิงรายนี้ไม่ธรรมดา โดยเคยผ่านการลงเล่นฟุตบอลโลก 2010 กับ ทีมชาติกานา มาแล้ว แถมยังมีดีกรีเป็นนักเตะของ เอซี มิลาน อีกด้วย
ได้เวลาพิสูจน์ฝีเท้าของแต่ละคนในการลงรับใช้ต้นสังกัดแล้วสำหรับ "สุภาพบุรุษช้างศึก"
5) การพิสูจน์ตัวเองของเหล่าสุภาพบุรุษช้างศึก
แน่นอนว่าเมื่อไทยพรีเมียร์ลีกเปิดฉากการแข่งขันขึ้นมาถือว่าได้เวลาที่เหล่า ขุนพลช้างศึก รายต่าง ๆ ต้องพยายามโชว์ฟอร์มให้กับต้นสังกัดของตัวเองให้ดี เพื่อรักษาตำแหน่งในทีมชาติของตัวเองเอาไว้ให้ได้ เช่นเดียวกับเหล่าผู้เล่นชาวไทยอีกหลาย ๆ คนที่อยากจะติดทีมชาติก็ต้องพยายามเค้นฟอร์มของตัวเองออกมาให้ดีที่สุดเช่นกัน เพื่อที่จะได้มีลุ้นกับการมีชื่อติดทีมชาติ เพราะว่าในปีนี้ทีมชาติไทยมีคิวที่จะต้องลงแข่งขัน 3 รายการใหญ่ ๆ ด้วยกันทั้ง ฟุตบอลโลก โซนเอเชีย รอบคัดเลือก, ปรีโอลิมปิก และซีเกมส์
มาดเท่ ๆ ในบทบาทนายแบบ ของเหล่าแข้งทีมชาติไทย
ภาพ facebook.com/BuriramUTD, facebook.com/RBMFCOFFICIAL, facebook.com/SCGMuangthongUnited, facebook.com/swatcatfootballclub
