อาร์เซน่อล อย่าเพิ่งหมดหวัง - รวมสุดยอดการคัมแบ็กใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

หลังจากที่ อาร์เซน่อล พลาดท่าเปิดบ้านพ่ายให้กับ บาร์เซโลน่า คาถิ่น 0-2 ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้ายนัดแรก โดยเกมนี้ ลิโอเนล เมสซี่ สวมบทพระเอกเหมาคนเดียวสองประตูช่วยให้หนทางการเข้าสู่รอบต่อไปของ "บาร์ซ่า" สดใสยิ่งนัก

ขณะที่หลายฝ่ายเห็นพ้องต้องกันว่า ความพ่ายแพ้ในเกมนี้ทำให้ อาร์เซน่อล แทบจะปิดประตูในการเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศไปได้เลย เพราะการที่ลูกทีมของ อาร์แซน เวนเกอร์ จะสามารถบุกไปยิงประตูได้ใน "คัมป์นู" ถึง 2 ลูกนั้นคงไม่ใช่เรื่องง่าย

แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ อย่างไรก็ตามแฟนบอล "ปืนใหญ่" อย่าเพิ่งหมดหวังไป "เดอะ ซัน" สื่อชื่อดังแห่งเมืองผู้ดี ได้ทำการรวบรวม 10 แมตช์แห่งการคัมแบ็กใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก มาให้ชมกัน :

 

รอบชิงชนะเลิศ ฤดูกาล 1998-99

แมนฯ ยูไนเต็ด 2-1 บาเยิร์น มิวนิค

ก่อนเกมนี้ทั้งสองสโมสรกำลังจะสร้างประวัติศาสตร์คว้าเทรเบิ้ลแชมป์เป็นครั้งแรกหากเป็นผู้ชนะในเกมนี้ มาริโอ บาสเลอร์ ยิงประตูขึ้นให้กับ บาเยิร์น ตั้งแต่นาทีที่ 6 ของเกม และหลังจากนั้นทัพ "เสือใต้" ก็ครองเกมบุกอยู่ฝ่ายเดียว แต่ก็ทำประตูที่สองไม่ได้


เมื่อเข้าสู่นาทีที่ 90 เท็ดดี้ เชอริงแฮม ก็มายิงประตูตีเสมอให้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด และถัดมาอีก 2 นาที โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ก็มายิงประตูชัย และเป็นประตูที่ช่วยให้ "ปีศาจแดง" ฉลองเทรเบิ้ลแชมป์ได้สำเร็จ

 

รอบก่อนรองชนะเลิศ ฤดูกาล 1999-2000

เชลซี 3-1 บาร์เซโลน่า, บาร์เซโลน่า 5-1 เชลซี

หนึ่งประตูของ จานฟรังโก้ โซล่า และสองประตูของ ทอเร่ อังเดร โฟล ช่วยให้ "สิงห์บลูส์" ออกนำถึง 3-0 ก่อนที่ หลุยส์ ฟิโก้ จะมายิงประตูตีไข่แตกช่วยให้ "บาร์ซ่า" ยังมีความหวังในการกลับไปเล่นเกมนัดที่สองที่ "คัมป์นู"

เกมที่สอง ริวัลโด้ และหลุยส์ ฟิโก้ ช่วยกันทำคนละหนึ่งประตูช่วยให้ "บาร์ซ่า" ออกนำในครึ่งแรก 2-0 แต่ทว่า โฟล ก็มายิงตีไข่แตกให้ เชลซี หลังจากเริ่มครึ่งหลังมา 7 นาที แต่ดานี่ การ์เซีย ก็มายิงประตูทิ้งห่าง 3-1 ให้กับเจ้าบ้าน ทำให้สกอร์รวมเสมอกัน 4-4

เข้าสู่ช่วงต่อเวลาพิเศษ ริวัลโด้ ก็มายิงประตูที่สองของตัวเอง ก่อนที่ แพทริค ไคลเวิร์ต จะยิงปิดกล่องช่วยให้ บาร์เซโลน่า เอาชนะ เชลซี ไปได้ด้วยประตูรวม 6-4 พลิกสถานการณ์เข้าสู่รอบรองชนะเลิศไปได้สำเร็จ

 

รอบก่อนรองชนะเลิศ ฤดูกาล 2003-04

เอซี มิลาน 4-1 ลา กอรุนญ่า, ลา กอรุนญ่า 4-0 เอซี มิลาน

เกมนี้ถือเป็นที่สุดแห่งการคัมแบ็กของศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ก็ว่าได้ เมื่อเกมแรกได้สองประตูจาก กาก้า และคนละหนึ่งประตูจาก อังเดร เชฟเชนโก้ กับอันเดรีย ปีร์โล่ ช่วยให้ เอซี มิลาน เปิดบ้านถล่ม ลา กอรุนญ่า 4-1 หนทางเข้าสู่รอบรองชนะเลิศนั้นโรยด้วยกลีบกุหลาบ

แต่ทว่าในเกมนัดที่สอง ลา กอรุนญ่า ก็มาหักปากกาเซียนด้วยการไล่ถล่ม "ปีศาจแดงดำ" ถึง 4-0 พร้อมกับปาดหน้าเข้าสู่รอบรองชนะเลิศนั้นไปอย่างเหลือเชื่อ

 

รอบก่อนรองชนะเลิศ ฤดูกาล 2003-04

เรอัล มาดริด 4-2 โมนาโก, โมนาโก 3-1 เรอัล มาดริด

เรอัล มาดริด ในยุคนั้นที่มีสตาร์อย่าง ซีเนอดีน ซีดาน, ราอูล กอนซาเลซ, หลุยส์ ฟิโก้ และเดวิด เบ็คแฮม นั้นทำให้เกมนัดแรก โมนาโก เหมือนจะหมดลุ้นเข้ารอบไปแล้วหลังจากบุกไปแพ้ไปถึง 2-4

แต่ทว่าทีมดังจาก "แดนน้ำหอม" ก็มาทำสิ่งที่ไม่คาดคิดให้เกิดขึ้น เมื่อในเกมนัดที่สองพวกเขาพลิกกลับมาเอาชนะ 3-1 พร้อมกับเขี่ย "ราชันชุดขาว" ตกรอบไปด้วยกฎประตูทีมเยือนอย่างเจ็บปวด

 

รอบชิงชนะเลิศ ฤดูกาล 2004-05

เอซี มิลาน 3-3 ลิเวอร์พูล (2-3 ดวลจุดโทษ)

คงไม่มีเหล่า "เดอะ ค็อป" รายไหนลืมค่ำคืนอันแสนดื่มด่ำที่ กรุงอิสตันบูล ได้แน่นอน เมื่อรอบชิงชนะเลิศเป็น เอซี มิลาน ที่พบกับ ลิเวอร์พูล แล้วครึ่งแรกยอดทีมจากอิตาลีก็ได้ประตูนำไปก่อนถึง 3-0 เรียกได้ว่าแทบจะปิดฉากความฝันของแฟนบอล "หงส์แดง" ไปเลย

ทว่าในครึ่งหลัง ลิเวอร์พูล กลับมาซัดคืน 3 ประตูรวดใน 6 นาที ก่อนที่จะเถลิงแชมป์สมัยที่ 5 ของสโมสรได้สำเร็จจากการดวลลูกโทษที่จุดโทษ

 

รอบ 16 ทีมสุดท้าย ฤดูกาล 2011-12

นาโปลี 3-1 เชลซี, เชลซี 4-1 นาโปลี

เชลซี เริ่มต้นเกมแรกในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ได้อย่างย่ำแย่ด้วยการบุกไปแพ้ให้กับ นาโปลี ไปแบบหมดฟอร์ม 1-3 ก่อนที่เกมที่สองประตูของ , จอห์น เทอร์รี่ และแฟร้งค์ แลมพาร์ด จะช่วยให้พวกเขายื้อไปถ่วงช่วงต่อเวลาพิเศษได้สำเร็จ

ก่อนที่ บรานิสลาฟ อิวาโนวิช จะมายิงประตูชัยช่วยให้ "สิงห์บลูส์" ผ่านเข้าสู่รอบต่อไป พร้อมกับกรุยทางในการคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก มาครองเป็นสมัยแรกได้ในท้ายที่สุด

 

รอบ 16 ทีมสุดท้าย ฤดูกาล 2012-13

เอซี มิลาน 2-0 บาร์เซโลน่า, บาร์เซโลน่า 4-0 เอซี มิลาน

สองประตูในเกมแรกจาก เควิน-พรินซ์ บัวเต็ง และซัลลี่ย์ มุนตารี่ ช่วยให้ เอซี มิลาน เอาชนะยอดทีมอย่าง บาร์เซโลน่า และไปเล่นเกมนัดที่สองที่ "คัมป์นู" แบบชิล ๆ

แต่ทว่า ลิโอเนล เมสซี่ ก็กลับมาแผงฤทธิ์ในเกมนัดที่สองด้วยการยิงสองประตู ขณะที่ ดาบิด บีย่า และจอร์ดี้ อัลบา ก็ซัดคนละหนึ่งประตู ทำให้ "ปีศาจแดงดำ" ต้องตื่นจากฝันหวานโดยพลัน และหยุดเส้นทางของตัวเองไว้แค่รอบ 16 ทีม

 

รอบ 16 ทีมสุดท้าย ฤดูกาล 2013-14

โอลิมเปียกอส 2-0 แมนฯ ยูไนเต็ด, แมนฯ ยูไนเต็ด 3-0 โอลิมเปียกอส

ในเกมแรกถือว่า แมนฯ ยูไนเต็ด เสียหน้าสุด ๆ เมื่อพวกเขาบุกไปพ่ายให้กับ โอลิมเปียกอส 0-2 แต่ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ก็กลับมาสวมบทฮีโร่ และสร้างแรงฮึดให้กับเพื่อนร่วมทีมด้วยการซัดแฮตทริกได้ในเกมที่ "โอลด์ แทรฟฟอร์ด" สุดท้ายเป็น "ปีศาจแดง" ที่ปาดหน้าเข้ารอบ 8 ทีมได้สำเร็จ

 

รอบก่อนรองชนะเลิศ ฤดูกาล 2013-14

เปแอสเช 3-1 เชลซี, เชลซี 2-0 เปแอสเช

ประตูจากลูกจุดโทษของ เอแด็ง อาซาร์ ในเกมแรกถือว่ามีความสำคัญอย่างยิ่ง ถึงแม้ เชลซี จะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ในเกมแรกไป 3-1

และเมื่อกลับมาเล่นในนัดที่สอง อังเดร เชือร์เล่ ก็มาซัดประตูเปิดร่องให้เจ้าถิ่น ก่อนที่ เดมบ้า บา จะมาซัดประตูปิดกล่องในนาทีที่ 87 ทำให้สกอร์รวมเสมอกัน 3-3 แต่ทว่าทัพ "สิงห์บลูส์" ผ่านเข้ารอบด้วยด้วยกฎประตูทีมเยือน ส่ง เปแอสเช ตกรอบไปอย่างน่าเจ็บปวด

 

รอบก่อนรองชนะเลิศ ฤดูกาล 2014-15

ปอร์โต้ 3-1 บาเยิร์น มิวนิค, บาเยิร์น มิวนิค 6-1

ริคาร์โด กวาเรสม่า โชว์ฟอร์มได้อย่างร้อนแรงยิงสองประตูช่วยให้ ปอร์โต้ สร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการเอาชนะยอดทีมอย่าง บาเยิร์น มิวนิค 3-1 ในเกมแรก

แต่กวาเรสม่า และปอร์โต้ คงไม่รู้ตัวว่ากำลังทำให้ "พี่เสือ" โกรธอยู่ เมื่อในเกมนัดที่สอง "เสือใต้" จัดการยิง 5 ประตูรวดตั้งแต่ครึ่งแรก และสุดท้ายเกมจบแบบที่ว่า ปอร์โต้ หาทางกลับบ้านไม่เจอ เมื่อโดน บาเยิร์น ไล่ถลุงไปถึง 6-1 

เนื้อหาจาก thesun.co.uk

ภาพจาก AFP

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
อาร์เซน่อล อย่าเพิ่งหมดหวัง - รวมสุดยอดการคัมแบ็กใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก อัปเดตล่าสุด 26 กุมภาพันธ์ 2559 เวลา 21:29:25 18,957 อ่าน
TOP