แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย : มหกรรมรีแมตช์

 

สำหรับในรอบ 16 ทีมสุดท้ายของ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในปีนี้ เป็นการโคจรกลับมาพบกันอีกของ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง กับ เชลซี ที่พบกันมาในปีก่อน และเป็นทาง เชลซี ที่เอาชนะ เปแอสเช เข้ารอบไปด้วยกฎอเวย์โกลอย่างเจ็บแสบ เช่นเดียวกับ บาร์ซ่า ที่กลับมาพบกับ แมนฯ ซิตี้ อีกครั้ง หรือว่า ดอร์ทมุนด์ กับ ยูเวนตุส คู่ชิงชนะเลิศในปี 1997

สิ่งที่น่าสนใจในรอบ 16 ทีมสุดท้าย

ฤดูกาลที่แล้ว ดาวิด ลุยซ์ ยังเป็นผู้เล่นของ เชลซี ทว่าในฤดูกาลนี้เขาคือคู่แข่งของ สิงห์บลูส์

ปารีส แซงต์-แชร์กแมง vs เชลซี

คู่นี้เคยเจอกันมาก่อนในรอบ 8 ทีมสุดท้ายของเมื่อฤดูกาลที่แล้ว โดยเกมนัดแรกเล่นกันที่ ปาร์ค เดอ แปรงซ์ ซึ่ง เปแอสเช เอาชนะไปได้สบาย ๆ 3-1 ทว่าเกมที่2 ใน สแตมฟอร์ด บริดจ์ กลับเป็นทางด้าน สิงห์บลูส์ ที่เอาชนะไป 2-0 ผ่านเข้ารอบไป ปล่อยให้ เปแอสเช ตกรอบไปอย่างสุดเจ็บปวด

บาร์เซโลน่า vs แมนฯ ซิตี้

บาร์ซ่า กับ แมนฯ ซิตี้ ต้องโคจรมาพบกันในรอบ 16 ทีมสุดท้ายอีกครั้ง เหมือนกับเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ซึ่งเป็นทาง บาร์เซโลน่า ที่ดับซ่า เรือใบสีฟ้า ได้อย่างหมดจด ซึ่งการเข้ามาถึงรอบ 16 ทีมสุดท้ายของ แมนฯ ซิตี้ ถือว่าเป็นการเข้ารอบลึกที่สุดแล้วนับตั้งแต่ได้ลงเล่นในรายการ แชมเปี้ยนส์ลีก มา เพราะว่ามักจะเจอแต่กับ บาร์ซ่า อยู่เป็นประจำ และหากว่าในครั้งนี้ ขุนพลกาตาลุนย่า เอาชนะ เรือใบพันล้าน ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายไปได้ ก็จะถือว่าเป็นการผ่านเข้ารอบควอเตอร์ไฟนอลเป็นครั้งที่ 8 ของพวกเขาอีกด้วย

เรอัล มาดริด vs ชาลเก้04

เรอัล มาดริด มาแข่งขันในฐานะแชมป์เก่า และพวกเขามีหน้าที่ ๆ จะต้องป้องกันแชมป์ให้ได้ ทว่าตั้งแต่เปลี่ยนจาก ยูโรเปี้ยน คัพ มาเป็น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ยังไม่เคยมีแชมป์เก่าทีมไหนป้องกันแชมป์ได้เลย ซึ่งการเจอกับ ชาลเก้04 ในครั้งนี้ก็เหมือนกับถนนเส้นเดิมที่พวกเขาเคยเดินผ่านจนกลายเป็นแชมป์มาแล้ว

คาร์ล ไฮนซ์-รีดเล่ ยิงประตูช่วยให้ ดอร์ทมุนด์ คว้าแชมป์ ยูโรเปี้ยนคัพ ปี 1997

ดอร์ทมุนด์ vs ยูเวนตุส

การพบกันของทั้ง ดอร์ทมุนด์ และ ยูเวนตุส เคยเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวเท่านั้นในประวัติศาสตร์ของพงศาวดารฟุตบอล โดยการพบกันในครั้งนั้นต้องย้อนไปเมื่อปี 1997 ซึ่งแมตช์ดังกล่าวคือนัดชิงชนะเลิศของ ยูโรเปี้ยน คัพ หรือว่า ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในปัจจุบัน นั่นเอง โดยผลการแข่งขันเป็น เสือเหลือง ที่เอาชนะ ม้าลาย ไปได้ 3-1 โดยเป็น คาร์ล ไฮนซ์ รีดเล่ ที่เหมาคนเดียว 2 ตุง ให้กับ ดอร์ทมุนด์

ชัคตาร์ โดเน็ตส์ค vs บาเยิร์น มิวนิค

นี่ถือเป็นการพบกันครั้งแรกของ ชัคตาร์ฯ กับ บาเยิร์นฯ เพราะว่าก่อนหน้านี้ทั้งคู่ต่างไม่เคยเจอกันมาเลย และทาง ชัคตาร์ เองก็ถือว่ามีสถิติที่ไม่ค่อยดีเมื่อยามเจอทีมจากเยอรมนีเลย โดยชัยชนะหนล่าสุดที่ ชัคตาร์ฯ มีต่อทีมจากเยอรมนี ต้องย้อนไปเมื่อปี 1980 เลยทีเดียว ขณะที่ บาเยิร์นฯ เคยเจอกับทีมจาก ยูเครน มาแล้วถึง 10 ครั้งด้วยกันแต่ว่านั่นเป็นการเจอกับ ดินาโม เคียฟ เพียงทีมเดียวเท่านั้น

อีกเรื่องที่น่าสนใจก็คือหากว่า บาเยิร์น มิวนิค เอาชนะ ชัคตาร์ โดเน็ตส์ค และผ่านเข้าไปเล่นในรอบ 8 ทีมสุดท้ายได้ในฤดูกาลนี้พวกเขาจะเป็นทีมแรกที่ได้เข้าไปเล่นในรอบควอเตอร์ไฟนอลมากที่สุดถึง 14 ครั้งด้วยกัน

บาเซิล vs ปอร์โต้

บาเซิล เป็นเพียงทีมเดียวจากสวิสในประวัติศาสตร์ที่สามารถทะลุเข้ามาเล่นในรอบน็อคเอาต์ ของ แชมเปี้ยนส์ลีก ได้สำเร็จ และนี่ถือเป็นครั้งที่ 3 ของพวกเขาเข้าไปแล้วด้วย ส่วน ปอร์โต้ ผ่านเข้ามาลงเล่นเป็นครั้งที่ 6 แล้ว แต่มีเซอร์ไพรส์ตรงที่ โชเซ่ มูรินโญ่ เคยพา ปอร์โต้ เป็นแชมป์มาแล้วในปี 2003/04

อาร์แซน เวนเกอร์ เมื่อครั้งเป็นกุนซือมาดฮิปสเตอร์ให้กับโมนาโก

โมนาโก vs อาร์เซน่อล

อาร์แซน เวนเกอร์ ผู้จัดการทีมอาร์เซน่อล ถือว่าเป็นครั้งแรกที่เขาจะได้กลับไปเยือน สต๊าด เดอ หลุยส์ ถิ่นเก่าของเขาเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ออกจากทีมมา ก่อนที่จะไปญี่ปุ่น และมาคุม อาร์เซน่อล ในที่สุด ซึ่งในครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งที่ 15 ของ ไอ้ปืนใหญ่ แล้วที่ได้ผ่านเข้าสู่รอบแบ่งกลุ่ม ก่อนจะมาสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย

เลเวอร์คูเซ่น vs แอตฯ มาดริด

นายห้างขายยา สามารถทะลุเข้ามาเล่นในรอบน็อคเอาต์ได้เป็นครั้งแรก แต่ก็ต้องมาเจอกับกระดูกชิ้นโตอย่าง แอตฯ มาดริด ซึ่งเป็นรองแชมป์เก่า และมีก่อนหน้านี้มีอยู่ 4 ทีมที่จบทัวร์นาเม้นท์ด้วยการเป็นรองแชมป์แล้วสามารถก้าวเข้าไปชิงชนะเลิศได้อีกในปีถัดมา และ 2 ใน 4 ทีม ก็สามารถเป็นแชมป์ได้สำเร็จคือ เอซี มิลาน กับ บาเยิร์น มิวนิค

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย : มหกรรมรีแมตช์ โพสต์เมื่อ 17 กุมภาพันธ์ 2558 เวลา 18:53:37 10,514 อ่าน
TOP