ประวัติศาสตร์จะเปลี่ยนไปถ้าการย้ายทีมเหล่านี้เกิดขึ้นจริง

อดีตดาวรุ่งพุ่งแรงอย่าง จอช แม็คเอคราน ออกมาบอกว่าครั้งหนึ่งเขาเคยถูก เรอัล มาดริด ตามจีบแบบสุด ๆ ให้ไปร่วมทีม ทว่าเขาเลือกไม่ย้ายไปเพราะรักเชลซี ส่วนทาง โจอี้ บาร์ตัน ก็เคยบอกว่าเขาเคยเจรจาเรื่องย้ายไปอาร์เซน่อลกับ อาร์แซน เวนเกอร์ อยู่หนหนึ่งเมื่อปี 2011 แต่ทุกอย่างก็เป็นอันต้องพับไป

แน่นอนว่าหากในตอนนั้น จอช แม็คเอคราน วัย 18 ปี เลือกย้ายไปอยู่กับ เรอัล มาดริด ทุกวันนี้เขาอาจจะกลายเป็นซุปตาร์ลูกหนังไปแล้วก็ได้ ไม่ใช่เพียงแค่นักเตะดาวร่วงกับเบรนท์ฟอร์ด และหาก โจอี้ บาร์ตัน ย้ายไปอาร์เซน่อลจริง ๆ เขาก็คงไม่ใช่เพียงแค่นักเตะพเนจรคนหนึ่งที่ต้องย้ายทีมไปเรื่อย

เปิดปมการย้ายทีมที่เกือบเกิดขึ้นจริงในครั้งอดีต

1) จอช แม็คเอคราน - เรอัล มาดริด, แมนฯ ยูไนเต็ด, 2010

จอช แม็คเอคราน มิดฟิลด์วัย 23 ปีของเบรนท์ฟอร์ด ที่ครั้งหนึ่งเขาเคยถูกยกย่องว่าที่แหละคือ "นิว พอล แกสคอยน์" เมื่อครั้งยังเป็นดาวรุ่งอยู่กับเชลซี และเขาก็ถูก เรอัล มาดริด ตามจีบอย่างจริงจัง แถมยังมีแมนฯ ยูไนเต็ด อีกด้วย ทว่าเขากลับตอบปฏิเสธทั้งสองยอดทีมของโลกด้วยเหตุผลที่ว่า "ผมคือแฟนของเชลซี และผมจะอยู่ที่นี่ต่อไป"

แต่พอมาถึงทุกวันนี้ จอช ได้เพียงแต่คิดกับตัวเองว่าหากย้อนเวลากลับไปได้เขาจะตัดสินใจเลือกไปวัดดวงกับ เรอัล มาดริด ดูสักรอบหนึ่ง

2) โรแบร์โต้ คาร์ลอส - แอสตัน วิลล่า, 1995

ครั้งหนึ่ง โรแบร์โต้ คาร์ลอส เคยมาอุ่นเครื่องที่อังกฤษในนามทีมชาติบราซิล และมาแข่งขันในรายการ อัมโบร คัพ ซึ่งเจ้าตัวยิงประตูแรกให้กับทีมชาติได้ด้วย และมีสโมสรจากอังกฤษคือแอสตัน วิลล่า ติดต่อไปยัง สโมสรของเขาเพื่อขอซื้อตัว ทว่าทุกอย่างไม่เกิดขึ้นเนื่องจากว่า ยูนิเอาฯ เรียกค่าตัวแพงเกินไป

"ผมยังจำได้ดีว่าตอนนั้นมีสโมสรจากเบอร์มิงแฮมติดต่อมาเพื่อขอซื้อตัวผม แต่ว่าผมก็ไม่รู้จักพวกเขาหรอก และผมไม่รู้ด้วยว่าคือแอสตัน วิลล่า แต่ทุกอย่างก็ต้องพับไปเพราะว่ายูนิเอาเรียกค่าตัวของผมมากเกินไปล่ะมั้ง" อดีตแบ็คซ้ายเท้าฉมัง เผย

3) ดีเอโก้ มาราโดน่า - เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด, 1978

เหตุการณ์การย้ายทีมที่เกือบจะพลิกโฉมประวัติศาสตร์ลูกหนังมากที่สุดก็คือ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ที่เกือบจะได้ตัว ดีเอโก้ มาราโดน่า ไปร่วมทีมเมื่อปี 1978 โดยในช่วงเวลาดังกล่าว แฮร์รี่ แฮมแลม กุนซือของทีมดาบคู่ได้รับรายงานจากทีมงานแมวมองว่าไปเจอเด้กอายุ 17 ปี ที่อาร์เจนตินาฝีเท้าจัดมาก และเขาเองก็พร้อมที่จะจ่ายเงิน 200,000 ปอนด์ ดึงตัวมาร่วมทีม

ทว่าทุกอย่างต้องพังพินาศลงเมื่อเมื่อสโมสรไม่ยินยอมที่จะจ่ายเงินออปชั่นบางอย่างเพิ่มเติมในดีลนี้ แน่นอนว่าเรื่องราวนี้ยังคงเป็นการตัดสินใจที่อยู่ประวัติศาสตร์ของทีมดาบคู่มาจนจวบปัจจุบัน

4) จอร์จี้ ฮาจี้ - นิวคาสเซิล, ปลายยุค 90'

ยอดเพลย์เมคเกอร์แห่งคาบสมุทรบอลข่านอย่าง จอร์จี้ ฮาจี้ เคยลงเล่นให้กับทั้ง เรอัล มาดริด และบาร์เซโลน่า แถมยังลงรับใช้ชาติมากกว่า 125 นัด แน่นอนว่าครั้งหนึ่งเขาเคยเกือบได้มาเล่นกับนิวคาสเซิล ทว่าเป็นช่วงที่เขาผ่านจุดพีกของอาชีพไปแล้ว

จอร์จี้ ฮาจี้ เผยว่า "ตอนที่ เควิน คีแกน คุมนิวคาสเซิลเขาได้เจรจากับผมนะ และทุกอย่างกำลังจะผ่านไปด้วยดี มันจะจบอยุ่แล้วแต่ผมก็ไม่สามารถบอกได้ว่าดีลนั้นมันล่มลงได้อย่างไร"

ลองคิดกันดูเล่น ๆ ว่าหากในตอนนั้นทีมสาลิกาคงที่มี ดาวิด ชิโนล่า อยู่ในทีม แถมยังมี จอร์จี้ ฮาจี้ มายืนอีกคน อื้อหือ!! มันจะเป็นยังไง

5) โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ - แบล็คเบิร์น, 2010

ครั้งหนึ่งในปี 2010 ทีมงานของทีมกุหลาบไฟได้ไปสนใจกองหน้าดาวรุ่งของ เลช พอซนัน ที่สามารถโชว์ฟอร์มได้เป็นอย่างดี แน่นอนว่าพวกเขาได้เชื้อเชิญให้เด้กหนุ่มชาวโปลิชรายนั้นมาร่วมทดสอบฝีเท้ากับทีม แต่เหมือนโชคชะตาเล่นตลก เพราะว่าเครื่องบินที่เขาจะบินมาอังกฤษดันถูกแคนเซิลไฟลท์ และเขาก็ไม่ได้รับโอกาสให้มาอีกเลย

"แน่นอนว่า โรเบิร์ต ได้รับการเชื้อเชิญจากแบล็คเบิร์นให้ไปร่วมทดสอบฝีเท้ากับพวกเขาน่าจะสักราส 1-2 อาทิตย์นะ แต่มันตลกมากตรงที่เครื่องบินของเขาที่จะไปอังกฤษดันถูกแคนเซิล ให้ตายเถอะ !! เขาแทบบ้าที่กับโอกาสที่หลุดลอยไปในตอนนั้น และหากจะให้ขับรถไปมันก็ไม่ใช่มั้ยล่ะ" เชซารี่ คูร์ชาสกี้ เอเย่นต์ของเลวานดอฟสกี้ เผย

จากนั้น โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ก็ย้ายไปอยู่กับ ดอร์ทมุนด์ และเรื่องราวของเขาก็ได้เริ่มต้นขึ้น

6) ซีเนอดีน ซีดาน - แบล็คเบิร์น, 1995

นี่เป็นการพลาดที่ร้ายแรงที่สุดของแบล็คเบิร์นหนักยิ่งกว่าที่พวกเขาพลาดได้ตัว โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ เสียอีก เพราะว่าหลังจากที่ทีมกุหลาบไฟคว้่าแชมป์พรีเมียร์ลีกมาครองได้สำเร็จนั้น ในช่วงตลาดซัมเมอร์ เคนนี่ ดัลกลิช ก็ได้ร่างแผนการเสริมทีมเอาไว้มากมาย โดยเป้าหมายของเขาคือเด็กหนุ่มจากจากบอร์กโดซ์อย่าง ซีเนอดีน ซีดาน

แน่นอนว่าเขาได้ยื่นเรื่องขออนุมัติไปยัง แจ็ค วอล์คเกอร์ ประธานสโมสรในตอนนั้น และสิ่งที่เขาได้รับการตอบกลับมาก็คือ

"นายจะไปเอา ซีเนอดีน ซีดาน มาเพื่ออะไร เราก็มี ทิม เชอร์วู้ด อยู่แล้วทั้งคน !!" ผ่าง ผ่าง ผ่าง โคตรพีก

7) ริวัลโด้ - โบลตัน, 2004

โบลตัน ของ แซม อัลลาร์ไดซ์ เกือบจะได้ตัว ริวัลโด้ มาร่วมทีมในปี 2004 หลังจากที่ตัวนักเตะเองเพิ่งจะได้รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของฟุตบอลโลก 2002 มาหมาด ๆ 

ริวัลโด้ กล่าวว่า "มันเป็นอะไรที่ตัดสินใจได้ยากนะ โบลตันยื่นข้อเสนอที่ดีเข้ามาให้ผมทั้งเรื่องเงิน และโอกาสในการลงสนาม พวกเขาเป็นทีมที่ยอดเยี่ยม ทั้งบรรยากาศ ทั้งแฟนบอล และสนาม ซึ่งหากผมย้ายไปผมคงอยู่ที่แมนเชสเตอร์"

แต่ก็น่าเศร้าที่ข้อเสนอทุกอย่างไม่สามารถโน้มน้าวใจ ริวัลโด้ ที่ต้องการลงเล่นฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้ สุดท้ายเขาเลือกไปอยู่กับ โอลิมเปียกอส

8) มิคาเอล เอสเซียง - เบิร์นลี่ย์, 2009

ย้อนไปในปี 2009 เบิร์นลี่ย์เกือบจะได้ตัว มิชาเอล เอสเซียง มาร่วมทีมแล้ว โดยเจ้าของทีมคนเดิมอย่าง เบรนแดน ฟลัด ได้เผยว่าเขานั้นติดให้เอสเซียงมาทดสอบฝีเท้ากับสโมสรสักหน่อย เพราะว่าเขาเจ็บไปนาน และสโมสรก็อยากได้เขามาก ๆ แต่ว่าด้วยค่าเหนื่อยที่เอสเซียงเรียกร้องมาทำให้ทุกอย่างต้องจบลงไป

9) อังเดร เชฟเชนโก้ - เวสต์แฮม, 1995

แฮร์รี่ เร้ดแน็ปป์ ได้เล่าถึงช่วงเวลาหนึ่งในช่วงปลางยุค 90' ว่าเขาเองเคยอยากได้ตัว อังเดร เชฟเชนโก้ ในวัย 19 ปีมาร่วมทีมาก ๆ แต่ว่าทุกอย่างต้องพลาดไปแบบน้ำตาตกใน

"ในตอนนั้นเราได้ยืมตัวอังเดรมาอยู่กับเราราว ๆ 3-4 วันเห็นจะได้ และเขาก็ไม่ได้โชว์ฟอร์มเข้าตาผมมากมายนัก แต่ผมมีเซยส์ว่าเขาจะดีกว่านี้ได้แน่ ๆ และผมบอกกับตัวเองว่าผมต้องการไอ้เด้กยูเครนคนนี้มาอยู่กับทีม แต่ว่าติดอย่างเดียวคือค่าตัว 1 ล้านปอนด์ของเขา และผมไม่มีเงินจริง ๆ ตอนนั้น ทำให้เราพลาดเขาไป ผมเสียใจมาจนทุกวันนี้" ขรัวเฒ่าแห่งวงการฟุตบอลอังกฤษ เผย

10) โอลิวิเยร์ ฌิรูด์ - มิดเดิ้ลสโบรช์ หรือ เซลติก, 2011

เมื่อปี 2015 โอลิวิเยร์ ฌิรูด์ ได้ออกมาเผยว่าเขาได้บอก มงต์เปลลิเยร์ ต้นสังกัดเก่าของเขาให้ยับยั้งการเจรจาปล่อยตัวเขาไปยัง เดอะ โบโร่ เมื่อครั้งอดีต

"ตอนนั้นมีข้อเสนอเข้ามาหลายทีมมาก ๆ และทางมงต์เปลลิเยร์คัดแล้วเหลือ 3 ทีมคือ โบโร่, เซลติก แล้วก็ อาร์เซน่อล แน่นอนผมบอกสโมสรไปว่า คุณตัดสองทีมแรกไปเลย เพราะว่า อาร์เซน่อล คือหนึ่งในใจของผม"

11) โรนัลดินโญ่ - เซนต์ เมียร์เรน, 2001

ก่อนที่ โรนัลดินโญ่ จะย้ายจาก เกรมิโอ ไปอยู่กับ เปแอสเช ด้วยค่าตัว 6 ล้านปอนด์ มีหลายทีมต้องการตัวเขา และเซนต์ เมียร์เรน ที่จัดได้ว่าเป็นยักษ์ใหญ่ของลีกสก็อตติชก็ต้องการตัวเขาไปร่วมทีม

"พวกเราได้คุยกับโรนัลดินโญ่นะ แต่ว่ามันมีปัญหานิดหน่อยกับทางเกรมิโอในตอนนั้นพอดี" ทอม เฮนดรี้ กุนซือของเซนต์ เมียร์เรน ในยุคนั้นเผย

"แน่นอนว่าเขาเกือบจะมาเล่นให้เราก่อนไปอยู่กับเปแอสเชนะ แต่สุดท้ายเราก็แค่ได้คุย นั่นแหละคือสิ่งที่เกิดขึ้น"

ขอบคุณข้อมูลจาก : mirror.co.uk

ภาพข่าว : AFP