ราฟาเอล เบนิเตซ ผู้จัดการทีม "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล แสดงให้เห็นถึงแนวคิดสมานฉันท์ด้วยการออกมากล่าวว่า การที่ เอซี มิลาน ต้องตกเป็นฝ่ายแพ้ต่อ "เร้ด แมชีน" อย่างเจ็บแสบในเกมชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อสองปีก่อน ทั้งๆ ที่นำห่างในครึ่งแรกถึง 3-0 ไม่ใช่ความผิดที่ คาร์โล อันเชล็อตติ เทรนเนอร์ "ปิศาจแดงดำ" ต้องรับผิดชอบแต่อย่างใด
ตลอดช่วงสัปดาห์ก่อนถึงเกมชิงชนะเลิศที่กรุงเอเธนส์ในวันพุธที่ 23 พ.ค. นี้ นักเตะทั้งของ มิลาน และ ลิเวอร์พูล ต่างก็ออกมาเกทับบลัฟแหลกกันไม่ขาดสาย แต่ครั้งนี้ "เอล ราฟา" กล่าวว่า "ผมคิดว่าในคืนนั้นที่ อิสตันบูล อันเชล็อตติ ทำทุกอย่างได้ถูกต้องหมดแล้ว แล้วพวกเขาก็เล่นกันได้ดีด้วย ตอนที่เรายิงลูกแรกได้เขาก็เริ่มเปลี่ยนตัวผู้เล่นลงมาซึ่งผมว่ามันก็ถูกต้องแล้ว เขาใส่ แซร์จินโญ่ ลงมาทางกราบซ้ายคอยเปิดเกมสร้างปัญหาให้เรา แต่ทว่าตอนนั้นน่ะเราคุมสถานการณ์ทุกอย่างได้หมดแล้ว ด้วยการโยก เจอร์ราร์ด ลงไปยืนเป็นแบ็กขวา"
"ผมว่ามาถึงปีนี้ทุกอย่างมันจะแตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิงเพราะทั้งสองฝ่ยต่างก็มีประสบการณ์กันมากขึ้น เราไม่ได้อยากจะพูดถึงการแก้แค้นให้มันกลายเป็นข่าวพาดหัว นี่มันก็เป็นแค่เกมๆ หนึ่งระหว่างสุดยอดทีมสองทีมเท่านั้น"
ส่วนเรื่องปัญหาที่ว่าจะส่งใครลงเล่นเป็นตัวจริงในเกมนี้บ้าง เบนิเตซ กล่าวว่า "เราจะต้องรอดูนักเตะทุกคนในระหว่างการซ้อมและในการซ้อมทุกๆ ช่วงวันก่อนมีคนพูดถึง แฮรี่ คีเวลล์ เขาเล่นได้ดีในช่วงครึ่งชั่วโมงแต่เราก็ต้องรอดูก่อนว่าเขาจะสมบูรณ์พอหรือไม่แล้วค่อยตัดสินใจว่าจะส่งเขาเล่นเป็น 11 คนแรกหรือเปล่า มันมีอีกหลายอย่างที่ผมต้องตัดสินใจ แต่เราจะดูกันในการฝึกซ้อม ที่ผมรู้ตอนนี้ก็คือทุกคนต่างก็มีสมาธิเต็มที่และเราก็จะพร้อมลงเล่นแน่"
"นักเตะทุกคนจดจ่ออยู่กับเกมอย่างมาก คุณเห็นได้เลยจากในเกมก่อน (เสมอ ชาร์ลตัน 2-2) ว่าทั้งๆ ที่พยายามจะกระตุ้นพวกเขา แต่ใจของทุกคนมันลอยไปถึงเกมนัดชิงแล้ว สิ่งเดียวที่เราทำได้ตอนนี้ก็คือเตรียมตัวให้พร้อมที่สุดแล้วเดินลงสนามด้วยความมั่นใจ เพราะถึงขึ้นนี้ความรู้สึกตื่นกลัวหรือกดดันมันจะเกิดขึ้นง่ายมาก แล้วผมก็รู้ว่าจะทำยังไงให้ทุกอย่างมันผ่อนคลายลง" เบนิเตซ กล่าวทิ้งท้าย