ทีมชาติไทย กำลังจะลงฟาดแข้งกับ ทีมชาติอิรัก ในการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก โซนเอเชีย ซึ่งทางทีมเยือนอย่าง อิรัก ดูจะมีภาษีดีกว่าไทยเพราะว่ามีอันดับโลกเหนือกว่าอยู่ถึงประมาณ 50 อันดับ ทว่าทาง ทีมชาติไทย ในชั่วโมงก็ต้องบอกว่าพิษสงรอบตัวเช่นกัน
ทีมชาติไทย ผ่านการแข่งขันมาแล้ว 2 เกมด้วยกัน และสามารถเก็บได้ 6 คะแนนเต็ม จากชัยชนะเหนือเวียดนาม 1-0 และการบุกไปเอาชนะ ไต้หวัน 2-0 ซึ่งในเกมหลังนี้ ธีรศิลป์ แดงดา ยอดหัวหอกเบอร์ 1 แห่งทัพช้างศึก จัดการเหมาคนเดียว 2 ประตู ขณะที่ อิรัก ลงแข่งมาเพียงแค่นัดเดียว โดยเปิดบ้านไล่ยำ ไต้หวัน ซะหมดรูป 5-1
สำหรับทีมชาติอิรักนั้นอยู่ในอันดับที่ 82 ของโลก ส่วนทีมชาติไทยอยู่อันดับ 137 แน่นอนว่าอันดับโลกห่างกันเยอะทีเดียว ทว่านับตั้งแต่คว้าแชมป์ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ 2014 มาครองได้ ทีมชาติไทย เพิ่งจะพ่ายแพ้ไปแค่ 3 นัดเท่านั้น ให้กับ จีน, เกาหลีเหนือ และแคเมอรูน
3 เหตุผลที่อาจจะทำให้ทีมชาติไทยเป็นฝ่ายชนะ
1) การสร้างสรรค์โอกาสทำประตูของ ธีรศิลป์ แดงดา
"โค้ชซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง เพิ่งจะให้สัมภาษณ์ถึง ธีรศิลป์ แดงดา มาหมาด ๆ ว่า ดาวยิงขวัญใจชาวไทย รายนี้ จะสามารถเป็นผู้ที่พลิกเกมให้กับทีมชาติไทยได้อย่างแน่นอน หากกว่าเขาสามารถเรียกฟอร์มการเล่นอันยอดเยี่ยมมาได้ทันเวลา
โดยทาง เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ได้ให้สัมภาษณ์กับทาง บางกอกโพสต์ ว่า "ธีรศิลป์ คือกองหน้าโดยธรรมชาติ และแน่นอนว่าเขามีความสามารถที่มากล้นเหลือเกิน และในเกมกับอิรักถ้าเกิดเขาเรียกฟอร์มการเล่นที่ดีที่สุดออกมาได้ แน่นอนว่าเขาก็มีสิทธิ์ที่จะทำประตูให้กับเราได้เช่นกัน แต่ยังไงซะเขาก็ต้องการคู่หูที่จะเข้ามาช่วยสร้างสรรค์โอกาสให้กับเขาได้เช่นกัน"
สำหรับทีมชาติไทยในตอนนี้พวกเขาดูค่อนข้างขาดแคลนทรัพยากรอยู่เหมือนกัน โดยทาง อดิศักดิ์ ไกรษร กองหน้าอีกรายก็ได้รับบาดเจ็บ เช่นเดียวกับ ชนาธิป สรงกระสินธ์ มิดฟิลด์ร่างจิ๋ว ที่แม้จะหายจากอาการบาดเจ็บแล้ว แต่ความฟิตยังคงไม่เพียงพอ
2) ลืมฝันร้ายใน เอเชียน คัพ ไปหรือยัง?
ทีมชาติไทย ต้องตกรอบคัดเลือกการแข่งขันเอเชียน คัพ ไปอย่างน่าเสียดาย ซึ่งในการแข่งขันไทยไม่สามารถเอาชนะคู่แข่งจากโซนตะวันออกกลางได้เลย ซึ่งเกมนัดตัดสิน 2 เกมสุดท้าย ไทย ต้องพายแพ้ให้กับ เลบานอน ไปถึง 5-2
ซึ่งครั้งสุดท้ายที่ทีมชาติไทยเอาชนะชาติจากตะวันออกกลางก็คือในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 รอบคัดเลือก ซึ่งเกมดังกล่าว ไทย ชนะ โอมาน 3-0 เมื่อปี 2011
ส่วน อิรัก สามารถเข้าไปถึงรอบรองชนะเลิศได้อย่างสวยงามในการแข่งขัน เอเชียน คัพ เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา แน่นอนว่าความแข็งแกร่งของขุนพลอิรักนั้นไม่เป็นสองรองใครเลยจริง ๆ ในย่านเอเชียนี้
แน่นอนว่าหาก ทีมชาติไทย ของ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง จะต้องลบฝันร้ายทั้งหมดออกไปให้ได้ และตั้งหน้าตั้งตาสู้อย่างที่กับ อิรัก ไม่แน่ว่า ทัพช้างศึก อาจจะสร้างเซอร์ไพรส์ก็เป็นได้
3) ความแน่นอนของ สารัช อยู่เย็น
สารัช อยู่เย็น ถือว่าเป็นมิดฟิลด์เบอร์ 1 ของ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง เลยก็ว่าได้ในชั่วโมงนี้ เพราะว่าทาง ชาริล ชัปปุยส์ ยังไม่หายจากอาการบาดเจ็บ ส่วน ชนาธิป สรงกระสินธ์ ก็เช่นกัน ส่งผลให้ มิดฟิลด์ตัวคุมเกม จาก เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด จำเป็นอย่างมากที่จะต้องแสดงให้เห็นว่าเขามีความสำคัญกับทัพช้างศึกมากแค่ไหน
แน่นอนว่า สารัช อยู่เย็น ถือว่ามิดฟิลด์ตัวห้องเครื่องที่โดดเด่นมากที่สุดของทีมชาติไทยชุดนี้ เพราะว่าเขามีทั้งทักษะในการอ่านเกมที่ดี และได้ทั้งบู๊ และบุ๋นในเวลาเดียวกัน แถมลูกยิงไกลยังเฉียบขาดเป็นอย่างมาก
ซึ่งในแมตช์กับอิรักจะเป็นการแสดงทักษะครั้งสำคัญของ "เจ้าตังค์" ว่าเพราะอะไรเขาถึงกลายเป็นผู้เล่นคนแรกที่มักจะมีชื่ออยู่บนลิสต์ของ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง อยู่เสมอ ๆ
ขอบคุณข้อมูลจาก : espnfc.com