เนื่องในโอกาสครบรอบ 20 ปี ของ "กฎบอสแมน" ที่เป็นเหมือนการปฏิวัติตลาดซื้อขายนักเตะตั้งแต่ปี 1995 เป็นต้นมา "เดอะ มิเรอร์" สื่อชื่อดังแห่งเกาะอังกฤษ ได้ทำการจัด 11 ผู้เล่นตัวจริงที่เป็นสุดยอดนักเตะที่ย้ายทีมแบบไม่มีค่าตัว และทำผลงานได้ยิ่งกว่าคำว่าคุ้มให้กับต้นสังกัดใหม่มาให้ชมกัน
ผู้รักษาประตู : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ - อาแจ็กซ์ ย้ายไป ยูเวนตุส 1999
.jpg)
ประเดิมเฝ้าเสาให้ อาแจ็กซ์ พร้อมกับคว้าแชมป์ลีก 4 สมัย และแชมป์ ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ คัพ ระหว่างปี 1991-1999 รวม 311 เกม ก่อนย้ายไปร่วทีมยักษ์ใหญ่ของอิตาลีอย่าง ยูเวนตุส ไปแบบไม่มีค่าตัว ซึ่งปีเดียวกันนี้ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน พยายามที่จะคว้าตัวเขามาแทนที่ ปีเตอร์ ชไมเคิล แต่ไม่ประสบความสำเร็จ
แบ็กขวา : คาฟู - โรม่า ย้ายไป เอซี มิลาน 2003
เอซี มิลาน ได้ตัวสุดยอดฟูลแบ็กทีมชาติบราซิล ไปร่วมทีมแบบฟรี ๆ และเขาก็ไม่ทำให้ทัพ "ปีศาจแดง" ต้องผิดหวัง เมื่อเป็นกำลังสำคัญที่ช่วยทีมคว้าแชมป์ เซเรีย อา, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รวมถึงแชมป์สโมสรโลกได้สำเร็จ ก่อนที่เขาจะประกาศแขวนสตั๊ดไปในปี 2008
เซ็นเตอร์แบ็ก : โซล แคมเบลล์ - สเปอร์ส ย้ายไป อาร์เซน่อล 2001
แฟนบอลของ สเปอร์ส อาจผิดหวังในตัวเขา และตราหน้าว่าเขาคือคนทรยศ แต่อย่างไรก็ตามการย้ายมาร่วทีม อาร์เซน่อล ทำให้ แคมป์เบล สร้างชื่อเป็นสุดยอดกองหลังในยุคนั้น เขาคือหนึงในขุนพล "ปืนใหญ่" ชุดแชมป์ไร้พ่าย พร้อมกับคว้าแชมป์ลีกคัพ 2สมัย และเอฟเอ คัพ 3 สมัย
เซ็นเตอร์แบ็ก : มาร์คุส บับเบิ้ล - บาเยิร์น มิวนิค ย้ายไป ลิเวอร์พูล 2000
ใช่ เขาอาจจะไม่ใช่เซ็นเตอร์แบ็กอาชีพ แต่ มาร์คุส บับเบิ้ล สามารถเล่นได้ทุกตำแหน่งในแผงหลัง และคือนักเตะคนสำคัญที่ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ผงาดคว้า ทริปเปิ้ลแชมป์ ในฤดูกาล 2000-01
แบ็กซ้าย : ฟิลลิป โคคู - พีเอสวี ย้ายไป บาร์เซโลน่า 1998
ดาวเตะสารพัดประโยชน์ เขาเล่นได้ทุกตำแหน่งในแนวรับ และถือเป็นกำลังสำคัญของ หลุยส์ กาน กัล สมัยที่คุมทีม บาร์เซโลน่า โดยเขาลงเล่นให้ไปถึง 205 เกม และคว้าแชมป์ ลาลีกา รวมถึงถ้วยอื่น ๆ ร่วมกับทัพ "บาร์ซ่า"
กองกลาง : อันเดรีย ปีร์โล่ - เอซี มิลาน ย้ายไป ยูเวนตุส 2011
เมื่อสัญญาของ ปีร์โล่ กับ มิลาน หมดลงในปี 2011 ยูเวนตุส ก็ไม่รีรอที่จะคว้าตัวเขามาร่วมทีมแบบฟรี ๆ ทางกลางเสียงวิจารณ์ว่านี่คือช่วงที่เลยจุดสูงสุดในอาชีพของเขามาแล้ว แต่ผิดถนัดการย้ายไปร่วมทัพ "ม้ายลาย ถือเป็นหนทางที่สุดแสนจะงดงามในช่วงปลายอาชีพของเขาเพราะ เขาคือมิดฟิลด์ที่สโมสร และทีมชาติขาดไม่ได้เลย
กองกลาง : เอสเตบัน กัมบิอัสโซ่ - เรอัล มาดริด ย้ายไป อินเตอร์ มิลาน 2004
กัมบิอัสโซ่ กลายเป็นนักเตะ เรอัล มาดริด คนแรกที่ขอย้ายทีมตามกฏบอสแมน และถือเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง เพราะการคว้าแชมป์ สคูเด็ตโต้ 5 สมัย,โคปา อิตาเลีย 4 สมัย และยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 1 สมัย ถือเป็นเครื่องพิสูจน์ได้เป็นอย่างดี
กองกลาง : สตีฟ แม็คมานามาน - ลิเวอร์พูล ย้ายไป เรอัล มาดริด 1999
ปีกจอมเลื้อย สร้างความฮือฮาด้วยการย้ายไปร่วมทีม เรอัล มาดริด แบบไร้ค่าตัว และได้กลายเป็นหนึ่งในนักเตะอังกฤษที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในสเปน ด้วยการคว้าแชมป์ ลา ลีกา 2 สมัย และแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก อีก 2 สมัย
กองกลาง : แกรี่ แม็คอัลลิสเตอร์ - โคเวนทรี ย้ายไป ลิเวอร์พูล 2000
กองกลางจอมเก๋า ย้ายไปร่วมทีม ลิเวอร์พูล ด้วยวัย 36 ปี และได้กลายเป็นมิดฟิลด์คนสำคัญที่ช่วยให้ทัพ "หงส์แดง" ทริปเปิ้ลแชมป์ ในฤดูกาล 2000-01 และลูกยิงประตูใส่ เอฟเวอร์ตัน คู่ปรับร่วมเมือง กลายเป็นหนึ่งในความทรงจำประทับใจที่เหล่า "เดอะ ค็อป" ไม่มีวันลืม
กองหน้า : โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ - ดอร์ทมุนด์ ย้ายไป บาเยิร์น มิวนิค 2014
หัวหอกทีมชาติโปแลนด์ คือหนึ่งในสุดยอดดาวยิงระดับท็อปตั้งแต่สมัยอยู่เล่นกับ ดอร์ทมุนด์ แต่หลังจากการย้ายไปร่วมทีม บาเยิร์น ก็ยิ่งทำให้ชื่อของเขาก็สั่นสะเทือนวงการลูกหนังไปทั่วโลก
กองหน้า : เฮนริก ลาร์สสัน - เซลติก ย้ายไป บาร์เซโลน่า 2004
ตำนานดาวยิงทีมชาติสวีเดน ย้ายไปร่วมทัพ "เจ้าบุญทุ่ม" ไปแบบไร้ค่าตัว และใช้เวลา 2 ปีคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมป์ ลาลีกา 2 สมัย, แชมเปี้ยนส์ลีก 1 สมัย, สแปนิช ซูเปอร์ คัพ 1 สมัย
ตัวสำรอง :
แบรด ฟรีเดล - ลิเวอร์พูล ย้ายไป แบล็คเบิร์น 2000
คริสตอฟ เม็ตเซลเดอร์ - ดอร์ทมุนด์ ย้ายไป เรอัล มาดริด 2007
โรแบร์โต้ บักโจ้ - เอซี มิลาน ย้ายไป โบโลญญ่า 1997
มิชาเอล บัลลัค - บาเยิร์น มิวนิค ย้ายไป เชลซี 2006
มิโรสลาฟ โคลเซ่ - บาเยิร์น มิวนิค ย้ายไป ลาซิโอ 2011
เนื้อหาจาก mirror.co.uk
ภาพจาก AFP
