เจนนาโร่ กัตตูโซ่ กองกลางจอมบู๊ของ เอซี มิลาน เชื่อว่าการที่ "ปิศาจแดงดำ" สามารถหักปีกเอาชนะ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ได้ 2-1 ในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก นัดชิงชนะเลิศเมื่อคืนวันพุธที่ 23 พ.ค. ที่ผ่านมา คว้าตำแหน่งแชมป์ยุโรปมาครองได้เป็นสมัยที่ 7 ถือเป็นการกอบกู้ศักดิ์ศรีของวงการฟุตบอลอิตาลีกลับคืนมาได้อย่างน่าชื่นชม ภายหลังเรื่องราวอันน่าอัปยศที่เกิดขึ้นทั้งการล้มบอลที่ถูกเปิดโปงเมื่อฤดูกาลก่อน และเหตุการณ์แฟนบอลสังหารเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ คาตาเนีย เมื่อเดือนก.พ. ที่ผ่านมา รวมทั้งยังเป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่า เกมลูกหนังแดนมะกะโรนี ยังเป็นสุดยอดไม่ยิ่งหย่อนกว่าชาติใดในยุโรป
"ไอ้รถถัง" กล่าวว่า "ในช่วงเวลา 1 ปี ผมได้แชมป์โลกกับอิตาลี แล้วก็แชมป์ แชมเปี้ยนส์ ลีก กับ มิลาน สำหรับผมมันเป็นความภาคภูมิใจอย่างยิ่ง หลังจากที่เคยเจอบางคนมาบอกว่าฟุตบอลอิตาลีกำลังวิกฤติ แล้วอย่างนี้มันยังถือว่าวิกฤติอีกมั้ยล่ะ?
ขณะเดียวกัน "ริโน่" ยังได้ยืนยันว่าการคว้าชัยชนะในครั้งนี้ไม่ใช่สิ่งที่จะสามารถนำไปล้มล้างกับการพ่ายแพ้เมื่อปี 2005 ได้ โดยระบุว่า "การแพ้ครั้งนั้นมันจะเป็นภาพติดตาเราไปตลอดชีวิต แชมป์ครั้งนี้มันก็อีกครั้งหนึ่งไม่เกี่ยวกัน เพียงแต่วันนี้เราได้ฉลองชัยชนะ และ ลิเวอร์พูล ก็เป็นฝ่ายต้องช้ำใจบ้างเหมือนกับที่เราเคยเป็นเมื่อปี 2005"
อย่างไรก็ตาม กัตตูโซ่ ปฏิเสธที่จะเปรียบเทียบตำแหน่งแชมป์ฟุตบอลโลกกับแชมป์ แชมเปี้ยนส์ ลีก โดยบอกเพียงว่า "อันไหนสำคัญกว่ากันระหว่าง แชมเปี้ยนส์ ลีก กับ ฟุตบอลโลกน่ะเหรอ? อย่าไปพูดเรื่องนี้เลย คุณคงเลือกไม่ได้หรอก มันเป็นอารมณ์แตกต่างกัน และการได้แชมป์ฟุตบอลโลกมันก็เหลือเชื่อมากจริงๆ"