เจ้าหน้าที่เอฟบีไอ และพนักงานอัยการสหรัฐฯ ตั้งเป้าเดินหน้าสอบสวนหาหลักฐานที่จะสาวไปถึง เซปป์ แบล็ตเตอร์ ในฐานที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตภายในองค์กรสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า)
แบล็ตเตอร์ ประกาศลาออกจากตำแหน่ง ประธาน ฟีฟ่า แบบสด ๆ ร้อน ๆ เมื่อวันอังคารที่ 2 มิ.ย. ที่ผ่านมา และแม้ทาง เอฟบีไอ จะปฏิเสธที่จะยืนยันในเรื่องนี้ แต่แหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ระบุว่า อดีตนายใหญ่ลูกหนังโลกรายนี้คือเป้าหมายที่จะถูกทางการสหรัฐฯ หวังจะเล่นงานให้ได้ ตามรายงานจาก "สำนักข่าวเอบีซี"
สัปดาห์ที่ผ่านมา ทางการสหรัฐฯ ทำการตั้งข้อหาผู้กระทำผิด 14 ราย ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ของ ฟีฟ่า 9 ราย และ เจ้าหน้าที่บริหารด้านการตลาดที่เกี่ยวข้องอีก 5 ราย ในฐานความผิด ทุจริต, เรียกรับสินบน และฟอกเงิน โดยทั้งหมดถูกกล่าวว่า ร่วมกันรับประโยชน์โดยมิชอบเป็นเงินมากกว่า 150 เหรียญสหรัฐ
รายงานข่าวจาก "เอบีซี" ระบุว่า เอฟบีไอ เตรียมที่จะสอบเค้นผู้ต้องหาทั้ง 14 ราย เพื่อรีดเอาข้อมูลที่จะสาวไปถึงตัวการในระดับใหญ่กว่านี้ ซึ่งทำให้คาดว่าอาจมีเจ้าหน้าที่บริหารของ ฟีฟ่า ถูกดำเนินการตามมาอีกหลายราย
"ตอนนี้แต่ละคนก็คงต้องดิ้นหาทางเอาตัวรอด คอยดูแล้วกันว่าใครจะหลุดปากซัดทอด (แบล็ตเตอร์) เป็นคนแรก จริงอยู่ที่เราคงไม่อาจจะถอนรากถอนโคนเนื้อร้ายทั้งหมดใน ฟีฟ่า ได้ แต่บางทีเราก็ไม่จำเป็นต้องทำถึงขนาดนั้น แค่จัดการตัวใหญ่ให้ได้ก็พอ" แหล่งข่าวระบุ
ก่อนหน้านี้ อีเอสพีเอ็น สื่อกีฬายักษ์ใหญ่แดนมะกัน ได้เปิดเผยว่า แบล็ตเตอร์ ไม่ได้เดินทางเข้าสหรัฐฯ มาตั้งแต่ปี 2011 ซึ่งนั่นทำให้เชื่อได้ว่าอาจเป็นการหลีกเลี่ยงที่จะต้องเจอกับการเผชิญหน้า หรือแม้กระทั่งถูกคุมตัวโดย เอฟบีไอ