พรีวิวมหาศึก เอล กลาซีโก้ : บาร์เซโลน่า v เรอัล มาดริด

"เอล กลาซีโก้" ถือเป็นเกมซูเปอร์บิ๊กแมตช์ที่แฟนบอลทั่วโลกเฝ้ารอชมกันในทุก ๆ ฤดูกาล แต่ถ้าเทียบกับบิ๊กแมตช์อื่น ๆ ล่ะ นี่คือมหาศึกที่ใหญ่ที่สุดหรือเปล่า ? แล้วนาทีนี้ บาร์เซโลน่า หรือ เรอัล มาดริด ที่เจ๋งกว่ากัน ?

แล้วนอกเหนือจาก 2 ทีมอย่างใหญ่นี้ มีจะมีทีมไหนเจ๋งกว่านี้หรือเปล่า ? เราจะจะพาไปทำความรู้จักกับศึก "เอลกลาซีโก้" ในแง่ของความนิยมของแฟนบอลทั่วโลกให้มากขึ้นกัน

ตัวเลขของคนที่ดู เอล กลาซีโก้ ผ่านทาง ทีวี :

เมื่อถึงเวลาของ "เอล กลาซีโก้" ผู้คนทั้งโลกก็เฝ้ารอชม และการต่อสู้ระหว่าง บาร์เซโลน่า กับ เรอัล มาดริด เมื่อเดือนเมษายน 2016 ได้ถูกออกอากาศมากกกว่า 90 ประเทศทั่วโลก มีผู้ชมกว่า 400 ล้านคน ซึ่งในอเมริกาพบว่ามีผู้ชมผ่านทางทีวีถึง 1.9 ล้านคน

เอล กลาซีโก้ v ซูเปอร์โบล์ว :

บิ๊กแมตช์นัดหยุดโลกอย่าง "เอล กลาซีโก้" ถือเป็นบิ๊กแมตช์ที่กีฬาประเภทอื่นหาจะยิ่งใหญ่เทียบเท่า แต่ถ้าเป็นกีฬาอเมริกันฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ และโด่งดังที่สุดของฝั่งอเมริกาอย่าง "ซูเปอร์โบล์ว ครั้งที่ 50" ล่ะซึ่งค่าตั๋วถือว่าแพงกว่ามาก ศึกไหนจะมีมูลค่าสูงกว่ากัน เราไปดูกัน

ผู้ชมในสนาม : เอล กลาซีโก้ - 90,264 คน v ซูเปอร์โบล์ว ครั้งที่ 50 - 71,088 คน

เฉลี่ยราคาค่าตั๋ว : เอล กลาซีโก้ - 2,600 เหรียญสหรัฐ v ซูเปอร์โบล์ว ครั้งที่ 50 - 4,841 เหรียญสหรัฐ

เฉลี่ยผู้ชมผ่านทางทีวีทั่วโลก : เอล กลาซีโก้ - 400 ล้านคน v ซูเปอร์โบล์ว ครั้งที่ 50 - 160 ล้านคน

จำนวนผู้ชมในสนามเทียบกับ บิ๊กแมตช์ อื่น ๆ :

เมื่อมองที่ตัวเลขของผู้ชมในสนาม "เอล กลาซีโก้" ถือว่าเป็นเกมที่มีผู้ชมในสนามเรียกได้ว่ามหาศาล และเทียบกับการแข่งขันรายการใหญ่ ๆ ที่ผ่านมา เกมระหว่าง บาร์ซ่า และ มาดริด จะมีผู้ชมเฉลี่ยมากกว่าถึง 30,000 คน โดยในเกมแรกที่ "ซานติเอโก้ เบอร์นาบิว" มีผู้ชมในสนามสูงถึง 81,044 คน และในเกมที่สองที่ "คัมป์ นู"  มีผู้ชมในสนามสูงถึง 90,264 คน

บิ๊กแมตช์ที่มีผู้ชมในสนามมากที่สุด

เอล กลาซีโก้ : 90,264 คน

ยูโร 2016 นัดชิงชนะเลิศ : 75,868 คน

ฟุตบอลโลก 2014 นัดชิงชนะเลิศ : 74,738 คน

แมนฯ ยูไนเต็ด v แมนฯ ซิตี้ : 64,943 คน

แมนฯ ยูไนเต็ด v ลิเวอร์พูล : 59,606 คน

โบคา จูเนียร์ส v ริเวอร์เพลท : 55,344 คน

มูลค่าสโมสร :

"ฟอร์บส์" สื่อด้านการเงินชื่อก้องโลก ได้ประกาศทีมกีฬามูลค่าสูงสุดในโลก ปี 2016 ซึ่งอันดับ 1 ตกเป็นของ ดัลลัสคาวบอยส์ ทีมชื่อดังแห่งศึก อเมริกันฟุตบอล เอ็นเอฟแอล ส่วนอันดับสองเป็นของ เรอัล มาดริด ด้วยมูลค่า 3.6 พันล้านเหรีญสหรัฐ และทีมคู่รักคู่แค้นอย่าง บาร์เซโลน่า ตามมาเป็นอันดับ 3 ด้วยมูลค่า 3.5 พันล้านเหรีญสหรัฐ

การซื้อขายนักเตะ :

ทั้ง บาร์เซโลน่า และ เรอัล มาดริด ไม่เพียงแต่ขับเคี้ยวกันในสนามเพียงอย่างเดียว แต่ในตลาดนักเตะทั้งสองทีมนั้นก็ไม่มีใครยอมใครแน่นอน ซึ่งทั้งสองทีมซื้อผู้เล่นเป็นสถิติโลกรวมกันถึง 8 ครั้งด้วยกัน นักเตะที่ค่าตัวแพงที่สุดของ "บาร์ซ่า" ก็คือ เนย์มาร์ ที่มีค่าตัว 94.6 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนของ "ราชันชุดขาว" ก็คือ แกเร็ธ เบล ที่มีค่าตัวสูงถึง 108.3 ล้านเหรียญสหรัฐ

ค่าเหนื่อยของผู้เล่น :

แน่นอนว่าถ้าคุณเล่นให้กับสองสโมสรนี้คุณจะต้องเป็นนักเตะที่ร่ำรวยแน่นอน รายงานจาก Sporting Intelligence survey ระบุว่า บาร์เซโลน่า อยู่ในอันดับที่ 5 ของทีมที่จ่ายค่าเหนื่อยให้กับผู้เล่นสูงที่สุดในโลก 143.4 แสนเหรียญสหรัฐต่อสัปดาห์ ส่วนทาง เรอัล มาดริด อยู่ในอันดับที่ 9 ซึ่งตัวเลขอยู่ที่ 128.2 แสนเหรียญสหรัฐต่อสัปดาห์

ฐานแฟนบอลทั่วโลก :

ฐานแฟนบอลทั่วโลกของแต่ละทีมขึ้นอยู่กับการสำรวจยอดขายเสื้อล่าสุด ซึ่งทั้ง บาร์เซโลน่า และ เรอัล มาดริด คงต้องยอมแพ้ แมนฯ ยูไนเต็ด ในเรื่องนี้ ดูได้จากตัวเลขด้านล่าง

ยอดขายเสื้อทั่วโลก

แมนฯ ยูไนเต็ด : 1.75 ล้านตัว

เรอัล มาดริด : 1.65 ล้านตัว

บาร์เซโลน่า : 1.28 ล้านตัว

โซเชียลมีเดีย :

ทั้งสองทีมถือว่ามีแฟนบอลติดตามในโลกออนไลน์อย่างล้นหลาม นอกจากสโมสรเองแล้ว ซูเปอร์สตาร์ประจำทีมก็มีแฟนบอลติดตามจำนวนมากเช่นกันอย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ มีผู้ติดตามบน เฟสบุ๊ค, ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม รวมกันถึง 250 ล้านคน ขณะที่ฝั่ง เนย์มาร์ ก็ไม่น้อยหน้ามีผู้ติดตามรวมกันถึง 148 ล้านคน

ความนิยมบนโลกออนไลน์ :

เฟสบุ๊ค : บาร์เซโลน่า 94.7 ล้าน v เรอัล มาดริด 92.7 ล้าน

ทวิตเตอร์ : บาร์เซโลน่า 18.9 ล้าน v เรอัล มาดริด 21.1 ล้าน

เทียบความสำเร็จ :

เมื่อมาถึงเรื่องความสำเร็จ ทั้งสองทีมถือว่ากวาดแชมป์มาได้อย่างมากมาย ถ้านับเฉพาะรายการใหญ่อย่าง ลา ลีกา และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ทาง เรอัล มาดริด เก็บไป 32 สมัย และ 11 สมัยตามลำดับ ในขณะที่ บาร์เซโลน่า ไล่หลังอยู่ 24 สมัย และ 5 สมัยตามลำดับ

บาร์เซโลน่า คว้าแชมป์รวมทั้งหมด 77 ครั้ง, โกปา เดล เรย์ คือแชมป์ที่ได้มากที่สุด 28 สมัย

เรอัล มาดริด คว้าแชมป์รวมทั้งหมด 80 ครั้ง, ลา ลีกา คือแชมป์ที่ได้มากที่สุด 32 สมัย

มูลค่าสนาม :

ทั้งสองสโมสรมีแผนสำหรับการปรับปรุงรังเหย้าของพวกเขาครั้งใหญ่ โดยทาง บาร์เซโลน่า เตรียมทุ่มเงิน 390 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อปรับปรุง "คัมป์ นู" ใหม่พร้อมใช้ภายในฤดูกาล 2020-21 และตามกำหนดการที่ใกล้เคียงกัน เรอัล มาดริด ก็เตรียมทุ่มเงิน 400 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อปรับปรุง "ซานติเอโก้ เบอร์นาบิว" เรียกได้ว่าไม่มีน้อยหน้ากัน

ข้อมูลจาก espnfcasia.com

ภาพจาก AFP

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
พรีวิวมหาศึก เอล กลาซีโก้ : บาร์เซโลน่า v เรอัล มาดริด อัปเดตล่าสุด 3 ธันวาคม 2559 เวลา 13:16:58 10,724 อ่าน
TOP