เช้านี้แฟนลูกหนังชาวไทยทั้งประเทศคงตื่นขึ้นมาอย่างอารมณ์ดี เจอหน้าทักทายเพื่อนฝูงด้วยรอยยิ้ม หลังจากเมื่อค่ำวานนี้ (อังคารที่ 8 กันยายน 2558) ขุนพล "ช้างศึก" ทีมชาติไทย แสดงหัวจิตหัวใจไล่ตามตีเสมอทีมแกร่งอย่าง อิรัก 2-2 ในฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก รอบ 2 กลุ่มเอฟ ที่ราชมังคลากีฬาสถาน หัวหมาก
เป็นเกมที่สร้างความสะใจ และได้ใจกองเชียร์จริง ๆ สำหรับนักเตะทีมชาติไทยทุกคน เพราะตั้งแต่เริ่มเกมในครึ่งแรก แข้งไทยเป็นรองหมดทุกด้าน ทั้งเทคนิค ความเร็ว แรงปะทะ ผู้เล่นอิรักดูเหมือนจะใหญ่กว่าและคล่องตัวกว่า ได้บอลเข้าทำเมื่อไหร่เล่นเอาทีมไทยป่วนทุกครั้ง
เมราม จัสติน ผู้เจาะประตูแรกให้อิรักยอมรับว่าทีมแผ่วปลายทั้งที่เริ่มต้นได้ดี
สถานการณ์ยิ่งเลวร้ายถึงขีดสุดเมื่อ อิรัก ได้ประตูขึ้นนำถึง 2-0 หลังจากเริ่มต้นครึ่งหลังไปแค่ไม่กี่นาที ในขณะที่เกมของไทยยังดูไม่เห็นว่าจะเอาอะไรไปเล่นงานทีมเยือนได้
แต่ที่สุดแล้วแข้งช้างศึกที่ไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ ก็ปลดล็อกอารมณ์อึดอัดให้กองเชียร์ทั้งที่อยู่ในสนามและที่เฝ้าหน้าจอทางบ้านได้เฮกันลั่น เมื่อยิงได้ 2 ประตูรวดในช่วงเวลา 5 นาที ไล่ตีเสมอเป็น 2-2 แบ่งคะแนนจากทีมแกร่งของทวีปได้สำเร็จ
หลังจบเกมนี้ มีการแสดงความเห็นวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่าง ๆ นานา ว่าอะไรที่ทำให้ ไทยสามารถพลิกสถานการณ์รอดความพ่ายแพ้ได้ บางคนบอกว่า อิรักแผ่วปลายเพราะหมดแรง บางคนมองว่าเป็นเพราะประมาทผ่อนเกมจนโดนไทยฮึดบี้คืน
แต่นี่คือสิ่งที่จะเปิดเผยถึงจุดเปลี่ยนที่แท้จริงของเกมนี้ ภาพจากห้องแต่งตัวของทีมชาติอิรักในช่วงพักครึ่งเวลาซึ่งถูกเผยแพร่ผ่านทวิตเตอร์ @hassaninmubarak ผู้สื่อข่าวกีฬาชาวอิรัก
ผู้สื่อข่าวกีฬาอิรักโพสต์ภาพแซวโค้ชทีมชาติตัวเอง
นี่คือภาพกระดานการวางหมากและแก้เกมของ ยาห์ย่า อัลวาน กุนซือทีมชาติอิรัก ที่อธิบายให้ลูกทีมฟัง และ ฮัสซานี่ มูบารัค ก็เอามาโพสต์แซวว่า นี่แหละที่ทำให้นักเตะอิรักฟอร์มหลุดไปดื้อ ๆ ในช่วงครึ่งหลัง ใช่หรือไม่ใช่ยังไง โปรดใช้วิจารณญาณ
ภาพ AFP, twitter.com/hassaninmubarak, instagram.com/justinmeram/