เพราะโชคชะตาลิขิตให้ชีวิตพลิกมาเป็นซูเปอร์สตาร์

เส้นทางการค้าแข้งของเหล่าบรรดานักฟุตบอลอาชีพของแต่ละคนนั้นย่อมแตกต่างกันไป บ้างก็สุขสมหวังได้เป็นซูเปอร์สตาร์ลูกหนังอย่างรวดเร็ว บ้างก็มาประสบผลในช่วงท้ายอาชีพ บ้างก็ไม่ประสบความสำเร็จในช่วงแรก

แต่ก็ยังมีผู้ที่ไม่เคยย่อมแพ้ต่อโชคชะตา จนสามารถมองย้อนกลับไปในเส้นทางสายลูกหนังนี้ได้อย่างน่าภาคภูมิใจและนี่คือ 10 นักเตะที่โชคชะตาลิขิตให้ชีวิตพลิกมาเป็นซูเปอร์สตาร์ :

10) เอียน ไรท์

ตำนานดาวยิง อาร์เซน่อล เริ่มต้นการเป็นนักฟุตบอลอาชีพช้าไปหน่อย โดยที่เขาเคยเล่นให้กับทีมนอกลีกมาก่อน แต่แล้ว คริสตัล พาเลซ ก็มองเห็นความสามารถจึงจับเขาเซ็นสัญญาเป็นนักเตะอาชีพด้วยวัย 22 ปี และจากนั้น โลกก็ต้องรู้จักดาวยิงที่ชื่อ เอียน ไรท์ ด้วยผลงาน 387 จาก 581 เกมตลอดการค้าแข้งของเขา

9) ลี ทัค

ถึงแม้จะไม่ประสบความสำเร็จกับการเป็นนักฟุตบอลที่อังกฤษ โดยที่ ลี ทัค เคยเล่นให้กับทีมนอกลีกอย่าง ฟาร์สลีย์ เซลติก ก่อนที่จะย้ายมาเล่นใน ไทย กับทีม นครปฐม เมื่อปี 2010 ก่อนที่จะย้ายไปร่วมทีม บางกอก เอฟซี ในปีถัดมา และที่นี่เขาจัดการซัดไป 45 ประตูจากการลงเล่น 60 เกม ถึงแม้ว่าจะเคยขึ้นชื่อว่าเป็นนักเตะนอกลีกมาก่อน แต่เขาก็สามารถคว้ารางวัลรางเท้าทองคำที่ประเทศไทยได้

8) ฆาบี บาราส

ฆาบี บาราส ได้โอกาสเฝ้าเสาให้กับ เซบีย่า ตั้งแต่อายุ 23 ปี แต่ตลอดปี 2003 - 2008 เขาหมดเวลาให้กับการลงเล่นให้กับทีมสำรอง รวมถึงถูกปล่อยให้ทีมอื่นยืมตัว และแล้วเขาก็ได้โอกาสลงเล่นเป็นตัวจริงในทีมชุดใหญ่ของ เซบีย่า ในวัย 27 ปี โดยที่ไฮไลท์สำคัญของเขาก็คือ แมตช์ที่ช่วยให้ทีมบุกไปยันเสมอกับ บาร์เซโลน่า 0-0 เมื่อปี 2011-12 ซึ่งเกมนี้เขาโชว์ซูเปอร์เซฟตลอดทั้งเกม แถมยังเซฟจุดโทษของ ลิโอเนล เมสซี่ ไว้ได้ในนาทีสุดท้าย

7) มิลิโวเย่ โนวาโควิช

ดาวยิงทีมชาติสโลเวเนีย เริ่มต้นด้วยการเป็นนักเตะสมัครเล่นให้กับทีมนอกลีกใน ออสเตรีย ด้วยวัย 20 ปี และสามารถทำประตูแรกในลีกสูงสุดของ ออสเตรีย เมื่อตอนอายุ 25 ปี และแน่นอนความสามารถของเขามีมากกว่านั้น ในที่สุดเขาก็มีโอกาสที่จะพิสูจน์ตัวเองในสุดยอดลีกอย่าง บุนเดสลีกา กับ โคโลญจน์ และเขาก็สามารถคว้ารางวัลดาวซัลโวไปได้สำเร็จในฤดูกาล 2007-08

6) ริคกี้ แลมเบิร์ต

เชื่อหรือไม่ว่า ริคกี้ แลมเบิร์ต ได้ลงเล่นใน พรีเมียร์ลีก เกมแรกเมื่อตอนอายุ 30 ปีในฤดูกาล 2012-13 ซึ่งก่อนหน้านั้นเขาต้องพเนจรเล่นกับทีมในลีกรอง และทีมนอกลีกอยู่หลายทีม เขาถูกเรียกติด ทีมชาติอังกฤษ ครั้งแรกเมื่ออายุได้ 31 ปี และยังยิงประตูได้ทันทีที่ได้รับโอกาสลงสนาม แถมยังได้โอกาสไปเล่นในศึก ฟุตบอลโลก 2014 อีกด้วย

5) เซร์คิโอ ตอร์เรส

เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว เซร์คิโอ ตอร์เรส ย้ายไปอยู่ที่ ปรเทศอังกฤษ พร้อมกับเงินเพียง 300 เหรียญ และต้องทำงานในโรงงานอิฐ เขาต้องต้องสู้กับความยากจน และความหิวโหย จนกระทั่งได้ทำงานในบริษัทหนึ่ง แต่เขาไม่เคยลืมความฝันในการเป็นนักเตะอาชีพแม้แต่น้อย

และในที่สุดเขาก็ได้ลงเล่นมากว่า 200 เกมให้กับ วีคอมบ์, ปีเตอร์โบโร่, ลินคอล์น และ ครอว์ลี่ย์ โดยหนึ่งในความภาคภูมิใจของเขาคือเกม ลีก คัพ ที่ได้ลงเล่นในสนาม "โอลด์ แทรฟฟอร์ด" ในการพบกับ แมนฯ ยูไนเต็ด

4) ลูก้า โทนี่

ลูก้า โทนี่ เคยเล่นให้กับสโมสรในลีก เซเรีย บี และ เซเรีย ซี มาแล้ว ก่อนที่จะย้ายไปร่วมทีม ปาแลร์โม่ (ตอนนั้นยังอยู่ เซเรีย บี) เมื่อปี 2003 เขาจัดการซัดไป 30 ประตูททันทีในฤดูกาลแรก และอีก 21 ประตูในปีถัดมา และแล้วเขาก็ผงาดขึ้นมาเล่นใน เซเรีย อา เขายิงไป 33 ประตูให้กับ ฟิออเรนติน่า และ 39 ประตูให้กับ บาเยิร์น บนเวที บุนเดสลีกา และมีส่วนสำคัญในการพา ทีมชาติอิตาลี คว้าแชมป์ ฟุตบอลโลก เมื่อปี 2006

3) ดาโด้ แปร์โซ

ดาโด้ แปร์โซ ดาวเตะชาวโครเอเชีย ย้ายไปเล่นในลีกรองของ ฝรั่งเศส เมื่อปี 1993 โดยที่เขาทำงานเป็นช่างซ่อมรถยนต์ไปด้วย จนกระทั่งอายุ 25 ปี เขาก็ได้ย้ายไปเล่นให้กับ โมนาโก เขามีส่วนสำคัญในการพาทีมเข้าชิง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อปี 2004 แถมพ่อหนุ่มคนนี้ก็ยิงคนเดียว 4 ประตูในเกมที่พาทีมถล่ม เดปอร์ติโบ ลา คอรุนญ่า และเขาคือกำลังสำคัญของ ทีมชาติโครเอเชีย ในศึก ยูโร 2004 และ ฟุตบอลโลก 2006

2) เจย์ เดเมริต

เจย์ เดเมริต เคยแต่เล่นฟุตบอลให้กับมหาวิทยาลัยใน สหรัฐอเมริกา แต่ก็ยังไม่สมหวังในการอยากเป็นนักเตะอาชีพ เขาจึงมุ่งหน้าไปที่ อังกฤษ โดยที่แทบจะไม่มีเงินติดตัวเลย เมื่ออายุ 23 ปีเขาได้เล่นให้กับทีมในระดับลีก ดิวิชั่น 9 และได้รับค่าเหนื่อยอยู่ที่ 40 ปอนด์ ต่อสัปดาห์ และในปีถัดมาเขาย้ายไปเล่นให้กับทีมในระดับลีก ดิวิชั่น 7 และที่นี่เขาได้ลงเล่นในเกมอุ่นเครื่องพบกับวัตฟอร์ด

และทำให้ย้ายไปร่วมกับทัพ "แตนอาละวาด" ด้วยสัญญา 1 ปีในฤดูกาล 2004-05 และที่เหลือเป็นประวัติศาสตร์สำหรับชีวติเขาก็ว่าได้ เขาได้กลับไปอยู่อเมริกาอีกครั้งด้วยการเล่นให้กับ แวนคูเวอร์ ไวท์แคปส์ ใน เมเจอร์ลีก ซอกเกอร์ และถูกเรียกติด ทีมชาติสหรัฐอเมริกา ชุดสู้ศึกฟุตบอลโลก 2010 อีกด้วย

1) มิโรสลาฟ โคลเซ่

ในขณะที่เล่น เอฟซี 08 ฮอมบูร์ก (ทีมระดับ ดิวิชั่น 5 ของเยอรมนี) เมื่อตอนอายุ 19-20 ปี มิโรสลาฟ โคลเซ่ ทำงานก่อสร้าง โดยมีหน้าที่ก่ออิฐ แต่ด้วยความเป็นสุดยอดดาวยิงก็ทำให้เขามาเป็นแข้งคนสำคัญของ ไกเซอร์สเลาเทิร์น, แวร์เดอร์ เบรเมน, บาเยิร์น มิวนิค และ ลาซิโอ

เขาเป็นจอมถล่มประตูอย่างแท้จริงของทั้งสโมสร และทีมชาติ เขาผ่านฟุตบอลโลกมาแล้ว 4 ครั้ง และมีส่วนช่วยให้ ทีมชาติเยอรมนี ผงาดขว้าแชมป์โลกเมื่อปี 2014 ที่ ประเทศบราซิล และที่นี่เองทำให้เขาผงาดขึ้นเป็นดาวยิงสูงสุดตลอดกาลของฟุตบอลโลกด้วยผลงาน 16 ประตู

ข้อมูลจาก blog.fieldoo.com

ภาพจาก AFP

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เพราะโชคชะตาลิขิตให้ชีวิตพลิกมาเป็นซูเปอร์สตาร์ อัปเดตล่าสุด 3 พฤศจิกายน 2559 เวลา 05:45:32 20,042 อ่าน
TOP