อาร์แซน เวนเกอร์ ผู้จัดการทีม อาร์เซน่อล ยอมรับว่าตัวเองคงยืนหยัดทำงานเป็นผู้จัดการทีมฟุตบอลไปได้อีกไม่เกินช่วงเวลาภายใน 10 ปีนี้ เพราะรู้สึกว่าสภาพร่างกายของตัวเองเริ่มย่ำแย่ลงไปทุกที จากการที่ต้องคอยสู้รบปรบมือกับคู่แข่งอย่าง เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ โชเซ่ มูรินโญ่ นายใหญ่ เชลซี ไม่ได้หยุดไม่ได้หย่อนในช่วงหลายปีมานี้
เฟอร์กูสัน วัย 65 ปียังคงดูสดชื่นดีหลังนำ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้แชมป์ พรีเมียร์ชิพ ส่วน มูรินโญ่ ก็ยังไม่เคยแสดงอาการเบื่อหน่ายกับการที่เพิ่งอยู่ในวัย 44 เท่านั้น ทว่า เวนเกอร์ ซึ่งอายุครบ 57 ปีเต็มเมื่อเดือนต.ค. ปีที่แล้ว กล่าวว่า "นี่คืออาชีพที่คุณจำเป็นจะต้องมีสภาพร่างกายที่แข็งแกร่งและแสดงความกระเหี้ยนกระหือรือออกมาว่าคุณมีความมุ่งมั่นที่จะชนะ แต่มันก็ต้องแลกกับภาวะที่ระดับเทสโตสเตโรนของคุณมันจะลดต่ำลง และกระดูกกระเดี้ยวหรืออะไรต่อมิอะไรมันก็จะสึกหรอไปซะหมด ในวัยที่เลข 5 นำหน้าอย่างนี้ เราควรจะต้องเริ่มคิดได้แล้วว่า เรามีเวลาเหลืออยู่น้อยกว่าที่เราอยู่มาแล้ว"
"ผมคิดว่าสโมสรสามารถวางแผนอนาคตได้ต่อไปในช่วงเวลา 10 แต่ไม่ใช่ผม ผมต้องยอมรับความจริงว่าอีก 10 ปี ผมก็จะอายุ 67 แล้ว และเมื่อถึงเวลานั้นคนเราก็ควรจะมานั่งคิดกันได้แล้วว่า เราจะใช้ชีวิตกันอย่างไรในช่วงเวลาที่ยังเหลืออยู่ เราจะยังคงใช้ชีวิตกันอย่างที่เคยๆ มาโดยไม่ต้องไปสนใจว่ามันส่งผลเสียอะไรกับเราบ้าง หรือเปลี่ยนไปมองในแง่มุมใหม่ๆ ในชีวิต ยอมรับว่าเวลามันกำลังผ่านไปเรื่อยๆ"
"ที่จริงมันก็มี โค้ชบางคนที่ทำงานคุมทีมได้ถึง 40 ปี มันมีโค้ชอย่าง บ็อบบี้ ร็อบสัน หรือ โจวานนี่ ตราปัตโตนี่ ที่ยอมตามไปกับแรงปรารถนาของตัวเองบนม้านั่งสำรอง ปรัชญาจริงๆ ที่ผมยึดถือมาตลอดในการใช้ชีวิตก็คือ วันพรุ่งนี้มันต้องดีกว่าวันนี้ และเมื่อไหร่ที่ความรู้สึกอย่างนี้มันหมดไป มันก็คงถึงเวลาที่ผมต้องหันหลังให้กับอาชีพการงานของผมและสิ่งที่เป็นลมหายใจของผมทุกอย่าง" กุนซือมือทองชาวฝรั่งเศสกล่าว