เริ่มเกมมาทั้งคู่ระมัดระวังกันสุดๆโดยที่"สิงห์โตพันล้าน"แอบเสียวก่อนเมื่อจอห์น โอบี มิเกลเติมเกมขึ้นมาทางริมเส้นก่อนครอสเข้ากลางบอลเลยไปเสาสองเป็นไรท์ ฟิลลิปส์ที่เอาบอลลงก่อนยิงเหน่งๆแค่ 7-8 หลาแต่ติดบล็อกยูไนเต็ดหวุดหวิด
เกมถึงครึ่งชั่วโมงมิเกลแทงทุลุให้แฟร์เรียร่าพาบอลเข้าถึงเขตโทษก่อนป้ายต่อให้แลมพาร์ดที่วิ่งทำทางและตวัดหักมุมยิงแต่ฟาน เดอร ซาร์ล้มตัวตระครุบหนึบ ช่วงนี้เชลซีมาแรงคุมเกมไว้ได้หมด
อีกสองนาทีแลมพาร์ดโชว์ลูกยิงไกลบอลพุ่งเฉี่ยวข้ามคานไปชนเสายึดตาข่ายด้านหลังแบบเสียวท้องน้อยสุดๆ จากนั้นทั้งคู่ก็ยังทำอะไรกันไม่ได้แม้ว่าโรนัลโด้เริ่มอาศัยช่วงที่แฟร์เรียร่าหมดแรงพาทัวร์หนีเห็นๆก็ตาม หมดครึ่งแรกเสมอกัน 0-0
ครึ่งหลังเริ่มมาไม่ทันสองนาทียูไนเต็ดน่าจะขึ้นนำอย่างรวดเร็วเมื่อรูนี่ย์แย่งบอลจากมาเกเลเล่เลี้ยงจี้เข้าหากรอบโทษก่อนยิงไกลเป็นเช็กที่พุ่งตะปบเซฟเอาไว้ได้และแม้กิกส์ที่อยู่ในตำแหน่งล้ำหน้าจะตามมาซ้ำแต่จอมหนึบร่างยาวยังอุตสาห์โชว์เทพลุกมาเซฟอีกจังหวะ
นาที 70 ยูไนเต็ดยังพลาดโอกาสหลุดเดี่ยวอีกครั้งหลังเฟลทเชอร์แทงบอลให้กิกส์หลุดไปคนเดียวเนื่องจากบริดจ์ยืนห้อยเช็กพลาดแต่ปีกขนดกดันช้าเงยหน้าจะเปิดเข้ากลางให้เพื่อนเลยโดนเอสเซียงสไลด์ออกหลังไปทัน
ช่วงทดเจ็บนาทีสุดท้ายยูไนเต็ดได้ฟรีคิกทางริมเส้นด้านซ้ายเป็นกิกส์ที่ปั่นโค้งสวยเป็นวิดิชได้โขกบอลข้ามคานออกไปและผู้ตัดสินสตีฟ เบ็นเน็ตต์เป่านกหวีดหมดเวลาปกติต้องไปห้ำหั่นกันใหม่อีก 30 นาที
ช่วงต่อเวลาครึ่งแรกโรนัลโด้ตัดบอลของเชลซีก่อนปาดออกปีกให้รูนี่ย์ที่ตบเข้ากลางผ่านทุกคนและเป็นกิกส์ที่สไลด์เข้าฮอร์ตแค่ 2-3 หลาแต่โดนไม่เต็มทำให้เช็กล้มคว้าบนเส้นแต่แรงเฉื่อยของปีกขนดกไปยันเอานายทวารเลยข้ามเส้นเข้าไปแต่กรรมการไม่ว่าอะไรหมด 15 นาทีแรกยังสกอร์ 0-0
เริ่มต่อเวลาครึ่งได้ไม่นานสโคลส์วางบอลยาวแม่นสุดๆเปิดจากแดนตัวเองให้รูนี่ย์สอดหนีเอสเซียงซึ่งเป็นตัวสุดท้ายแต่จังหวะเอาบอลลงดันไปโดนหน้าแข้งทำให้เช็กสไลด์ทั้งตัวตะครุบเอาไว้ได้ แต่นาที 125 กลายเป็นเชลซีที่ขึ้นนำจนได้โดยเริ่มจากมิเกลแหย่บอลให้ดร็อกบาที่ตวัดทำชิ่ง 1-2 กับแลมพาร์จนหลุดเข้าถึงเขตโทษและวิ่งมาเสือกหัวเกือกตัดหน้าฟาน เดอร์ซาร์เข้าไปไม่มีเหลือ เชลซีนำ 1-0
ช่วงทดเจ็บยูไนเต็ดบอมบ์เข้าใส่แหลกเข้าเขตโทษหมายจะตีเสมอให้ได้แต่บอลที่ไร้รูปแบบในช่วงเวลาที่แทบไม่เหลือแล้วยากที่จะเจาะเชลซีจบเกมเป็นลูกทีมมูรินโญ่ที่ได้แชมป์รายการนี้ไปครองด้วยสปิริตอันสุดยอดหลังมีตัวเลือกน้อยสุดๆ
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม :
เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก,เปาโล แฟร์เรียร่า,จอห์น เทอร์รี่,เวย์น บริดจ์,โคล้ด มาเกเลเล่ ,แฟร็งค์ แลมพาร์ด,ฌอน ไรท์ ฟิลลิปส์(กาลู น.93),ดิดิเยร์ ดร็อกบา,โจ โคล(ร็อบเบน น.46)(แอชลี่ย์ โคล น.108)
แมนฯยูฯ : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์,เวส บราว์น,เนมันย่า วิดิช ,กาเบรียล ไฮนเซ่,ไมเคิ่ล คาร์ริค(โซลชา น.112),ดาร์เรน เฟลทเชอร์(สมิธ น.92 ),พอล สโคลส์ ,คริสติอาโน่ โรนัลโด้,ไรอัน กิกส์(โอเชีย น.112),เวย์น รูนี่ย์