"โค้ชซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ได้รับเชิญให้ไปออกรายการ "เจาะข่าวเด็ดกับสรยุทธ" ทางไทยทีวีสีช่อง 3 ซึ่งกุนซือทัพช้างศึกได้เปิดใจตอบหมดทุกคำถาม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ต้องเปลี่ยนแท็กติกอย่างฉับพลันเนื่องจาก สุทธินันท์ พุกหอม ได้รับบาดเจ็บ รวมไปถึงการตัดสินใจส่ง ธนา ชะนะบุตร กับ ศราวุฒิ มาสุข ลงไปป่วนแนวรับอิรัก และประสบการณ์ใหม่จากผู้ตัดสินระดับโลก
ทีมชาติไทย เพิ่งจะเปิดบ้านไล่ตีเสมอ อิรัก ไปแบบสุดมันระทึก 2-2 เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2558 ซึ่งหลังเกมการแข่งขันเสร็จสิ้นลงก็มีคำถามมากมายเกิดขึ้นเกี่ยวกับการแข่งขันในแมตช์ดังกล่าว ซึ่งทาง "โค้ชซิโก้" ผู้เป็นกุนซือใหญ่ ก็ได้ออกมาตอบทุกคำถาม
4 ประเด็นหลัก ไทย เสมอ อิรัก 2-2
1) การบาดเจ็บของ สุทธินันท์ พุกหอม
เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง - ก่อนเกมการแข่งขันผมได้คิดเอาไว้ว่าจะพยายามไม่ให้ลูกทีมเสียประตูในครึ่งแรก และพยายามยื้อเอาไว้ให้ได้ในครึ่งหลัง จากนั้นจะส่ง 3 แนวรุกลงไปเพื่อไล่บี้แนวรับของอิรักที่กำลังอ่อนแรง แต่ในเมื่อมันเกิดปัญหาขึ้นมาตรงที่ สุทธินันท์ ได้รับบาดเจ็บ ผมเลยต้องส่ง ประทุม ชูทอง ลงไปชนกับแนวรุกของอิรัก แน่นอนว่าแท็กติกของเราไม่ได้เป็นไปตามแผนแล้ว
2) ธนา ชะนะบุตร & ศราวุฒิ มาสุข คือการตัดสินใจที่ถูกต้อง
เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง - พอมาในครึ่งหลังเราเสียประตูเพิ่มไปอีก 1 ลูก มันจึงจำเป็นต้องตัดสินใจแล้วว่าจะเอาอย่างไรต่อไปดี แน่นอนว่า ธนา ชะนะบุตร มีทั้งความเร็ว ความคล่องตัว และประสบการณ์ ผมเลยตั้งใจจะส่งเขาลงไปเล่นริมเส้น แต่ไป ๆ มา ๆ ผมกลับมองเห็นว่า ธีรศิลป์ แดงดา นั้นดูโดดเดี่ยวเกินไป จึงเป็น ศราวุฒิ มาสุข ที่ได้ลงไปเล่นริมเส้นทางฝั่งซ้ายแทน แล้วก็ให้ มงคล ทศไกร กลับไปประจำการที่ฝั่งขวาเหมือนเดิม
ซึ่งแผนของเราจึงกลายเป็น 4-4-2 เพราะผมตัดสินใจให้ ธนา ชะนะบุตร ไปจับคู่กับ ธีรศิลป์ แดงดา ในตำแหน่งกองหน้า แน่นอนว่าทุกอย่างมันลงตัวเหลือเกิน และผลงานที่ออกมามันก็ดีเกินคาด
3) ได้ประสบการณ์จากเชิ้ตดำระดับโลก
เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง - สำหรับการทำหน้าที่ของ มาซาอากิ โตมะ ผู้ตัดสินชาวญี่ปุ่น ผมบอกได้เลยว่าไม่ได้มีอะไรค้างคาใจเลยแม้แต่น้อย แต่ว่ากลับได้ความรู้ใหม่ว่าถ้าเป็นการตัดสินของผู้ตัดสินระดับโลก การที่นักเตะใช้ไหล่ชนไหล่กัน ไม่ว่าจะเป็นตัวใหญ่กับตัวเล็กจะไม่มีการเป่าฟาวล์เกิดขึ้น แต่การเป่าฟาวล์นั้นจะเกิดขึ้นแค่ในกรณีของการดึง และการเสียบสกัดเท่านั้น ซึ่งผิดไปจากกรรมการย่านอาเซียน
4) การเข้ารอบจำเป็นต่อ เอเชียนคัพ 2019
เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง - ในตอนนี้ผมต้องการที่จะพาทีมชาติไทยให้ขึ้นไปอยู่ในระดับเอเชียให้ได้ก่อน ซึ่งแน่นอนว่าการเข้าไปสู่รอบคัดเลือกรอบที่ 3 นั้นสำคัญเอามาก ๆ เพราะว่าหากเราเข้ารอบไปได้เส้นทางสู่ เอเชียนคัพ 2019 จะเปิดให้เราอัตโนมัติทันที
ซึ่งจากเกมกับอิรัก ผมเชื่อว่านักเตะไทยทุกคนต่างก็ได้รับประสบการณ์กันมาแล้วว่า เมื่อลงเล่นในระดับเอเชียการที่จะทำประตูทีมแนวหน้าให้ได้คือการ เข้าทำที่รวดเร็ว และเฉียบขาด ซึ่งในตอนนี้เส้นทางของการขึ้นไปอยู่ในแถวหน้าของเอเชียน่าจะเป็นทางที่ใช่สำหรับเรา เพราะว่าผู้เล่นชุดนี้อายุเฉลี่ยอยู่ที่ 22-23 ปี เท่านั้น การก้าวขึ้นไปเล่นในระดับเอเชียจะช่วยสร้างกระดูกให้เราได้มาก และตอนนี้มันน่าจะสำคัญกว่าที่เราจะมองไปถึงฟุตบอลโลก