หลาย ๆ ครั้งความเก่งกาจเพียงอย่างเดียวไม่อาจส่งให้เหล่าทีมใหญ่ ๆ กลายเป็นแชมป์ได้ ลองดูอย่างใน นัดชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ปี 2005 ที่ ลิเวอร์พูล โดน เอซี มิลาน นำในครึ่งแรก 3-0 แต่ในครึ่งหลัง หงส์แดง กลับยิงทวงคืน 3 ลูกรวด ก่อนที่จะเอาชนะในการดวลลูกจุดโทษ และคว้าแชมป์ไปในที่สุด
ซึ่งการแข่งขัน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในปีนี้ก็เช่นเดียวกัน หลาย ๆ ทีมต้องการที่จะคว้าแชมป์ แต่ด้วยโชคชะตาอาจจะไม่ได้ลิขิตมาให้ทีมเหล่านั้นกลายเป็นแชมป์ หลายทีมใหญ่ต่างพาเหรดกันร่วงไปในรอบแบ่งกลุ่ม ซึ่งมาถึงในตอนนี้ก็ต้องยอมรับว่าทีมที่เข้ารอบน็อคเอาท์มามีแต่ทีมแกร่ง ๆ ทั้งนั้น แต่การที่จะก้าวไปถึงแชมป์ต้องมีส่วนประกอบอย่างน้อย ๆ 5 องค์ประกอบด้วยกัน
5 องค์ประกอบสำคัญในการก้าวไปถึงตำแหน่งแชมป์
1) 3 ระบบสำคัญในแทคติค
การที่จะพาทีมก้าวสู่การเป็นแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก นั้น ไม่ใช่เรื่องที่ง่ายเลยแม้แต่น้อย ซึ่งทาง ซาบี้ อลอนโซ่ ชายผู้ที่ถือว่าเคยได้แชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก มากที่สุดคนหนึ่งได้คุยกับ เจมี่ คาราเกอร์ อดีตปราการหลังของลิเวอร์พูลว่าสาเหตุอะไรที่โค้ชหลาย ๆ คนสามารถนำทีมเป็นแชมป์ได้ ไม่ว่าจะเป็น เป๊ป กวาร์ดิโอล่า, โชเซ่ มูรินโญ่, ราฟา เบนิเตซ หรือว่า คาร์โล อันเชล็อตติ
โดย 3 เหตุผลหลักที่เหล่าโค้ชที่ได้กล่าวถึงสามารถพาทีมของพวกเขาขึ้นเถลิงแชมป์ได้ นั่นก็เพราะว่ามี เกมรุกที่ดี, เกมรับที่ดี และวิสัยทัศน์ของตัวโค้ชเอง
2) ต้องมีโชค
ทีมที่แข็งแกร่งเต็มไปหมดในการแข่งขัน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าทีมที่แข็งแกร่งที่สุดซะเมื่อไหร่ที่จะได้แชมป์ไปครอง อย่างในปีที่ ปอร์โต้ ได้แชมป์พวกเขาก็เป็นเพียงแค่ม้านอกสายตาเท่านั้น เช่นเดียวกับคู่ชิงของพวกเขาอย่าง โมนาโก แต่สุดท้าย ปอร์โต้ ก็ได้แชมป์ไปครอง
เช่นเดียวกับในเกมที่ ลิเวอร์พูล เจอกับ เอซี มิลาน ในนัดชิงชนะเลิศเมื่อปี 2005 แน่นอนว่าเกมนั้นอยู่ในความทรงจำของใครหลาย ๆ คนเพราะว่าในครึ่งเวลาแรก ปีศาจแดงดำ ออกนำ หงส์แดง ไปก่อน 3-0 และแทบจะปิดฉากคว้าแชมป์ไปแล้ว ทว่าในครึ่งหลังกลับมาโดนลูกฮึดของ ลิเวอร์พูล ยิงไล่คืนเป็น 3-3 ก่อนที่ในที่สุด ยอดทีมแห่งเมอร์ซี่ย์ไซด์จะคว้าแชมป์ไปครองเป็นสมัยที่ 5 ได้สำเร็จ
3) ก่อเกิดฮีโร่
ในแต่ละทีมจะมีผู้เล่นบางรายที่ตลอดทั้งปีทั้งชาติไม่สามารถโชว์ฟอร์มการเล่นที่ดีออกมาได้เลย แต่ว่าพอมาเล่นในรายการ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก พวกเขากลับสามารถงัดฟอร์มเก่งออกมาได้อย่างน่าเหลือเชื่อ อย่างในรายของ เฟร์นานโด มอริเอนเตส ที่ เรอัล มาดริด ปล่อยตัวเขาให้ โมนาโก ยืมใช้งาน แน่นอนปีนั้นคือปีที่ โมนาโก ได้เข้าชิงกับ ปอร์โต้ และก่อนที่จะเข้าชิงก็เป็น "เอล มอโร่" นี่แหละที่จัดการซัดประตูเขี่ย เรอัล มาดริด ต้นสังกัดที่แท้จริงตกรอบไปอย่างน่าอับอาย
4) สถานการณ์ในลีก
แต่ละทีมที่ได้แชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก หลังจากปี 1999 ถือว่าผลงานในลีกของพวกเขานั้นไม่ดีเอาเสียเลย หรือเรียกได้ว่าหมดลุ้นกับการแย่งแชมป์ลีกไปแล้ว ส่งผลให้ต้องมามุ่งมั่นกับการแข่งขันรายการนี้แทนไม่ว่าจะเป็น ลิเวอร์พูล ในปี 2005, เชลซี ในปี 2012 หรือว่า เรอัล มาดริด เมื่อปีที่ผ่านมา
ผิดกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ได้แชมป์เมื่อปี 1999 ทว่าพวกเขาได้ทั้งแชมป์พรีเมียร์ลีก และเอฟเอฟ คัพ ด้วย ซึ่งถือว่าเป็นสถิติที่ยอดเยี่ยมแบบสุด ๆ ไปเลย
5) จิตวิทยาที่ดี
ผู้จัดการทีมแต่ละทีมต่างมีจิตวิทยาของตัวเองในการทำทีม แต่จิตวิทยาที่ดีที่พูดถึงไม่ได้เอาไว้ใช้กับทีมคู่แข่ง แต่ว่าเอาไว้ใช้กับลูกทีมของตัวเองต่างหาก และเมื่อถึงเวลาจำเป็นจริง ๆ เหล่ากุนซือจะใช้กลยุทธ์ทุกอย่างเพื่อทำให้เหล่าลูกทีมของพวกเขามีแรงฮึดขึ้นมาอีกครั้งเมื่อคว้าแชมป์ให้ได้ แน่นอนว่าทุก ๆ อย่างบางที่ได้ถูกลิขิตเอาไว้แล้ว
ในเรื่องนี้ เลโอนาร์โด้ ได้ออกมากล่าวว่า "มันก็ไม่รู้เป็นอะไรเหมือนกันนะเวลาผม หรือว่า คาร์โล อันเชล็อตติ ได้ยินเสียงเพลง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก พวกเรารู้สึกฮึกเหิมจริง ๆ นะ"
