ครึ่งแรกนาทีที่ 10 กิ๊กส์เตะมุมโดนกองหลังเจ้าถิ่นเคลียร์ออกมาเข้าทางปีกขนดกอีกครั้งก่อนครอสมาเสาสองให้วิดิชโขกชนคานเต็มๆแต่ผู้ตัดสินเป่าว่าดาวเตะเซอร์เบียไปผลักหลังตัวประกบก่อน
อีกห้านาทีต่อมาโอเกาสที่ดีที่สุดของเกมนี้มาถึงเมื่อลูกเตะมุมของซิตี้กลายเป็นลูกโหม่งชิงในกรอบของสมิธแต่มาเข้าทางเอ็มเพ็งซ่าที่ตั้งท่าวอลเลย์สุดสวยบนกรอบโทษบอลพุ่งตรงกรอบแต่ตรงตัว ฟานเดอร์ซาร์ที่พุ่งล้มรับเข้าซองบนเส้นพอดี ลูกนี้ถ้าเข้ามุมใดมุมนึงเข้าแน่เพราะฝูงนักเตะทั้งสีแดงและฟ้ายืนบังกันเต็มไปหมด
ผ่านครึ่งชั่วโมงไปได้ 3 นาทีทีมเยือนได้ประตูขึ้นนำจนได้เมื่อมาได้จุดโทษจากชอตที่ ไมเคิ่ล บอลล์ ไปสกัด โรนัลโด้ ล้มในเขตโทษด้านซ้าย โรนัลโด้ ลุกขึ้นมายิงเองโดยหลอก อีซัค ส์สัน หลงทางก่อนจะซัดเข้าไปสบายๆ แมนฯยูไนเต็ด นำ 1-0
หลังจากนั้นอีก 4 นาที แมนฯยูฯ ได้ลุ้นจากชอตที่ เวส บราวน์ ครอสให้ เวย์น รูนี่ย์ ยิงข้ามคานออกไป จากนั้นเกมเนือยลงไปทั้งคู่ไม่มีโอกาสลุ้นทำประตูเพิ่มเลย ครบ 45 นาที แมนฯ ยูไนเต็ด นำ 1-0
ครึ่งหลัง แมนฯซิตี้ เปลี่ยนตัวโดยเป็น ซุน จีไห่ ที่ได้แทน ฮามันน์ เริ่มเกมมา 2 นาที แมนฯยูฯ ได้ฟรีคิก พอล สโคลส์ อัดเต็มๆไปตรงตัว อิซัคส์สัน เกมเริ่มเดือดขึ้นเมื่อ ริชาร์ด ดันน์ อัดกัน อลัน สมิธ จนผู้ตัดสินต้องเรียกทั้งคู่มาสงบสติอารมณ์
เกมกลับมาสูสีและเมื่อยูไนเต็ดยังทำประตูที่สองไม่ได้นักเตะเจ้าถิ่นก็เริ่มครองเกมเข้าบอลหนักบี้แหลกและนาที 64 ลูกเตะมุมของเจ้าถิ่นเป็นเอ็มเพ็งซ่ากระโดดโขกไกลบอลเฉี่ยวสามเหลี่ยมแบบมีเสียว
เกมที่เหมือนไม่มีอะไรแต่แล้วก่อนหมดเวลา 11 นาทียูไนเต็ดเสียท่าจนได้เมื่อจังหวะแย่งบอลหน้าเขตโทษเป็นไมเคิ่ล บอลล์ที่ติดเครื่องกระชากเข้าเขตโทษพุ่งชนบราว์นซึ่งยืนอยู่เฉยๆยกมือไม่ได้ทำอะไรกรรมการให้จุดโทษอย่างไม่ลังเลทันทีแต่วาสเซลล์ซึ่งรับหน้าที่สังหารทำเหนือยิงกลางประตูโดยลืมไปว่าฟานเดอร์ซาร์ได้ลูกขายาวพุ่งไปอีกมุมแต่เอาเข่าเซฟไว้ได้อย่างไม่น่าเชื่อ เจ้าตัวตะโกนสะใจสุดๆ ทำให้เจ้าถิ่นทำสถิติสุดย่ำแย่ยิงใครในบ้านไม่ได้มา 12 ชั่วโมงเข้าให้แล้ว
เหลืออีก 3 นาที แมนฯยูฯ เอา เวย์น รูนี่ย์ ออก แล้วส่ง จอห์น โอเชีย ลงไปแทน จากนั้นไม่มีอะไรจบเกม แมนฯยูไนเต็ด บุกชนะ 1-0 คว้า 3 คะแนนเต็มจ่อแชมป์สุดๆเพราะทิ้ง เชลซี เป็น 8 แต้มแล้ว
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
แมนฯซิตี้ : อันเดรียส อิซัคส์สัน, เนดุม โอนูโอฮา, ริชาร์ด ดันน์, ซิลแว็ง ดิสแต็ง, ไมเคิ่ล บอลล์, ดีทมาร์ ฮามันน์, ดาริอุส วาสเซลล์, ไมเคิ่ล จอห์นสัน, สตีเฟ่น ไอร์แลนด์, ดามาร์คัส บีสลี่ย์, เอมิล เอ็มเพ็นซ่า
แมนฯยูไนเต็ด : เอ๊ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์, เวส บราวน์, ริโอ เฟอร์ดินานด์, เนมานย่า วิดิช, กาเบรียล ไฮน์เซ่, คริสเตียโน่ โรนัลโด้, ไมเคิ่ล คาร์ริก, พอล สโคลส์, ไรอัน กิ๊กส์, อลัน สมิธ, เวย์น รูนี่ย์
