"โค้ชโชค" โชคทวี พรหมรัตน์ เพิ่งจะพาทีมชาติไทยคว้าแชมป์ ฟุตบอลชายซีเกมส์ 2015 มาหมาด ๆ ด้วยผลงานชนะ 7 นัดรวด และเสียเพียงแค่ 1 ประตูเท่านั้น ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นว่าในตอนนี้ทีมชาติไทยถือว่าทำผลงานได้โดดเด่นอย่างต่อเนื่องจริง ๆ
ย้อนกลับไปเมื่อช่วงปีที่แล้วเป็นช่วงที่ทีมชาติไทยกำลังอยู่ในเวลาผลัดใบเมื่อทาง "โค้ชซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ยอมเข้ามารับเผือกร้อนในฐานะเฮดโค้ชทีมชาติไทย ก่อนจะเรียกเอาบรรดาแข้งยังบลัดหลายรายไปลุยเอเชียนเกมส์ 2015 ก่อนที่พวกเขาจะคว้าอันดับ 4 มาครองได้สำเร็จ
หลังจากนั้นก็เป็นศึก เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ ที่ทีมชาติไทยสามารถกลับมาครองแชมป์ได้อีกครั้งในรอบ 12 ปี พร้อมกับการแจ้งเกิดของแข้งดาวรุ่งหลายรายที่ดังเป็นพลุแตกไม่ว่าจะเป็น ชาริล ชัปปุยส์, ชนาธิป สรงกระสินธ์, สารัช อยู่เย็น หรือว่า ธนบูรณ์ เกษารัตน์
จนมาถึง ซีเกมส์ 2015 เหล่าขุนพลยังบลัดบางส่วนก็ได้กลับมามีส่วนร่วมในศึกครั้งนี้อีกครั้ง ทว่า ชาริล ชัปปุยส์ ไม่ได้มีชื่อมาแข่งขันด้วยเนื่องจากต้องเข้ารับการผ่าตัด และพักรักษาตัวอยู่ที่สวิตเซอร์แลนด์ แต่ว่าทางทีมงานสตาฟโค้ชก็ได้เรียกเหล่าขุนพลหน้าใหม่เข้ามาเสริมทีมอีกหลายรายด้วยกันทั้ง เจนรบ สำเภาดี, ศิวกร จักขุประสาท หรือว่า ทริสตอง โด ซึ่งทั้งหมดสามารถเล่นเข้ากับระบบของทีมได้เป็นอย่างดี
โชคทวี พรหมรัตน์ กุนซือแชมป์ซีเกมส์ คนล่าสุดได้ออกมาเปิดใจว่า "สำหรับตำแหน่งแชมป์ซีเกมส์ผมเองปลาบปลื้มมากจริง ๆ ครับ ผมกับน้อง ๆ ทุกคนเราต่างมีเป้าหมายเดียวกันคือการมาป้องกันแชมป์เอาไว้ให้ได้ และผมเองก็ได้รับความไว้วางใจจากพี่โก้ให้มาดูแลทีม ผมก็ต้องทำอย่างเต็มที่"
"ก่อนที่เราจะมาแข่งขันกัน ผมได้คุยกับน้อง ๆ ทุกคนไปแล้วว่า ไม่มีใครเขามาคิดหรอกว่าเราจะเป็นแชมป์ หากว่าเราไม่ได้แชมป์มาครอง และมาถึงตรงนี้ทุกคนทำสำเร็จผมปลื้มจริง ๆ ต้องขอบคุณน้อง ๆ ทุกคนที่พยายามกันอย่างหนักหน่วงจนเราคว้าแชมป์มาครองได้"
"ถึงแม้ว่าทั้ง แชมป์เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ กับ แชมป์ซีเกมส์ จะเป็นการเริ่มต้นที่ดี แต่ว่าสิ่งที่พี่โก้เองได้คุยกับผมนั้นมันเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น เพราะว่าเป้าหมายของเราจะใหญ่ขึ้นไปเรื่อย ๆ ต่อจากนี้ไปยังมี โอลิมปิกเกมส์ ที่เรายังต้องลุ้นกันต่อ และแน่นอนว่าเป้าหมายที่ใหญ่ต่อไปของเราคือ เอเชียนคัพ 2019 ซึ่งเราจะต้องเข้าไปในรอบสุดท้ายให้ได้"
"แน่นอนว่าผมอยากที่จะเห็นน้อง ๆ ชุดซีเกมส์พยายามไต่เต้าขึ้นไปอยู่ในชุดใหญ่ให้ได้ เพราะว่าฝีเท้าของน้อง ๆ แต่ละคนถือว่าไม่ธรรมดา และพวกเขามีความมุ่งมั่นมาก ๆ ถ้าหากว่าทุกคนยังสามารถรักษาวินัยที่ดีของตนเองเอาไว้ได้โอกาสที่จะติดทีมชาติชุดใหญ่ก็อยู่ไม่ไกล" อดีตกองหลังทีมชาติไทย ร่ายยาว
ทั้งนี้การคว้าแชมป์ซีเกมส์ 2015 ถือเป็นการซิวแชมป์ซีเกมส์ของทีมชาติไทยเป็นสมัยที่ 15 แล้ว และแน่นอนว่าในอีก 2 ปี ข้างหน้าจะมีเหล่าแข้งดาวรุ่งก้าวขึ้นมาประดับทำเนียบทีมชาติอีกหลายรายอย่างแน่นอน
เนื้อหา : espnfc.com
ภาพข่าว : สปอร์ต ฮีโร่ จำกัด